(15)
จากนาระไปโยโกฮาม่า จากคันไซไปคันโต
เราแพลนว่าจะเดินทางเข้าใกล้เมืองใหญ่เรื่อยๆ แล้ววันสุดท้ายก็ไปถึงสนามบินนาริตะพอดี
พอเที่ยวถ่ายรูปกวางจนพอใจในนาระแล้ว ก็ต้องรีบนั่งรถไฟกลับมาสถานีเกียวโตเพื่อขึ้นชินคันเซ็นไปโยโกฮาม่า
(สถานีที่ชินคันเซ็นผ่านมีแค่ในเมืองใหญ่เท่านั้น ที่จริงนั่งรถไฟจากนาระไปโยโกฮาม่าโดยตรงก็ได้
แต่ลูกพี่ซินคันเซ็นมันเร็วกว่าเยอะเลย ก็ต้องยอมนั่งย้อนกลับมา)
เรานั่งกลับมาเกียวโต โดยระหว่างทางก็หลับไปด้วย(เพราะกินยาลดน้ำมูกราคา480บาทมา 55555)
พอถึงก็สะดุ้งตื่นแล้วก็มึน
ๆลงมาในสถานี เดินไปหาออฟฟิศจองตั๋ว แล้วก็บอกพนักงานว่าไปโยโกฮาม่า
พนักงานก็ถามว่า ไรท์นาวๆใช่มะ เราก็ดูนาฬิกาแล้ว เอ่อๆ เดินทางเลยละกัน จะได้ไม่เสียเวลา
พอได้ตั๋วมา เหลือเวลาอีกสามสิบนาทีกว่ารถไฟจะออก เราก็เดินวนไปดูอาหารในสถานีเล่นๆ
เอ๊ะะะะะ ตรงนั้นมีข้าวกล่องซินคันเซ็นขายด้วย ซื้อไปเลยดีไหมนะ
ไม่เอาดีกว่า เลี้ยวไปร้านสะดวกซื้อ หันไปหันมา อันนี้ก็ดีอันนู้นก็ดีแฮะ....
เหมือนลืมอะไรสักอย่าง.... แต่นึกไม่ออก
เหลือเวลาอีกสิบห้านาที ไปรอที่ชานชลาดีกว่าเนอะ...
เอ๊ะ........................................... แอออออออออออออออออออออออออออออ๊....
รู้แล้ว!!! ลืมกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ในล็อคเกอร์หยอดเหรียญญญญญญญญญญญญญญญญญญญ!!!!
ชิบผายยยยย อันนี้เวิร์สเคสมาก แย่มาก!!...แย่จริงๆแล้ววววววว!!
วินาทีนั้น เครื่องติดเลย วนลานมาก ขาก็รีบวิ่งหาล็อกเกอร์ที่ฝากไว้
...
.
ว่าแต่...ล็อคเกอร์แม่มอยู่ไหนวะ!!!
ถ้าใครเคยไปจะรู้ว่า สถานีเกียวโตมีสามชั้น ล็อคเกอร์มีเป็นร้อยที่ แผนผังทั้งหมดเป็นภาษาญี่ปุ่น เศษกระดาษที่เคยจดไว้มีแค่ว่า อยู่หน้าชานชลาที่8-9(ที่พึ่งลงมาจากนาระนั่นแหละ)
โอ้ยยยย ตัวกูในอดีตตตต ใครจะไปรู้ล้าาาาาาา
วิกฤต!! อันนี้วิกฤตของจริงแล้ว!!
วิ่งหาบนชานชลา บังเอิญไปเจออินฟอร์เมชั่นที่มีป้ายเขียนไว้ว่าสำหรับถามเป็นภาษาอังกฤษโดยเฉพาะพอดี
สวรรค์โปรดดดด ปรี่เข้าไปถามทันทีเลย ลืมตัวจนไม่ได้ร่างประโยคภาษาอังกฤษมาล่วงหน้าเลยสักนิด
เจ๊ๆๆ ไอฟอกอตคอยน์ล็อคเกอร์ แวร์ๆๆๆๆ (เอากุญแจที่ได้ยื่นทิ่มๆๆให้พนักงานดู)
พนักงานยิ้มให้ พร้อมบอกอย่างใจเย็นว่า เลี้ยวทางนี้นะคะ พึ่บๆๆ(ผายมือไปทางชานชลา)
เราก็แท็งค์กิ้ว แล้วรีบวิ่งมาตามทางที่เจ๊แกบอกมา เอาละเว้ยยยจะเจอแล้ววว
...
.
อ่าววว เชี่ยยย ไม่เห็นมีล็อคเกอร์เลยนี่เจ๊!!!!
ไม่ทันแล้วววว เหลือเวลาอีกสิบนาทีรถไฟจะมาแล้ว แถมจอดแป็บเดียวด้วยนะ เพราะเป็นสถานีที่ผ่าน ไม่ใช่สถานีหยุดพัก
เอาวะเสี่ยงดู สุ่มถามพนักงานสักคน ยื่นกุญแจล็อคเกอร์ให้ดู
พนักงานก็ชี้ๆไปที่ทางชานชลาเดิม
เฮีย!! ก็เมื่อกี้วิ่งไปแล้วไม่เห็นมีเลยอ่ะ!! เฮียอย่าหลอกนู๋วววววว!!
วินาทีนั้นสิ้นหวังแล้วอ่ะ เหลืออีกไม่เกินสิบนาทีกับการไม่เห็นแม้แต่เงาล็อคเกอร์ แล้วไหนจะเวลาวิ่งกลับไปชานชลาเดิมเพื่อไปขึ้นซินคันเซ็น
แถมรถไฟญี่ปุ่นโคตรตรงต่อเวลา เป็นครั้งแรกที่คิดว่าการตรงต่อเวลาเกินไปนี่เป็นข้อเสีย ไม่ใช่ข้อดีเลยป่ะวะ 555555555
เอาวะ!! เสี่ยงดู วิ่งลงชานชลาไปอีกรอบ คราวนี้ดันเจอบันไดวงไปทางใต้ดิน
เอาเว้ย เจอแล้ววววววว!! ล็อคเกอร์ของข้าาาาาา!!
พอไขกุญแจเอาของเรียบร้อย นี่แทบจะเลี้ยวกลับกลิ้งตัวไปชานชลาชินคันเซ็นด้วยความเร็ว160กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกห้านาที!! ไฟว์มินิทแล็ฟฟฟฟฟฟฟ!!(ทำเสียงชาคริตในเซฟกระทะเหล็ก)
พอมาถึงชานชลา รถไฟชินคันเซ็นก็เข้าเทียบท่าพอดี ลมพัดปะทะหน้าฟิ้ววววว
ยืนหอบอยู่ริมชานชลา ก็แอบโล่งใจปนภูมิใจว่าเราพยายามก็ทำได้เหมือนกันแฮะ (ถึงแม้จะเกือบตายก็ตาม 5555)
ชินคันเซ็นครั้งนั้นกลายว่าเป็นรอบที่สบายใจที่สุด เป็นครั้งแรกที่นั่งมาขบวนเดียวกับเด็กๆที่มาทัศนศึกษา
เสียงเจี๊ยวจ๊าวเต็มขบวนเลย การเดินทางครั้งนั้นเลยรู้สึกสดใสมากกว่าเพราะทั้งขบวนไม่ได้มีแต่ความเงียบ
ใช้เวลาราวๆสองชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงโยโกฮาม่า แล้วต้องนั่งรถไฟจากสถานีโยโกฮาม่าไปลงคาวาซากิเพื่อเข้าที่พัก
ที่จองที่นี่ไปเพราะเหตุผลเดียว... กูอยากมาดูว่าสถานีที่เป็นชื่อรถมอไซจะหน้าตาเป็นยังไง 55555555555
พอมาถึงก็เปิดกูเกิ้ลแมพ นำทางไปที่พัก... และก็แน่นอน มันพาเราหลงอีกแล้วว่ะ 5555555
แต่โชคดีที่โรงแรมมีป้ายบอกระหว่างทาง ป้ายก็นำเราลึกเข้าซอยไปเรื่อยๆ
สภาพข้างทางตอนนี้พอๆกับแถวๆสยามตอนสามสี่ทุ่มเลย เงียบๆ มีไฟข้างทางปะปราย แล้วก็มีคนเดินสวนสองสามคน
แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกปลอดภัยกว่าตอนที่เดินกลับหอแถวสยามก็ไม่รู้ 555555555
พอมาถึงโรงแรมก็เจอแขกกลุ่มใหญ่เลย กำลังสังสรรค์อะไรสักอย่างเหมือนได้ยินคำว่าเซนเซย์ๆ
น่าจะเลี้ยงส่งอาจารย์อะไรกันมั้ง มีส่งเสียงเชียร์ยกใหญ่เลย อาหารจัดเต็มมากๆ(รู้งี้ไปขอเขาสักจานดีกว่า ประหยัดไปได้อีกมื้อ555)
ข้างล่างโรงแรมเป็นบาร์ เอาไว้แฮงค์เอาต์กันระหว่างเพื่อน ส่วนข้างบนเป็นที่พักสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์
เช็คอินเสร็จก็เข้าที่พัก เก็บของเสร็จก็ลงมาหาอะไรกิน
สุดท้ายก็จบมื้อแรกที่โยโกฮาม่าด้วยราเมนหยอดตู้ ที่อยู่ซอยใกล้ๆกับโรงแรม(อีกแล้วววว มื้อที่ห้าแล้วมั้งเนี่ย ไม่ต้องคุยกับใคร สายแดกอย่างเดียว555 ติดตามหน้าตาอาหารได้ตอนจบบทนี้)
อากาศเย็นๆ แถมเป็นหวัดอีก เหมาะกับการซดราเมนมากๆ
แถมราเมนที่นี่ก็อร่อยทุกร้านอ่ะ(เท่าที่เข้าร้านอาหารมา ไม่มีร้านไหนที่ไม่อร่อยเลยอ่ะ แต่ก็จ่ายเงินเยอะกว่าเซเว่นนิดหน่อย)
ก่อนกลับที่พัก เลยแวะไปย่านช้อปปิ้งสักหน่อย เผื่อได้ของฝากเทพๆ เพราะตอนแรกก็ตั้งใจจะมาซื้อของฝากกลับไปตอนไปเที่ยวโยโกฯกับโตเกียวนี่แหละ
พอตอนเดินกลับก็ซ่าไง เดินอีกทางหนึ่งตามที่กูเกิ้ลแมพบอก
พอเดินๆไปสักพัก เอ๊ะ ทำไมมีคนเมาๆเยอะจังวะ เป็นร้านแบบพนักงานญี่ปุ่นมากินสาเกกับผองเพื่อนประมาณนั้น แล้วก็มีกับแกล้มเป็นไม้เสียบไม้ย่าง น่ากินกว่าสาเกอีก 555
เดินลึกๆไปอีก เริ่มมีผุ้ชายใส่สูทเดินมาเรียกแขกหน้าร้าน ขนาบข้างทั้งซอยเลย
โอ้โห้ ซอยบาร์โฮสต์เว้ยเฮ้ยยยยยยย!!
หนุ่มหล่อย้อมผมสีน้ำตาลอ่อน คือหล่อแบบที่สาวญี่ปุ่นชอบอ่ะ แต่กูไม่ชอบไง 555555555555
เรียกแขกโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นอ่ะ คือกะเหรี่ยงอย่างเราไม่เข้าใจไง เลยเดินเชิดเหมือนเจ้ที่ซักผ้าทิ้งไว้ที่บ้าน (ถ้าพูดไทยได้เจ้คงเปย์ไปแล้ว 5555555555555)
เพลิดเพลินมากอ่ะ แสงสีต่างกับคันไซที่จากมา แต่ถ้าถามว่าชอบแบบไหน ก็คงชอบแบบโอซาก้าเกียวโตมากกว่า
โยโกฯตอนกลางคืนคือเมืองใหญ่ คนเดินสวนกันไปมาอย่างรีบร้อน ไม่ค่อยมีคนได้หยุดพักชมความงามตอนกลางคืน
....
เข้าใจอารมณ์ของสกาเล็ตโจแฮนซันในเรื่องlost in translationเลย
คนต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น ดินแดนที่ไม่มีใครเข้าใจภาษาของเรา
...
..
(15.5)
ราเมนหยอดตู้คืนแรกในโยโกฮาม่า(มีคืนเดียว 555)
ร้านในซอยใกล้ๆกับโรงแรมที่คาวาซากิ
เดินเข้าร้านไป ตอนหยอดเหรียญก็มองภาพที่ดู
น่ากินที่สุดแล้วก็กดออกมา(เพิ่มหมูไม่เป็น อ่านญี่ปุ่นไม่ออก เลยได้หมูชิ้นเดียวกับสาหร่ายเหี่ยวๆ1ea)
ตอนยื่นให้พนักงาน ก็โดนสวนภาษาญี่ปุ่นมาหนึ่งประโยค เราก็ทำหน้างงใส่แม่มเลย 555555 พนักงานก็แบบ...กะเหรี่ยงมาอีกแล้วหรอ อ่ะเดี๋ยวทำให้มึงแดกแบบงงๆก็แล้วกัน 5555(ที่จริงเขาถามว่าเอาเส้นนุ่มไหม เผ็ดมากไหม ลดมันเปล่า สงสัยเขาจัดแบบปานกลางมาหมด)...
สรุป อร่อยดีจนเข้าขั้นดีมาก อารมณ์แบบbankara ramenที่พารากอนเลย แต่ที่นี่คืออร่อยด้วยและถูกด้วย ดีงาม ขนาดอยู่ในซอยแบบลึกลับและเปลี่ยวมากๆ สามสี่ทุ่มก็ยังมีคนแวะเวียนมากิน
คอมเมนต์ : น้ำซุปดี หมูมันแทรกดีงาม เส้นใหญ่ไปหน่อยแต่ก็เปลี่ยนไม่เป็น 55555
พอกลับไทยมากินเส้นเล็กดู สรุปเส้นใหญ่ๆก็ดีแล้วแหละ 5555
(15.5)
ของหวานตบท้ายหลังกินราเมน
ตอนออกไปเดินเล่นต่อ ผ่านถนนสายบาร์โฮส ขากลับเลยได้แวะลอว์สัน
พุดดิ้งชีสเค้กฮอกไกโดอะไรส
ักอย่าง ราคา108เยนประมาณ32บาท
คอมเมนต์ : หอมนม อร่อยละมุนลิ้นจากชีส เนียนนุ่มจากแป้งพุดดิ้ง สรุปคืออร่อยมากกกกกกกกก ให้ความอร่อยเสมอกับไดฟุกุสตรอเบอรี่หน้าวัดโทไดจิเลยเอ๊า
ของหวานในร้านสะดวกซื้อที่เดอะเบสที่สุดในทริปนี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in