เรื่อง: แท็กซี่มีแมวผู้เขียน: Yuji Nagamoriผู้แปล: อุภาวรรณ เบ็ญจโภคีสำนักพิมพ์: กำมะหยี่ราคา: 300 บาท
คะแนนความชอบหลังอ่านจบ: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (5/5)
คำโปรยหลังปก:
"เรื่องราวของแมวที่เข้ามาเชื่อมความสัมพันธ์ เข้ามาทำให้โลกของหลายคนมีความหมาย อบอุ่น ซาบซึ้งตรึงใจ ไม่ว่าชอบแมวหรือไม่ก็อ่านได้อ่านดี
เขาไม่อยากสืบทอดกิจการโรงงานผลิตสกรูของครอบครัว
เขาจึงเลี่ยงไปทำอาชีพครูสอนหนังสือ เพื่อพบว่าไม่สามารถเป็นครูที่ดีได้
เขาเปลี่ยนไปขับแท็กซี่ เพื่อพบว่าผู้โดยสารทำให้เขาหวาดหวั่น
ทุกคนรอบตัวดูพร้อมจะกดขี่ ข่มขู่ ทำให้เขากลัวหัวหด
จนกระทั่งเขาได้พบกับแมวจรจัดน้ำหนักเกินตัวนั้น
และเมื่อมันขึ้นมานั่งในรถแท็กซี่ที่เขาขับโดยบังเอิญ
ทุกอย่างรอบตัวก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
รวมทั้งตัวของเขาเองด้วย…
อบอุ่นประทับใจ ซาบซึ้งตรึงจิต เรื่องราวของปุถุชนคนสามัญผู้เคยท้อถอย หลงทาง รั้งท้ายอยู่บนถนนชีวิต เรื่องราวของแมวที่เข้ามาเชื่อมความสัมพันธ์ เข้ามาทำให้โลกของหลายคนมีความหมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุกขึ้นมาค้นหา ฝ่าฟัน เดินไปบนทางชีวิตของตัวเอง อย่างเต็มใจ อย่างเลือกแล้วว่าใช่ -- ไม่ว่าจะชอบแมวหรือไม่ก็ตาม"
ความเห็นส่วนตัวหลังอ่านจบ:
คือดีงามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม มากสามสิบเเปดล้านล้านประการ
อันนี้ไม่ได้เข้าข้างเพราะเป็นทาสแมวอยู่แล้วด้วยหรอกนะ (เชื่อสิ จริง ๆ นะ)
แต่จะบอกว่าเนื้อหาที่เขาเขียนนั้นเขียนได้ดีมากจริง ๆ
อ่านแล้วก็รู้สึกผูกพันกับตัวละครได้อย่างไม่น่าเชื่อ พอได้อ่านความคิดเห็นบางอย่างจากมุมของคนที่เราไม่เคยคิดว่าอยากจะเข้าใจหรืออยากจะสัมผัสมุมมองและตัวตนของเขามาก่อน ก็เปิดโลกทัศน์ดีเหมือนกันนะ
(แม้จะรู้ดีอยู่หรอกว่าเป็นแค่ตัวละครสมมุติในนิยาย แต่คนเขียนก็ทำให้เราเชื่อได้จริง ๆ ว่าพวกเขามีตัวตนอยู่ ซึ่งตรงนี้ขอชื่นชมจากใจ)
เรื่องจะเป็นแนวเรื่อย ๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น ใครที่ไม่ชอบอ่านอะไรแบบนี้อาจมีหลับไปกลางอากาศได้เลย (ฮา) เพราะเรื่องแทบจะไม่มีอะไรพีคเท่าไรเลย
จริง ๆ แล้วคือก็มีไคลแมกซ์ของมันนะ แต่ว่ามันเป็นแบบญี่ปุ่นจ๋าาาาาาาาาาาาาาา จนอาจจะทำให้คนที่ไม่ชินกับวรรณกรรมแปลจากญี่ปุ่นจะเบื่อและง่วงม๊ากกกไปเลย
แต่ส่วนตัวเราชอบมาก แล้วก็รู้สึกว่าปัจจุบันนี้นิยายแปลจากญี่ปุ่นหายไปจากตลาดหนังสือในเมืองไทยมากพอควร
พอมาเจอเล่มนี้ก็เลยรู้สึกดีใจมาก แถมเป็นแนวที่เราชอบอีกต่างหาก ก็เลยอยากจะอ่านตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ออกเป็นเล่มดีด้วยซ้ำ คืออยากจะพรีออเดอร์ แต่ก็ขี้เกียจ เลยรอจนหนังสือออกปุ๊บ แล้วค่อยไปซื้อมาอ่านในทันทีนี่แหละ เรียกว่าลัดคิวเล่มอื่นที่ดองไว้ (หนักมาก) มาอ่านก่อนเลยนะ 55555
อันที่จริงต้องขอขอบคุณเพื่อนที่อุตส่าห์โทรมาบอกพิกัดและยังหยิบหนังสือไปจ่ายเงินให้ก่อน (เพราะบนชั้นวางเหลือแค่ 4 เล่มเอง) จากนั้นเรารีบออกจากบ้านตามไปรับหนังสือกับเพื่อน ช่างทุ่มเทจริง ๆ อยากอ่านแรงเบอร์นั้นเลยเเหละ ท่านผู้ชม 5555
ข้อเสียคือหนังสือมีส่วนเนื้อหาที่เปิดมาเป็นประเด็นให้เก็บไปเล่นต่อหรือสามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของคนในเรื่องได้อีกหลายปม แต่คนเขียนกลับไม่ยอมเคลียร์ปมเล็ก ๆ พวกนั้นเลยสักนิด เล่นตัดจบไปดื้อ ๆ ก็คือเอาเเต่เมนสตอรี่หลักจบแบบสวย ๆ อบอุ่นอะนะ
ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าคนเขียนเขาเขียนขมวดปมทุกปม ทั้งประเด็นใหญ่และยิบย่อยที่อุตส่าห์เล่ามาตั้งเยอะเเยะหลายบทให้ได้หมดทุกประเด็นที่เปิดไว้จะดีมาก ๆ เลย ไม่สิ จะเพอร์เฟ็คเลยแหละ
แต่ถึงอย่างนั้นเเล้ว การที่คนเขียนจะไม่เขียนปิดประเด็นยิบย่ยอยที่เราบอกไปในข้างต้น ก็ยังทำให้คนอ่านที่เรื่องมากอย่างเรายังสามารถอ่านจนจบได้ด้วยดีนะ คือที่ไม่ได้เฉลย/ขมวดจบให้ดีหลายประเด็นนั้น มันไม่ได้ทำให้คนอ่านรู้สึกติดค้างอะไรมากมายเท่าไรหรอก จริง ๆ 555
โดยสรุปคือทาสแมวทั่วไปอ่านได้ แต่อาจจะไม่อินมาก
ส่วนทาสแมวสายชอบวรรณกรรมญี่ปุ่นเล่มนี้เรียกว่า A MUST จ้ะ!
ปล. เจอคำผิดสองที่
ที่แรกพิมพ์ซ.โซ่เป็นช.ช้าง เลยคิดว่าน่าจะพิสูจน์อักษรตกไป
ส่วนที่ที่สอง พิมพ์ว่า "ภาพพจน์" แทนที่จะเป็นคำว่า"ภาพลักษณ์"
ความหมายของคำทั้งสองคำนี้ต่างกันมากและคนทั่วไปมักใช้ผิดบ่อย ๆ (อันนี้ไม่ว่ากัน)
แต่ส่วนตัวเราคิดว่าสำนักพิมพ์กำมะหยี่ไม่น่าจะผิดเรื่องง่าย ๆ แค่นี้เลยนะ เลยแอบผิดหวังนิดหนึ่ง
ปปล. มิโกะงามิซังน่ารักมาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in