การเป็นคนที่ตั้งใจจะกลับมาเขียนเล่าเรื่องการท่องเที่ยว จริงๆ ควรเป็นคนที่ขยันเขียนบันทึกระหว่างการเดินทาง ซึ่งนั่นไม่ใช่ฉัน (ซะงั้น) เคยพยายามเขียนหลายรอบก็พ่ายแพ้ คิดหาเหตุผลก็ว่าคงเพราะไม่ได้ใช้การเขียนมานานแล้ว เวลาเริ่มต้นเขียนจะรู้สึกเมื่อยมือ ชีวิตอยู่ด้วยการพิมพ์มากี่สิบปีแล้วล่ะเนี่ย ทีนี้วิธีที่จะจำว่าตัวเองทำอะไรไปบ้างในแต่ละวัน เลยไปอยู่ที่อัพเดทในเฟซบุ๊คส่วนตัว และวันนี้ก็เป็นวันที่ฉันลงไว้ว่า ไปเดินตลาด ถ่ายรูปกราฟฟิตติ แล้วตบท้ายด้วยกินล็อบสเตอร์ตามยูทูบเบอร์ที่ดูก่อนมาลอนดอนรอบนี้
วันนี้ลอนดอนก็ไม่ทำให้ต้องเสียชื่อ นั่นคือเมฆฝนนำน้ำปรอยๆ ตกให้ชื่นใจ แล้วก็ตกบ้าง ไม่ตกบ้างไปตลอดวัน (ตามสบายค่ะ) ฉันนัดเจอกับแหนดแถว Shoreditch ซึ่งตามที่หาข้อมูลมาคือมี Street Art และ Graffiti ให้ได้ดูอยู่หลายที่ แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังนะ คือไม่ได้หาตำแหน่งอะไรเป็นพิเศษ คือเดินจาก Shoreditch มุ่งหน้าไป Columbia road flower market ก็ผ่านอยู่หลายภาพให้ได้ถ่ายรูปคู่
สำหรับตลาดดอกไม้โคลอมเบียนี่ฉันก็ไม่ใช่สาวชอบดอกไม้อะไรขนาดนั้น แต่น้องฟางที่เป็นน้องที่ทำงานซึ่งเคยเรียนที่อังกฤษแนะนำว่าต้องไป ซึ่งตลาดนี้ก็มีความเก่าแก่ ขายกันมามากกว่าร้อยปี โดยแต่ก่อนก็เป็นตลาดขายอาหาร แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นดอกไม้ ซึ่งขายกันวันเสาร์แล้วก็ย้ายมาขายทุกวันอาทิตย์แทน ก็นั่นแหละ เหมือนตารางเวลาการเที่ยวจะเป็นใจ ให้วันว่างในลอนดอนเป็นวันอาทิตย์ มีคนแนะนำมาด้วยก็ต้องไปนะ
ตอนแรกฉันนึกว่าจะมีอย่างอื่นด้วย แต่ไปๆมาๆ ก็เน้นดอกไม้ตลอดทางเดินเลยจริงๆ เป็นดอกไม้เมืองหนาวด้วย ก็แปลกตาดี บางชนิดเคยเห็นในไทยแต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเท่าที่เห็นที่นี่ ธรรมชาติอะเนาะ ถูกสร้างให้เหมาะกับที่ไหน ก็งดงามสมกับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
หลังจากนั้นเราก็ไป Bricklane ซึ่งวันอาทิตย์จะมีของมาขายตลอดทาง เป็นพวกของมือสอง ของวินเทจบ้างอะไรบ้าง แถมที่นี่มีร้านขายเบเกิลไส้เนื้อที่เขาว่าเราควรต้องไปลอง แต่ฉันก็ไม่ได้ลองเพราะยูทูบเบอร์ที่ตามดูบอกว่าเนื้อเค็มมากๆ ก็เลยหวาดๆ แล้วเราก็เดินไปโผล่ Spitalfields Market ที่เป็นตลาดในร่มที่ใหญ่มากๆ มีส่วนที่ขายอาหารและที่ไม่ใช่อาหาร อาหารที่นี่ดูน่าทานมาก แต่เราก็ไม่ได้กินเพราะไปกินจากตลาดตรงอื่นมาก่อนแล้ว
เดินวนเวียนแถวลอนดอนตะวันออกแล้วก็เลยนั่ง tube ไปเดินดูแวะช็อปปิ้งที่ Canary Street ซึ่งแหนดก็ชี้ให้ดูร้านหมวกของ New Era ที่แหนดบอกว่าเป็นที่นิยม ตอนแรกฉันเห็นแหนดใช้หมวกที่ไม่ได้เอาสติ๊กเกอร์ยี่ห้อออก ก็งงๆ ว่าตั้งใจหรือลืม จนแหนดมาอธิบายว่าวัยรุ่นเขาฮิตกันแบบนี้จ้า ฉันก็เลยก็ได้ กระชากวัยสักหน่อย ตั้งใจจะซื้อ แต่ราคานี่อืม พอคิดว่าหมวกแก๊ปแค่นี้ราคาเท่านี้ ก็เลยมองหาไอ่ที่เขาลดในร้าน แล้วก็ได้มาแบบราคาลดที่พอใจซื้อได้ และเป็นอย่างที่อยากได้ด้วย
พวกเราตัดสินใจจบวันด้วยอาหารมื้อแพง น่าจะแพงสุดในการเที่ยวครั้งนี้ของฉันแล้ว เพราะฉันขนอาหารมาจากไทยเยอะมาก ตั้งใจจะไม่เสียเงินให้อาหารที่อังกฤษเพราะไม่ประทับใจอาหารในอังกฤษเลยของรอบก่อนที่มา (ยกเว้น English Breakfast กับ Scone นะ) เอ่า พล่ามมาสามบรรทัด อาหารที่เลือกมาจ่ายแพงก็คือ Burger and Lobster ซึ่งมีอยู่หลายสาขา แถมไปเปิดในไทยด้วย แต่แน่นอนเพื่อความเท่ (หรา) เราเลยต้องมากินที่อังกฤษสิฮะ
ฉันสั่งแบบขนมปังใส่ล็อบสเตอร์ (ตามยูทูบเบอร์ค่ะ) ส่วนแหนดสั่งแบบล็อบสเตอร์กับสลัด พอลองกินก็ค้นพบว่า มันก็อร่อยนะ แต่แอบเลี่ยนนี่ขนาดฉันชอบกินขนมปัง ยังรู้สึกเลี่ยน แล้วก็เสียดายความกรอบ เนื้อแน่นของล็อบสเตอร์ที่น่าจะเจอน้ำจิ้มซีฟู้ดพี่ไทย คงจะเหมาะสมกันที่สุด
นั่นแหละ ความฟินในการกินลอบสเตอร์ไม่ได้ตอบมาเท่าที่หวัง จริงๆ แหนดก็เตือนแล้ว แต่ก็ไม่เชื่อ ก็เห็นน้องยูทูบเบอร์ทานแล้วก็ดูน่ากิน ทำให้คิดได้ว่า คนเราก็ชอบไม่เหมือนกันนะ แล้วก็พาลไปคิดเสียดายเบเกิลไส้เนื้อเค็มที่น้องเขาว่าเค็มไปหน่อย เอาจริงๆ ฉันอาจจะชอบก็ได้ ก็ว่านะ โทษใครไม่ได้ ก็โทษตัวเอง ตัดสินใจเอง เป็นบทเรียนว่า ประสบการณ์ใครก็ประสบการ์มัน เราก็ต้องเลือกเองนะจ๊ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in