“...” “...” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง...
ผมรู้สึกกระสับกระส่ายและโกรธตัวเองแทบบ้าที่มัวแต่นั่งมองท้องฟ้าค่อยๆมืดลงทุกทีป่านนี้คุณถึงบ้านแล้ว บ้านที่ว่างเปล่าคอยคุณอยู่ ผมรู้สึกโกรธตัวเอง ทำไมผมถึงต้องขาเจ็บ นั่นคือสิ่งที่ผมโกรธตัวเองมากที่สุดนั่นมันแย่ แย่ยิ่งกว่าการที่ผมถูกทิ้งในคืนพายุเข้าข้างถนนวันนั้นเสียอีก ...
ในห้องที่พวกเขายืนอยู่ด้วยกันเงียบสนิท เงียบจนจัสตินรู้สึกว่า เขาได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาแขวนผนังกระดิกดังพอ ๆ กับเสียงหายใจและเสียงของหัวใจ แคลเรนซ์เงียบจนเขาเริ่มใจหาย และรู้สึกว่าตัวเองอาจคิดผิดเมื่อตัดสินใจเอ่ยถามอีกฝ่ายเรื่องอีไล สเติร์นที่รู้มาจากอาเธอร์ คาวานาห์ อาจารย์ที่ปรึกษาของตนเอง ถึงอีกฝ่...
ผมยืนอยู่ที่สี่แยก คุณเคยเล่นเปียโนด้วยผมชอบเวลาคุณเล่นเปียโนเช่นกัน ผมชอบคุณตลอดเวลานั่นแหละจริงๆแล้วเสียดายที่คุณต้องเสียสละเปียโนไป คุณไม่อยากหรอกผมรู้ สีบนท้องฟ้าค่อยๆเปลี่ยนไป...
คราวนี้ผมเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆแล้วผมอยากจะร้องไห้ละ...จริงๆหัวใจผมเจ็บแปลบยิ่งกว่าข้อเท้า(ไม่ได้เพ้อเจ้อ เผื่อคุณบอกว่าผมเพ้อเจ้อ นี่คือผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะไอ้ความรู้สึกว่างๆในอกนี่น่ะ คนในโทรทัศน์พูดความจริงนะคุณไอ้ความรู้สึกนี่มันมีจริง ไม่ได้โม้แบบที่คุณบอกสักหน่อย)...
เธอ-เจ้าของผมสีบลอนด์สว่างและนัยน์ตาสีฟ้า เธอที่ผมเห็นมาตั้งแต่เกิดเธอที่วางผมไว้ในกล่องและเดินจากไปผมเสียใจก็จริงตอนนั้นคุณเองก็ลังเลเช่นกันบ้านของคุณแตกต่างจากบ้านของเธอมาก...
ความตั้งใจของผมที่จะกลับไปหาคุณให้ทันเวลาด้วยเนื้อตัวที่สะอาดเอี่ยมอ่องนั่นกลายเป็นความฝันลมๆแล้งๆโง่ๆงมๆของผม (แน่นอน คำนี้ก็จำมาจากโทรทัศน์) ขนสีเทาอ่อนของผมกลายเป็นสีขี้โคลนอันที่จริงมันไม่ใช่สีขี้โคลน มันคือขี้โคลน ผมมีโคลนและดินก้อนใหญ่ติดอยู่ที่ก้นหางแล้วก็หลัง ให้ตายเถอะ! ผมสะอาดและมีคุณอาบน้...
คุณที่ใช้กระเป๋าจนเก่าขาดแต่ว่าซื้อปลอกคอให้ผมใหม่อยู่บ่อยๆ คุณที่ชอบกอดผมตอนที่ร้องไห้ ...
คิดเอาเองว่าถ้าหากว่าเดินแล้วเลี้ยวขวาไปทางนี้น่าจะเจอหน้าบ้าน ผมกลัว...ประสบการณ์เมื่อสมัยยังเป็นเด็กไม่ได้บอกผมว่าโลกข้างนอกนี่ดีนักคุณจะเปิดเข้าไปเจอบ้านว่างเปล่า...
อาเธอร์ คาวานาห์เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของเขาทั้งในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เป็นอัลฟ่าชายตามแบบแผนโดยแท้ในด้านกายภาพ แต่ในด้านความคิดอ่านแล้ว เขาแสดงตัวอย่างชัดเจนว่า ให้โอกาสทุกคน โดยเฉพาะเบต้าและโอเมก้าที่มีความสามารถเพียงพอ ข้อเสียที่เขามีคือ รับงานมากจนล้นมือ และบางทีก็ไม่มีเวลามากมายถึ...
ผมมองสำรวจรอบๆอีกครั้งก่อนจะเห็นบริเวณผุๆพังๆของรั้วด้านหลังที่ดูเหมือนสามารถแตกหักได้ในการพุ่งชนครั้งเดียวเอาเถอะ!...
ใบหน้าของเขาก็คงเคยมีเหลี่ยมมุมกรามคมสันอยู่หรอก หากแต่กาลเวลาและเบียร์ขวดแล้วขวดเล่าก็ช่วยเปลี่ยนให้กลายเป็นแก้มอูมและชั้นคางห้อยย้อยในปัจจุบันไปเสียแล้ว ฝ่ายนั้นยื่นแก้วที่เหลือเพียงน้ำแข็งมาตรงหน้า ข้าพเจ้ารับมาชงให้ มีเสียงสั่งกำกับปริมาณสุราและโซดาดังมาสองสามคำประกอบกระบวนการก่อนจะยื่นมือมารับแ...
ผมถอนหายใจอีกครั้งเงยหน้าหยีตามองพระอาทิตย์ พยายามคิดว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงผมอาจจะตัวเลอะหรือบาดเจ็บหรืออะไรได้ทั้งหมดแต่คุณจะกลับมาเจอบ้านที่ไม่มีผมไม่ได้เด็ดขาด ผมก็คิดว่ามันโอเคสำหรับผมเหมือนกัน...
ผมโน้มตัวไปด้านหน้าอีกนิดเพื่อดมกลิ่นให้สะดวกอีกหน่อย ใบไม้ของฤดูใบไม้ร่วงที่ร่วงเต็มพื้นกระจายขึ้นมากลิ่นอับๆของใบไม้ที่ทับมกันทำให้ผมต้องย่นจมูกฟุดฟิดผมจะกลับขึ้นไปยังไงดี...
“ไม่เป็นไรนี่คุณดูดีเสมอ” ผมบอกคุณ ...