ทำไมร้อนจัง..
หน้าเรา.. ร้อนไปหมดเลย..
ร่างสีขาวหยุดยืนเมื่อวิ่งออกมาได้ไม่ไกลนักใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อ มือเล็กยกขึ้นมากุมใบหน้า แล้วลูบไปตามเนื้อตัวราวกับจะสัมผัสความรู้สึกที่ยังหลงเหลือเพียงแค่มีใครบางคนสัมผัสปีกเขาอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ก็สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ในใจขึ้นมากมาย
~ ~ แจ็คสัน!!
เสียงเอะอะที่ดังแว่วมาทำให้แองเจิ้ลส์น้อยหันกลับไปมองยังทิศที่วิ่งจากมา
แจ็คจะไปแล้ว..
เจียเออร์จะไปแล้ว…
.
.
.
.
แจ็คสันมองตามแองเจิ้ลส์น้อยที่วิ่งจากไปตาละห้อยเสียงเรียกชื่อเขาที่ดังแว่วมาแสดงว่ามีคนมาตามหาเขาแล้วและนี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่กับแบมแบมในนี้ ทันทีที่เขาก้าวออกไปเขาจะไม่ได้กลับเข้ามาอีก สัมผัสของขนปีกนุ่มในมือยังไม่ทันจะจางหาย ความอาลัยทำให้เขาอยากจะอ้อยอิ่งยืดเวลานี้ให้ยาวออกไป แต่ในใจก็รู้ดีว่ายังมีเรื่องอีกมากที่เขาต้องทำข้างนอกนั่นเขาจึงออกเดินไปยังทิศที่ได้ยินเสียง ซึ่งก็น่าจะเป็นแถวประตูกรง
“ผมอยู่นี่ ทุกคน ผมอยู่ในนี้” ชายหนุ่มตะโกนตอบเสียงเรียกชื่อที่ได้ยินพอพ้นแนวต้นไม้มาถึงที่ราบโล่ง เขาจึงได้เห็นกลุ่มคนที่กำลังเรียกหาเขา จินยองฮยองยูคยอม มาร์ค และนักวิจัยอีกสองคนที่เขาไม่รู้จัก
“แจ็คสัน
“เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังทีหลังครับตอนนี้ช่วยพาผมออกไปก่อน”
“แจ็ค
“ฉันโอเค สบายดี ไม่มีอะไรเสียหาย”แจ็คสันโบกมือให้ทุกคนเห็นว่าเขายังปกติดีทุกอย่าง
“แจ็ค...”
“โว้วๆๆๆ เดี๋ยวก่อน
“ทุกคนรอตรงนี้ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปพาเขาออกมาเองห้ามใครใช้อาวุธโดยที่ฉันไม่ได้สั่ง เข้าใจนะ” จินยองกำชับหนักแน่นก่อนจะเดินเข้าไปที่ประตูกรงการ์ดสีเงินแตะลงบนแท่นควบคุมสีเทา ก่อนจะทาบฝ่ามือลงไป ประตูกรงหนาหนักก็เด้งเปิดออกทันทีร่างสง่างามในชุดเสื้อกาวน์สีขาวก็เดินตรงเข้าไปหาทั้งสองคนที่ยืนรออยู่
“จีนนน” เด็กน้อยผละจากด้านหลังของแจ็คสันวิ่งเข้ามากอดจินยองเหมือนปกติทุกครั้ง จินยองกอดตอบแล้วลูบหัวเบาๆ ก่อนจะเดินมารวมกลุ่ม
“บอกมา ว่าเกิดอะไรขึ้น” จินยองเอ่ยถามเสียงเครียดทันทีที่เดินเข้ามาใกล้
“เมื่อคืนผมแค่จะแวะเข้ามาหาแบมแต่พอมาถึง ประตูกรงก็เปิดอยู่ แล้วมีไอ้โม่งสองคน กำลังทำอะไรไม่รู้กับแบมพวกมันลากแบมแบมเข้ามาในเขตอันตราย จะได้ไม่มีแรงพอจะทำร้ายพวกมัน ผมเห็นเข้าก็เลยเข้ามาช่วยพวกมันถือกล่องเหล็กใส่อะไรก็ไม่รู้เอาไว้ ท่าทางจะสำคัญมาก ผมพยายามแย่งมาแต่ไม่สำเร็จสุดท้ายก็เลยโดนปืนเลเซอร์สลบไป...
แจ็คสันเล่าไปด้วย
“จริงรึเปล่าแบมแบมมีคนเข้ามาทำร้ายเราเหรอตัวเล็ก” จินยองหันไปถามย้ำ แองเจิ้ลส์น้อยผงกหัวสีขาวยืนยันคำพูดของแจ็คสันอย่างรุนแรง
“แล้วเราเป็นอะไรรึเปล่า” แบมแบมส่ายหน้าช้าๆให้กับคำถามของหัวหน้าแผนกวิจัย
“แบมไม่เจ็บ..
“นี่... แจ็คไม่เจ็บแล้วไงแบม เนอะ”แจ็คสันรีบคว้ามือเด็กน้อยมาจับไว้ บีบเบาๆ แล้วยิ้มกว้างใส่ หัวสีขาวจึงผงกรับ
“เอาละ ถึงยังไงคงต้องออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยรายงานเรื่องนี้กับเจบี แต่คงไม่ใช่วันนี้ เพราะแผนกลาดตระเวนจะยังไม่กลับจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้
“เดี๋ยวก่อนครับฮยอง.. ผมขอ.. บอกลาแบมแบมสักครู่ได้มั้ยฮะ”
“หวังแจ็คสัน
“ครับ ผมจำได้ ผมแค่จะบอกลาเพราะคงเข้ามาเล่นด้วยในนี้ไม่ได้อีก” จินยองพยักหน้ารับเบาๆแล้วเดินออกไปทางประตูกรง แจ็คสันหันหน้ามาคุยกับแองเจิ้ลส์น้อย แต่ใบหน้าสวยก้มต่ำ
“แบมแบม อย่าทำแบบนี้.. ยิ้มสิเฮียไม่ได้ไปไหนไกลสักหน่อย.. นะ.. ยิ้มให้เฮียดูก่อน เงยหน้าสิ” ชายหนุ่มบีบมือเล็กที่กุมไว้เบาๆเพื่อให้เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมอง แต่หัวสีขาวก็ยังก้มหน้านิ่ง
“ไม่รักคุณเต่าแล้วเหรอ..”
“คุณเต่า.. อย่า...”
“หืมมม.. ว่าไงนะครับ”
“อย่าไป...”
“เฮียต้องไปแล้วแบมแบม จะไม่ยิ้มให้เฮียจริงๆเหรอ ถ้าไม่ยิ้มล่ะก็ เอ... สงสัยขนมที่จะให้พรุ่งนี้ คงจะต้องทิ้งไปซะละมั้ง..น่าเสียดายจังเลยน้า น่าอร่อยมากซะด้วยสิ” ศีรษะสีขาวที่ก้มต่ำมีความลังเลแต่แล้วก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา แพขนตาหนาชุ่มชื้น แต่ก็ยอมส่งยิ้มให้เขาบางเบา
“เก่งมาก แองเจิ้ลส์คนสวยของเฮีย” แจ็คสันขยี้ผมสีขาวบนหัวเล็กเบาๆอย่างอ่อนโยน
“เฮียขออีกอย่างนะแบมแบม” ชายหนุ่มใช้นิ้วโป้งไล้ไปตามแพขนตาที่เปียกชื้นเพื่อซับน้ำตาอย่างบรรจง
“เรื่องบ้านกับปีกของแบมเก็บไว้เป็นความลับของเราสองคนนะ อย่าเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ได้มั้ย”
“จีน.. เจบี..” แองเจิ้ลส์น้อยเอียงคอถาม
“สองคนนั้นก็ไม่ได้ นะแบมนะ”เด็กน้อยครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ แล้วก็พยักหน้าให้ จินยองโบกมือมาจากหน้าประตูกรง
“เฮียไปแล้วนะ เจอกันพรุ่งนี้ หลับฝันดีนะบ๊ายบาย” แจ็คสันผละออกมา โบกมือลาเด็กน้อย แล้ววิ่งไปทางประตูกรง แบมแบมโบกมือตอบเฝ้ามองร่างของแจ็คสันออกจากกรงและเดินไปพร้อมกับคนอื่นๆ ก่อนจะวิ่งกลับไปทางรังของตนเอง
แจ็คสันเหลือบมองแบมแบมที่วิ่งกลับไปที่รังอย่างโล่งอกถึงแม้เขาจะถูกพักงาน แต่ทางสถาบันคงไม่ห้ามถ้าเขาจะแวะมาหาแบมแบมบ้าง แบมแบมจะได้ไม่เหงาถึงแม้เขาจะกลับเข้าไปในกรงไม่ได้อีก แต่อย่างน้อยมาเห็นหน้า มาคุยกันก็ยังดีเขาตั้งใจจะแวะมาหาแบมแบมตลอดระยะเวลาที่ถูกพักงานแถมพรุ่งนี้เขาก็ต้องมารายงานเรื่องนี้กับเจบีเขาจึงสามารถทำตามสัญญาได้อย่างแน่นอน ความมั่นใจนี้ช่วยให้เขาเบาใจลงบ้างว่าจะไม่ทำให้แองเจิ้ลส์น้อยทรมานกับการรอคอย
ทุกคนเดินตามจินยองออกมาจนถึงหน้าแผนกลาดตระเวนแล้วจึงแยกย้ายจินยองกับนักวิจัยอีกสองคนกลับไปที่แผนกวิจัย เหลือเพียงสามคนที่ยืนเก้ๆ กังๆกันอยู่หน้าแผนกลาดตระเวน
“นายจะกลับพร้อมฉันเลยรึเปล่า”มาร์คเอ่ยถามขึ้น
“มาร์ค ฉันว่านายกลับไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวฉันตามไปฉันมีเรื่องจะคุยกับยูคยอมหน่อย” แจ็คสันตบไหล่เด็กยักษ์ที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงเมื่อได้ยินว่าแจ็คสันมีเรื่องจะคุยด้วย
“นายเพิ่งหายเจ็บจะปั่นจักรยานกลับไปได้ไง เอาเป็นว่าฉันไปรอที่รถก็แล้วกัน จะคุยอะไรก็คุยกันตามสบาย”
“ มาร์ค
มาร์คโบกมือเป็นเชิงว่าอย่าคิดมากแล้วไปขึ้นรถมินิคาร์ทที่จินยองทิ้งเอาไว้ให้ ขับออกไปทางประตูใหญ่ทิ้งให้แจ็คสันอยู่กับเด็กร่างยักษ์สีดำที่ยังยืนแข็งทื่อ แจ็คสันตบไปตามกระเป๋ากางเกงของตัวเองเพื่อหาอะไรบางอย่าง
“ หานี่อยู่หรอฮะ”
“อ๊ากก! การ์ดฉัน!!!ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ! โธ่ ไอ้พวกบ้า โยนทิ้งอย่างเดียวไม่พอรึไงทำไมต้องหักด้วยวะเนี่ย โธ่เอ้ย!
“ ไม่เป็นไรหรอกฮะ เดี๋ยวเจบีฮยองก็ออกให้ใหม่มันไม่ใช่ความผิดของเฮียนี่นา”
“แสดงว่าฉันต้องตัวติดอยู่กับนาย ไปจนกว่าจะได้การ์ดใหม่สินะใช่มั้ย” แจ็คสันแค่หยอก แต่คนตรงหน้ากลับสลดลง
“ถ้าเฮียไม่อยาก
“ไร้สาระน่าทำไมฉันจะต้องไม่อยากด้วยล่ะ นายเปิดประตูเหอะ เข้าไปคุยกันข้างใน”ชายหนุ่มเร่งให้ยูคยอมเปิดประตูเพราะมีคนจากแผนกวิจัยเดินผ่านไปผ่านมา ยูคยอมดึงคีย์การ์ดสีดำของตัวเองออกมาแตะที่หน้าประตูแล้วทั้งสองคนก็พากันเดินเข้าไปในแผนกที่ว่างเปล่า โต๊ะกลางยังคงมีอุปกรณ์และข้อมูลวางอยู่ระเกะระกะแจ็คสันเดินสำรวจข้อมูลที่มีอยู่บนโต๊ะคร่าวๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟา
“เฮ้อออ คิดถึงจังเลยแฮะ แค่ไม่กี่วันเองนะเนี่ยที่ไม่ได้เข้ามา”แจ็คสันหลับตาสูดกลิ่นที่คุ้นเคยในห้อง แต่ยูคยอมยังคงยืนนิ่งอยู่ที่ข้างโซฟา
“เอ้า ยืนอยู่ทำไมล่ะ มาคุยกัน”
“ผมคิดว่าเฮียจะเกลียดผมแล้ว” ร่างสีดำของยูคยอมเดินมานั่งลงทื่อๆบนโซฟา ใกล้กับแจ็คสัน
“ทำไมเฮียต้องเกลียดนายด้วยล่ะบ้ารึเปล่า”
“ก็ที่เฮียบาดเจ็บ ก็เพราะผมแล้วก็ยังโดนพักงานอีก เป็นเพราะผมอวดเก่งไม่เข้าเรื่อง เฮียถึงต้องเป็นแบบนี้ผมทำใจเอาไว้แล้ว ถ้าเฮียจะเกลียดผม ก็ไม่เป็นไรนะฮะ” หน้าม้าหนาเตอะหันหน้าออกไปทางอื่น
“ถ้าเฮียจะเกลียดน่ะนะก็คงจะเกลียดเพราะไม่เห็นหน้านายมาเยี่ยมคนเจ็บเลยซะมากกว่า”
“ผมไม่กล้า ผมกลัวจะโดนเฮียไล่ออกมา”
“เฮ้อ บ้าไปแล้ว พอๆเฮียไม่ได้เกลียดอะไรนายทั้งนั้นแหละ นายปลอดภัยก็ดีแล้วได้ข่าวว่าอาละวาดซะน่าดูเลยเหมือนกันนี่ แต่ถ้านายสำนึกผิดจริงๆที่ทำให้เฮียบาดเจ็บล่ะก็ เล่ามาดีกว่า”
“เล่าอะไรฮะ..”
“ความลับของนาย”
.
.
.
.
.
เสียงเตือนดังขึ้นจากริสแบนด์ที่ข้อมือขาวจินยองยกข้อมือขึ้นสำรวจข้อความสั้นๆ ที่มีคนส่งมา
ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้
-- มาร์ค –
จินยองมองข้อความอย่างนึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ร่างสูงนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตัวเองนิ้วโป้งแตะลงที่แพดสแกนลายนิ้วมือ หน้าจอคอมพิวเตอร์จึงสว่างขึ้นพร้อมทำงานอีกครั้งนิ้วเรียวไล่ลงบนแป้นพิมพ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ และแจ้งนัดหมายประชุมให้หัวหน้าแผนกลาดตระเวนเพื่อนของเขารับทราบ
สิ่งที่ทุกคนได้เห็นในวันนี้อาจจะมีเพียงเขาคนเดียวที่อ่านออก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแจ็คสันอากัปกิริยาทั้งของเด็กฝึกงานกับแองเจิ้ลส์น้อยทุกอย่างไม่มีทางรอดสายตาของเขาไปได้ แจ็คสันกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่เขาและเจบีเคยเดินผ่านเส้นทางที่ไม่สามารถเดินไปจนสุดทางได้ อีกไม่ช้าแจ็คสันเองก็ต้องเดินออกจากเส้นทางนี้เช่นเดียวกัน
“ไม่ว่าใครที่ได้รู้จักตัวตนก็ต้องหลงรักเด็กคนนั้นกันทั้งนั้น..” จินยองพึมพัมกับตัวเอง เสียงหัวเราะหึๆดังขึ้นเบาๆ ในลำคอราวกับจะประชดประชันโชคชะตา
.
.
.
.
.
“ผมกลัวความมืด กลัวเสียงหมาหอน” ในที่สุดยูคยอมก็ยอมเอ่ยปากหลังจากอึกอักอยู่ครู่ใหญ่ “จินยองฮยองรู้ดีเพราะฮยองเป็นคนรักษาผมมา เจบีฮยองก็รู้ ทุกคนในแผนกก็รู้ ยกเว้นเฮียคนเดียวแต่สองปีมานี้ผมดีขึ้นมากแล้ว ก็เลย.. คิดว่าตัวเองจะทำได้ ผมคิดว่าผมหายแล้ว ผมอยากรู้ว่าจริงมั้ยผมอยากลอง แต่ผมทำให้เฮียต้องเสี่ยงไปด้วยจนบาดเจ็บ ผมขอโทษครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องอื่นล่ะนายจะยอมเล่าด้วยรึเปล่า ถ้านายอยากชดใช้ที่ทำให้เฮียบาดเจ็บเฮียถามอะไรนายต้องตอบ เฮียต้องรู้ เฮียจะได้ระวังหลังให้ ไม่ใช่พากันไปตายนายก็รู้ว่างานอย่างพวกเรา มันต้องอาศัยความเชื่อใจ”
“ทักษะของนายล่ะ ฝึกมาจากที่ไหนบอกได้รึเปล่า เฮียพอจะดูออก ว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ที่คนอายุขนาดนาย จะมีทักษะแบบนี้ได้”
ยูคยอมลังเลดวงตาหลังม่านหน้าม้าหลุบต่ำ คิดทบทวนในสิ่งที่แจ็คสันบอก ชั่วอึดใจถัดมา เด็กหนุ่มก็ถกแขนเสื้อข้างขวาขึ้นเผยให้เห็นท้องแขนที่อยู่ใต้ร่มผ้า ท่อนแขนขาวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ท้องแขนมีรอยสักสีดำเด่นชัด รอยสักเป็นลักษณะคล้ายดอกไม้บาน เริ่มจากดาวห้าแฉกตรงกลางรายล้อมด้วยสามเหลี่ยมสลับหว่างเป็นชั้นๆ ดูเหมือนกลีบดอกที่บานออก
“ผมเป็นนักฆ่า..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in