จังหวัดฟุกุอิ
มีจังหวัดชื่อนี้ด้วยเหรอ?
ใช่แล้วครับ คุณไม่ได้ฟังผิดอย่างแน่นอน นี่คือชื่อจังหวัดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่อาจจะไม่คุ้นหูคนไทยเท่าโตเกียวหรือโอซาก้า แต่ 'จังหวัดฟุกุอิ' ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหล และน่าไปไม่แพ้สถานที่ใดในญี่ปุ่นเลย
หากกล่าวถึงประวัติของสถานที่แห่งนี้ แต่เดิมในอดีตจังหวัดฟุกุอิมีชื่อว่า ‘เมืองเอจิเซ็น’ และปกครองภายใต้อำนาจของไดเมียวตระกูลอาซากุระ ต่อมา ‘โอดะ โนบุนากะ’ ได้ยึดอำนาจและปราบปรามตระกูลอาซากุระ เมืองเอจิเซ็นจึงกลายเป็นศูนย์กลางการบริหารงานท้องถิ่นและเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นในฐานะเมืองปราสาทของ ‘ชิบาตะ คัทสึอิเอะ’ แม่ทัพคนสำคัญของโอดะ โนบุนากะและเป็นเจ้าครองแคว้นคนที่ 16
ภายหลังสงครามเซกิงาฮาระ เมืองเอจิเซ็นได้ถูกปกครองโดยตระกูลมัตสึไดระซึ่งเป็นเครือญาติเดียวกันกับโชกุน 'โทคุกาวะ อิเอยาสึ'
ฟุกุอิเป็นจังหวัดที่เดินทางไปได้อย่างสะดวกพอสมควร หากโดยสารด้วยรถไฟจะใช้เวลาเดินทางดังนี้
ต่อจากนี้เราจะเริ่มแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิ้งในฟุกุอิกันเลย
แต่ก่อนจะเข้าสู่เนื้อความหลัก เราขออนุญาตให้เครดิตกับทีมงานคุณภาพ fromJapan ที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆแบบนี้มาโดยตลอด และถ้าหากเพื่อนๆอยากอ่านบทความที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและความรู้แบบนี้ ก็สามารถไปตำกันได้ที่ Official Website: fromJapan.info กันได้เลย~!
จังหวัดฟุกุอิ (Fukui) เป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคจูบุ ตั้งอยู่ทางตอนบนของเกียวโตและหันหน้าออกสู่ทะเลญี่ปุ่น ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของจังหวัดฟุกุอินั้นรายล้อมไปด้วยภูเขา ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยภูมิหลังและเรื่องราวมากมายที่น่าค้นหา
ศาลเจ้าเคย์ฮิหรือ 'เคย์ซัง' นั้นกล่าวกันว่าได้ถูกสร้างขึ้นในยุคไทโฮที่ 2 (ค.ศ.702) เป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้แก่เทพผู้ดูแลเส้นทางสายโฮคุริคุทั้งเจ็ด
จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือเสาโทริอิขนาดใหญ่ ซึ่งนับว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรม เสาโทริอิของศาลเจ้าเคย์ฮิมีความสูงประมาณ 11 เมตร ถือเป็น 1 ใน 3 เสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ร่วมกันกับเสาโทริอิที่ศาลเจ้าคาสึกะ (จังหวัดนารา) และศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (จังหวัดฮิโรชิม่า)
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ศาลเจ้าฮาคุซังเฮเซ็นจิ (Hakusan Heisenji) ได้รับการขนานนามว่าเป็นสถานที่แห่งความเชื่อมาเป็นเวลากว่า 1,300 ปี สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พักของพระนักรบ หรือโซเฮย์ (僧兵) กว่า 8,000 รูป ซึ่งลักษณะของโซเฮย์คือจะโพกผ้าที่ศีรษะและใบหน้า แล้วมีอาวุธเป็นง้าว ถ้านึกอะไรไม่ออกนึกถึงพระนักรบเบ็งเคย์ก็ได้ครับ
ศาลเจ้าฮาคุซังเฮเซ็นจิเป็นเมืองศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในสมัยก่อน ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีประวัติน่าสนใจ เริ่มแรกที่นี่ถูกสร้างเป็นศาลเจ้าชินโตเพื่อสักการะบูชาเทพเจ้าแห่งภูเขาฮาคุซัง แต่ต่อมาได้ถูกบูรณะเป็นวัดในช่วงที่ชินโตกับพุทธถูกนับถือไปพร้อมๆกัน (ชินบุทสึ) และในที่สุดด้วยนโยบายการแบ่งแยกชินโตจากพุทธ ที่นี่จึงกลับมาเป็นศาลเจ้าอีกครั้งในยุคเมจิจวบจนปัจจุบัน
จุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่คือ ทางเดินหินที่ยังคงสภาพสมบูรณ์แม้กาลเวลาจะผ่านมาร่วม 1,000 ปีแล้ว
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum) ตั้งอยู่ในเมืองคัตสึยามะ จังหวัดฟุกุอิ เป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกด้วยเช่นกัน
นอกจากจะมีการจัดแสดงฟอสซิลหรือหุ่นจำลองไดโนเสาร์แล้วนั้น พิพิธภัณฑ์นี้แห่งก็ยังมีโซนแสดงการทำงานเกี่ยวกับฟอสซิล เช่น ขั้นตอนการดูแลฟอสซิลหลังจากที่ขุดพบ ไปจนถึงขั้นตอนการเก็บรักษาและนำมาจัดแสดงในที่สุด นอกจากนี้ยังมีห้องแสดงภาพยนตร์สารคดีอีกด้วย
อ่านข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิได้ที่นี่ > ท่องโลกล้านปีที่พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จังหวัดฟุกุอิ
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
พิพิธภัณฑ์ท่าเรือแห่งมนุษยธรรมสึรุกะ (Port of Humanity Tsuruga Museum) เป็นสถานที่บอกเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของท่าเรือสึรุกะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นท่าเรือแห่งมนุษยธรรม เหตุผลที่ได้รับฉายานามนี้มาก็เนื่องมาจากว่าท่าเรือแห่งนี้เคยเปิดรับผู้ที่หนีภัยสงครามจากโปแลนด์ รวมถึงชาวยิวที่หนีภัยจากนาซีช่วงยุคสงครามโลก (โดยผู้ออกคำสั่งอนุญาตลี้ภัยในตอนนั้นคือทูตญี่ปุ่นนามว่า Sugihara Chiune) คุณสามารถศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้นได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
พิพิธภัณฑ์สิ่งทอ Yume Ole Katsuyama นั้นแต่เดิมเป็นโรงงานทอผ้าที่เก่าแก่มาก โดยดำเนินกิจการสืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคเมจิ และเป็นโรงงานมาจนถึงปี 1998 โดยในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ผู้เข้าชมสามารถลองเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเพื่อเปิดประสบการณ์ทอผ้าแบบยุคโบราณได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทอผ้า ถักใยไหม เป็นต้น
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ปราสาทมารุโอกะ หรือปราสาทหมอกควัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1576 เป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพราะเป็นปราสาทที่ยังคงอยู่รอดปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและสงครามโดยไม่มีการสร้างจำลองสร้างขึ้นใหม่ และเชื่อกันว่าในบรรดา 12 ปราสาทดั้งเดิม ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุด
เนื่องจากบริเวณรอบปราสาทมีต้นซากุระอยู่เยอะ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยงามและมีชื่อเสียงของฟุกุอิ
สำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ ‘ปราสาทมารุโอกะ’ หรือ ‘ปราสาทหมอกควัน’ 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระชั้นนำของญี่ปุ่น
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ปราสาทเอจิเซ็น โอโนะ (Echizenono Castle) สร้างขึ้นในปี 1575 โดยคานาโมริ นากาชิกะ ซึ่งไดเมียวโอดะ โนบุนากะได้ส่งเขาให้มาดูแลในเขตนี้ ปราสาทเอจิเซ็น โอโนะนั้นเป็นปราสาทแบบ Hirayamajiro หรือปราสาทบนเขาลูกเล็ก โดยตั้งอยู่บนเขา Kameyama ที่ความสูง 249 เมตร ทำให้ในวันที่มีหมอกปกคลุมตัวเมือง ทัศนียภาพของปราสาทเอจิเซ็น โอโนะที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะดูเหมือนกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า ราวกับเป็นปราสาทในแดนสวรรค์ และนี่เองเป็นที่มาของฉายา ‘ปราสาทลอยฟ้า’
จุดที่สามารถมองเห็นวิวปราสาทในม่านหมอกแบบนี้ได้ก็คือบริเวณซากปราสาทอินุยามะที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกันนั่นเอง
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
โบราณสถานตระกูลอิจิโจดานิ อาซากุระ (Asakura Clan Historic Ruins) เป็นซากเมืองปราสาทที่งดงามของขุนศึกตระกูลอาซากุระ ซึ่งปกครองพื้นที่นี้เป็นเวลา 103 ปีตั้งแต่ปี 1471 ก่อนที่โอดะ โนบุนากะจะเข้ามาปราบปรามและตั้งต้นปกครองสถานที่แห่งนี้
ปัจจุบันภูมิทัศน์อันงดงามของเมืองปราสาทได้รับการบูรณะจนเกือบสมบูรณ์แบบ และยังมีการตกแต่งเพิ่มเติมให้คล้ายกับในอดีต เปรียบเสมือนการคืนชีพให้กับเมืองปราสาทแห่งนี้เลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม 'เทศกาลแสงเทียนเอจิเซ็น อาซากุระ (Echizen Asakura Mantoya Candle Illumination)' และ 'เทศกาลจำลองการรบ (Echizen Asakura Warring States Festival)' ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันในเดือนสิงหาคมของทุกปี ซึ่งบรรยากาศของทั้งสองเทศกาลล้วนให้กลิ่นอายของช่วงเวลาในอดีต ราวกับว่าได้ย้อนยุคและกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สมัยนั้นเลยทีเดียว
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ย่านเมืองเก่าคุมากาวะจูกุ (Kumagawa-juku) สร้างในปี 1589 โดยไดเมียว Asano Nagamasa เพื่อเป็นจุดเชื่อมระหว่างละแวกวาคาสะกับเกียวโต ปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จากกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้จะได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคในแบบฉบับเอโดะโบราณ
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ตั้งแต่ยุคเมจิ (1868 - 1912) ถึงช่วงต้นของยุคโชวะ (1926 - 1989) เมืองสึรุกะในจังหวัดฟุกุอิมีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองนานาชาติที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับทวีปยุโรปผ่านประเทศรัสเซีย และโกดังอิฐแดงสึรุกะ (Tsuruga Red Brick Warehouse) ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1905 ก็นับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นตัวแทนของยุคนี้
ปัจจุบันอาคารต่างๆได้รับการบูรณะเพื่อแสดงถึงสิ่งที่น่าดึงดูดของสึรุกะ ตึกที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือเป็นสถานที่จัดแสดงแบบจำลองสามมิติซึ่งแสดงในส่วนของรางรถไฟและท่าเรือ ส่วนตึกทางทิศใต้เป็นร้านอาหาร
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ผาหินโทจินโบ (Tojinbo Cliffs) เป็นผาหินที่มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเมืองฟุกุอิ หน้าผาแห่งนี้ถูกลมและน้ำทะเลกัดเซาะอยู่เป็นเวลานานจนทำให้เกิดรูปร่างที่แปลกตาน่าค้นหาสำหรับผู้พบเห็น
ลักษณะพิเศษของผาหินแห่งนี้คือรูปทรงของหินเป็นสี่เหลี่ยม ไม่ใช่หินมนๆที่พบเห็นได้ตามผาหินทั่วไป ซึ่งผาหินแบบนี้จะพบได้เพียง 3 ที่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
ผู้ที่มาเยี่ยมชมความสวยงามของหน้าผาแห่งนี้ เพียงใช้เวลา 30 นาทีก็เดินได้ทั่วแล้ว แต่ควรเดินด้วยความระมัดระวัง เพราะผานี้ตั้งชื่อตามพระภิกษุที่มรณภาพก่อนวัยอันควร เนื่องจากลื่นล้มและพลัดตกลงทะเลไปในวันที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้
นอกจากนี้เรายังสามารถชมความงามของผาหินโทจินโบผ่านการล่องเรือลัดเลาะไปตามแนวหินของผาแห่งนี้ได้เช่นกัน
วิธีเดินทาง (Tojinbo Cliffs & Tojinbo Cliffs Sightseeing Boat)
ที่อยู่
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ชายหาดซุยโชฮามะ (Suishohama beach) ในจังหวัดฟุกุอิมีหาดทรายสีขาวที่เปล่งประกายเป็นจุดเด่น ที่นี่เป็นชายหาดยอดนิยมสำหรับเล่นน้ำทะเล
โดยสาเหตุที่น้ำทะเลที่นี่ใส เป็นเพราะทรายขาวที่มีขนาดใหญ่ (คลื่นซัดแล้วไม่ปลิวกระจาย) จนได้รับการขนานนามว่าซุยโช (แปลว่าคริสตัล)
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
หาดชิโรยามะ (Shiroyama Beach) มีไฮไลต์สำคัญคือถ้ำ Meikyodo ตรงนี้เป็นจุดชมวิวอ่าววาคาสะที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่ง จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมพระอาทิตย์ตกดินของญี่ปุ่น
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
สวนโยโกคัง (Yōkōkan Garden) สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ในอดีตเคยเป็นสถานที่พักตากอากาศของตระกูลมัตสึไดระ หากมายังสถานที่แห่งนี้เราจะสัมผัสความเป็นไดเมียวในยุคอดีตได้ด้วยการนั่งจิบชาไปพลาง ชมความงามของสวนไปพลาง
และที่พิเศษกว่านั้นคือในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะผลัดใบเป็นสีโทนร้อน ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นกับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
สวนนิชิยามะ (Nishiyama Park) เป็น 1 ใน 100 สวนสาธารณะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สวนนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิเนื่องจากมีการปลูกต้น azalea ไว้ถึง 50,000 ต้น
สวนแห่งนี้มีโซนสวนสัตว์ขนาดย่อมด้วย ซึ่งเราสามารถชมความน่ารักของเหล่าแพนด้าแดงได้ที่นี่
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ต้นซากุระ 600 ต้นที่ขึ้นเรียงรายตามแนวแม่น้ำอาสุวะเป็นระยะทางกว่า 2.2 กิโลเมตร คือหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น (ติด 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น)
ที่สำคัญคือสถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟด้วย ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวที่ 'จังหวัดฟุกุอิ' ในช่วงซากุระบาน ต้องไปที่แม่น้ำอาสุวะให้ได้เลยนะ!
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
แฟ็กซ์
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ห้าทะเลสาบแห่งมิกาตะ (Five lakes of Mikata) เป็นชื่อเรียกของทะเลสาบ 5 แห่ง อันได้แก่
ทะเลสาบทั้งห้านี้มีชื่อเล่นว่า 'ทะเลสาบ 5 สี' โดยตั้งตามสีของน้ำที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่างๆ ที่นี่นับเป็นหนึ่งในจุดแลนด์มาร์กของอุทยานแห่งชาติอ่าววาคาสะ
นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้จากสวนลอยฟ้า Rainbow Line Summit Park นอกจากนี้รอบทะเลสาบยังมีจุดท่องเที่ยวต่างๆอีกมากมายด้วย (เป็นที่นิยมของคู่รักในฐานะเป็น power spot ด้านความรักด้วยนะ)
อ่านบทความฉบับเต็มเกี่ยวกับห้าทะเลสาบแห่งมิกาตะและสวนลอยฟ้า Rainbow Line Summit Park ได้ที่นี่ > ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามของห้าทะเลสาบแห่งมิกาตะที่สวนลอยฟ้า Rainbow Line Summit Park
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
แฟ็กซ์
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
ทะเลสาบคุซุริว (Kuzuryu Lake) มีแม่น้ำคุซุริวเป็นต้นลำธารและไหลผ่านเมืองโอโนะ เป็นทะเลสาบที่สวยงามในทุกฤดูกาลโดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
คำว่า 'คุซุริว' นั้นหมายถึงเทพมังกรเก้าหัว มีที่มาจากตำนานเทพมังกรเก้าหัวที่ว่ากันว่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพระรูปหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 9
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
Keiryunosato เป็นหมู่บ้านตกปลาที่เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติแบบเป็นครอบครัว นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับการตกปลาแล้ว เรายังสามารถจัดแคมป์เป็นปาร์ตี้ปลาย่างได้ด้วยนะ
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
Tree Picnic Adventure IKEDA เป็นศูนย์รวมกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในสถานที่แห่งนี้ เราจะได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมแอดแวนเจอร์หรือการตะลุยด่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโหนสลิงจากภูเขาสูงด้วยเครื่องเล่น Mega Zipline หรือการจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวกับเพื่อนๆท่ามกลางธรรมที่แสนร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจำลองวิธีการใช้ชีวิตในป่า และเราจะได้ลองกางเต็นท์นอนบนต้นไม้ด้วย
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
อาวาระ ออนเซ็น (Awara Onsen) เป็นเมืองออนเซ็นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดฟุกุอิ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1883 จนถึงปัจจุบัน นอกจากภายในเมืองจะมีโรงแรมแบบเรียวกังและที่พักขนาดเล็กให้บริการอยู่กว่า 30 แห่งแล้ว ทั่วเมืองยังมีตาน้ำถึง 74 จุด ทำให้ออนเซ็นในแต่ละจุดของเรียวกังที่อาวาระนั้นมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป
ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่นของชาวเมืองบวกกับออนเซ็นคุณภาพเยี่ยม เมืองออนเซ็นแห่งนี้จึงเหมาะกับการมาเยือนเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง
วิธีเดินทาง
ที่อยู่
โทร
เวลาทำการ
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์
อาหารท้องถิ่นของจังหวัดฟุกุอิ
ฟุกุอิเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติมากมาย อาหารของจังหวัดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'อาหารทะเล' จึงมีความหลากหลายมากเช่นกัน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปลิ้มลองความสดอร่อยจากท้องทะเลฟุกุอิกันครับ
ปูซุวะอิ (Zuwaigani) เป็นปูชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น จนได้รับฉายาว่าเป็น 'ราชาแห่งอาหารรสเลิศในฤดูหนาว' เลยทีเดียว แหล่งอาศัยของปูซุวะอิคือทะเลญี่ปุ่นและทะเลโอคอสต์ (Okhotsu Sea) แต่ทั้งนี้ หนึ่งในสายพันธุ์ย่อยของปูซุวะอิที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยก็คือ ปูเอจิเซ็น
ปูเอจิเซ็น เป็นปูชนิดเดียวที่เคยมีการนำไปถวายแด่ราชวงศ์ญี่ปุ่น โดยปูนี้ไม่ว่าจะเป็นทานแบบซาชิมิสดๆ แบบปิ้งย่าง หรือแบบชาบูหม้อไฟก็ล้วนอร่อยหมดทุกเมนู
สำหรับร้านแนะนำในจังหวัดฟุกุอิ เราขอแนะนำ Echizen gani museum (越前がにミュージアム) ที่สามารถกินบุฟเฟ่ต์ปูได้อย่างจุใจ!
ฟุกุอิแซลมอน หากจะเรียกปลาชนิดนี้ว่าแซลมอนก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะที่จริงแล้วฟุกุอิแซลมอนนั้นคือปลาเทราต์ครับ! อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นปลาในกลุ่มเดียวกัน และอย่างที่เห็นในรูป ดูสีส้มชวนน่ากินนั่นสิครับ
เมื่อพูดถึงปลาไหล เราอาจจะคิดว่าหากินที่ไหนก็ได้ในญี่ปุ่นนี่นา แต่ปลาไหลจากเมืองวาคาสะ โดยเฉพาะจากทะเลสาบมิกาตะนั้น เป็นหนึ่งในปลาไหลที่ได้ชื่อว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นครับ! ถ้าได้ไป 'จังหวัดฟุกุอิ' ลองแวะไปทานปลาไหลที่ร้าน Unagiya genyomon ดูนะครับ
ที่เมืองวาคาสะมีอาหารท้องถิ่นอย่างหนึ่งคือ Hamayaki Saba ซึ่งก็คือการนำปลาซาบะมาเสียบไม้ย่าง เนื่องจากปลาซาบะเป็นปลาที่เก็บรักษายาก ชาวเมืองวาคาสะจึงเอาปลาซาบะมาย่างและปรุงรสเพื่อให้เก็บไว้กินได้นานๆ และหนึ่งในอาหารที่น่าลองก็คือ ซูชิปลาซาบะย่างครับ
ยากิโทริ (Yakitori) เป็นหนึ่งในอาหารง่ายๆแต่ครองใจคนญี่ปุ่น และร้านหนึ่งที่ครองใจคนญี่ปุ่นมานานคือร้านยากิโทริที่ชื่อ Akiyoshi ซึ่งมีสาขามากมายกว่า 30 สาขาในจังหวัดฟุกุอิ ถ้าไปฟุกุอิแล้วต้องไม่พลาดครับ
Volga rice เป็นชื่อเรียกข้าวหน้าไข่ออนท็อปด้วยทงคัตสึ และราดด้วยแกงกระหรี่ แม้ที่มาของชื่ออาหารจะไม่แน่ชัดเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆนี่เป็นเมนูขึ้นชื่อของเมืองเอจิเซ็น จังหวัดฟุกุอิ
ปกติแล้วคัตสึด้ง (ข้าวหน้าหมูทอด) ในภูมิภาคอื่นของญี่ปุ่นจะเป็นหมูทอดราดไข่กับต้นหอม แต่ที่ 'จังหวัดฟุกุอิ' นั้นจะเป็นหมูทอดราดซอสวูสเตอร์ ซึ่งให้รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร ถ้ามีโอกาสได้ไปฟุกุอิบอกเลยว่าต้องลองครับ
ชื่อของ 'เอจิเซ็น โอโรชิโซบะ' นั้นมีที่มาจากตอนที่จักรพรรดิโชวะเดินทางไปเยือน 'จังหวัดฟุกุอิ' เมื่อปี 1947 และได้รับประทานโอโรชิโซบะขณะทรงประทับที่เมืองนี้ หลังจากการมาเยือนในครั้งนั้น ท่านได้กล่าวกับคนสนิทอย่างชื่นชมถึงรสชาติของโซบะที่ได้รับประทานที่เอจิเซ็น ว่าโอโรชิโซบะช่างมีรสชาติที่แสนเอร็ดอร่อย
หากได้มายังจังหวัดนี้ คุณควรที่จะลองลิ้มรสของโอโรชิโซบะซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ในอาหาร 100 จานหลักจากชนบทญี่ปุ่นดูสักครั้งครับ
หากอยากทานซูชิที่ 'จังหวัดฟุกุอิ' แต่ก็อยากถ่ายรูปสวยๆด้วย เราขอแนะนำร้าน O-edo+sushi ที่รับประกันได้เลยว่าจะทำให้คุณถ่ายรูปอาหารสวยๆได้แน่นอน
Hachiban Ramen คือราเมนหมายเลข 8 'ฮะจิบังราเมน' ที่คนไทยคุ้นเคยกันดีนั่นเอง แต่มักจะมีคนสงสัยว่าทำไมมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ยักเจอร้านนี้? คำตอบคือในประเทศญี่ปุ่นนั้น ฮะจิบังเป็นร้านเชนราเมนที่มีเยอะในละแวกโฮคุริคุ ซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัดอิชิกาวะ จังหวัดโทยามะ และ 'จังหวัดฟุกุอิ' ครับ ถ้าอยากลองทานราเมนหมายเลข 8 แบบดั้งเดิมละก็ สาขาที่จังหวัดฟุกุอิก็น่าลองครับ
ดังโงะ ยูเมะสึเกะ (Dango Yumesuke) คือร้านดังโกะชื่อดังในเมืองโอโนะ ที่นอกจากจะแสนอร่อยแล้ว หน้าตาของเจ้าดังโงะก็ยังมีสีสันสวยงามน่ากินมากมาย ถ้าไปเที่ยวปราสาทโอโนะแล้ว ลองแวะไปกินดูนะ
ที่มา: รวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปโดนสักครั้งของ ‘จังหวัดฟุกุอิ’
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่: fromJapan.info
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in