เราได้มีโอกาสไปดูละครเวทีเรื่อง CLOSER ของ LiFE Theatre แคสต์ ปีเตอร์ ออร์แกน อ้น และก้อย มา ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อนเลยทั้งละครเวทีที่เมืองนอกและภาพยนตร์ นี่เป็นเวอร์ชั่นแรกที่เราได้ดู และเตือนไว้ก่อนว่าเนื้อหาในโพสต์นี้มีสปอยล์แน่นอน
(ขอบคุณภาพประกอบจากFacebook Page: Life THEATRE ด้วยค่ะ <3)
ตอนแรกที่เราเห็นคำโปรยว่าเรื่องนี้เป็นละครที่จะทำให้เห็นความเป็นมนุษย์ในทุกความสัมพันธ์ของความรัก เราก็กังวลแล้วว่าเราจะทำความเข้าใจตัวละครหรือสามารถปล่อยตัวเองให้ไหลไปกับตัวเรื่องได้หรือเปล่านะ แต่พอถึงเวลาจริงเมื่อไฟในโรงละครดับลงและเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งพร้อมนักแสดงบนเวทีเราก็เริ่มปล่อยตัวเองให้เนื้อเรื่อง การแสดง และบทสนทนาของพวกเขานำเราไป
ในเรื่องนี้เราได้เห็นความรัก ความสุข ความเศร้า ความโกรธ และการนอกใจกัน ของตัวละครซึ่งก็คือมนุษย์คนนึง และใช่ เรื่องนี้พูดถึงเซ็กซ์อย่างเปิดเผยมาก แรก ๆ เราตกใจเพราะไม่ชินกับการที่ใครพูดเรื่องเซ็กซ์อย่างละเอียดเท่านี้ การที่ละครเรื่องนี้ให้ตัวละครพูดว่าพวกเขาทำกันยังไงบนเวทีอาจจะดูแปลกใหม่สำหรับเราแต่ก็มานึกได้ว่ามันก็เป็นสิ่งที่มนุษย์เราพูดกันเมื่อเราอยู่กับคนรัก (หรือคู่นอน) ของเราไม่ใช่เหรอ ในเรื่องนี้ก็เหมือนเราได้แอบดูชีวิตของคู่รักสองคู่–คนสี่คน ที่เริ่มจากการเป็น ‘คนแปลกหน้า’ ไปสู่ ‘คนรัก’ พวกเขามีความสัมพันธ์บางอย่างที่ซับซ้อน และสุดท้ายทุกคนก็กลายเป็น ‘คนแปลกหน้า’ ของกันและกันอีกครั้ง มันก็เหมือนกับชีวิตคนคนนึงที่ผูกพันและเกี่ยวโยงกับคนอื่นมากมาย เริ่มจากการเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน และสักวันเรากับคนคนนั้นอาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้าอีกครั้งก็ได้
(จากนี้มีสปอยล์ เพราะเราจะพูดถึงฉากที่ชอบในเรื่องและพูดถึงตัวละครบางตัวที่เรารู้สึกรีเลตด้วย)
**Disclaimer อันนี้เป็นความรู้สึกและการตีความของเราเท่านั้น อาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็ได้ เราอาจจะแค่รู้สึกไปเอง
เราสนใจตัวละคร “แดน” ในความสัมพันธ์กับอลิซมาก เขาเอาเรื่องราวของอลิซมาเขียนหนังสือ ให้อลิซเป็นแรงบันดาลใจของเขา เขาดูเหมือนจะรักอลิซแต่ก็ดูไม่ได้ใส่ใจอลิซขนาดนั้นเลย
ตอนที่ทั้งคู่เจอกัน พวกเขาต่างเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน แดนช่วยอลิซหลังจากที่เธอกระโดดลงไปบนถนน ประโยคแรกที่เธอพูดกับเขาคือ “สวัสดี คนแปลกหน้า” จากนั้นพวกเขาก็พากันไปโรงพยาบาล ระหว่างรอหมอเขาก็คุยกัน เราจำได้ว่าอลิซพูดตอนนั้นว่าเธอ “อยากเป็นคนที่ถูกรัก” จนเมื่อเธอกับแดนมาเป็นคนรักของกันและกัน เรารู้สึกว่าอลิซรักแดนนะ แต่แดนน่ะ รักอลิซไหม เขาเคยบอกว่าเขาอยู่โดยขาดอลิซไม่ได้ แต่พออลิซต้องการความรักจากเขาเขากลับให้เธอไม่ได้เหมือนกัน
“ทำไมกันอะ…” เป็นคำถามที่อยู่ในใจเราตอนนั้น ทำไมแดนถึงพยายามปัดอลิซตลอด ทั้งที่อลิซก็รักเขา แล้วในเมื่อเขาไม่สามารถให้ความรักกับอลิซได้ทำไมเขาไม่ปล่อยเธอไป? เป็นความสัมพันธ์ที่งงมาก แต่ก็นึกได้ว่าหลายครั้งมนุษย์เราเองก็เคยไปอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนกัน
อีกอย่างที่เราสังเกตคืออลิซใส่ใจแดนมาก เธอตัดขอบขนมปังให้แดนเพราะวันแรกที่เจอกันเธอเห็นว่าแซนด์วิชในกระเป๋าแดนทำจากขนมปังที่ตัดขอบ อลิซเลยตัดขอบขนมปังให้แดนมาตลอด เห็นเลยว่าเธอรักเขามาก ในขณะเดียวกันแดนกลับไม่เคยถามถึงแผลเป็นของอลิซเลย (หรือเคยถาม แต่ไม่เคยคิดจะถามความจริง อลิซบอกว่าเป็นแผลเป็นจากอุบัติเหตุหรือถูกทำร้ายแดนก็ไม่ถามต่อ) กลับกันตอนที่แลร์รี่ไปเจออลิซที่คลับของนักเต้นเปลื้องผ้าเขากลับพยายามถามถึงแผลเป็นของอลิซ พยายามจะรู้ให้ได้ว่าอดีตของอลิซเป็นยังไง เธอเคยเป็นใครมาก่อน น่าสนใจดี…
สำหรับเราอลิซเป็นคนที่น่าสงสาร ถึงจะมีหลายครั้งที่เราเห็นตัวละครนี้แล้วแอบโมโหในใจแต่เราก็สงสารเขามาก ๆ เช่นกัน เด็กผู้หญิงคนนึงที่ต้องปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนสู้ชีวิตมาด้วยตัวคนเดียวตลอด หวังว่าจะมีใครสักคนที่เป็นที่คุ้มภัยให้เธอและรักเธออย่างที่เธอต้องการจะเป็นที่รัก เธอต้องเข้มแข็งขนาดไหน เป็นตัวละครนึงที่อยากกอดว้มาก ๆ เลย
พอพูดแบบนี้เราก็นึกถึงประโยคที่แลร์รี่พูดกับแดน “เขาไม่ได้อยากถูกเอาไปเขียนเป็นหนังสือหรอก… เขาอยากถูกรัก…”
อันนี้เป็นรายละเอียดเล็กน้อย แต่เราชอบตอนที่แดนยืนกับอลิซแล้วชมว่าภาพอลิซที่อยู่บนผนังสวยมาก แล้วอลิซที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ฉันอยู่ตรงนี้” สำหรับเรามันเหมือนมีความหมายว่า “เธอจะชมภาพฉันบนผนังไปทำไมในเมื่อฉันอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ เธอแล้วนี่” เป็นประโยคที่ดูไม่มีอะไรแต่เราว่ามันมีเสน่ห์บางอย่างจริง ๆ ชอบมาก ๆ
อีกตัวละครที่เราชอบคือแอนนา สำหรับเราแอนนาเป็นคนสวยที่มีดวงตาและน้ำเสียงแสนเศร้า การเคลื่อนไหวเธอดูเนิบช้า เยือกเย็น สะกดสายตาเรามาก และเราคงพูดเหมือนกับที่แดนพูดกับเธอที่สตูดิโอ “คุณสวย” เธอสวยจริง ๆ ถ้าเป็นคนที่เราเจอในชีวิตประจำวันจริง ๆ ก็คงเป็นคนที่เราจะตกหลุมรักสีหน้าท่าทางของเขาตั้งแต่แรกพบเลย ต้องชื่นชมนักแสดงด้วยจริง ๆ เก่งมาก ๆ (ไม่รู้ว่าภาพแอนนาในบทกับภาพแอนนาในความคิดเราจะตรงกันแค่ไหน แต่สำหรับเราเราชอบแอนนาแคสต์นี้มากและเรามองว่าเขาคือคนแบบที่เราพูดไปก่อนหน้านี้)
สำหรับเราแอนนาเป็นตัวละครที่เราตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็นแต่พอดู ๆ ไปเราก็เริ่มไม่มั่นใจว่าเราควรรู้สึกยังไงกับเขาดี มีอะไรหลายอย่างตีกันในหัวเราตอนเฝ้าดูชีวิตเขา ทุกความรู้สึกปนกันไปหมดจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกยังไง แต่เขาก็เป็นตัวละครที่เราชอบมากตัวนึงเลย
ชอบการเจอกันของแอนนากับแลร์รี่มาก ตอนแรกเริ่มจากคนแปลกหน้า(ที่แลร์รี่ดูเป็นคนโรคจิต)ในอควาเรียม จนเขาทั้งสองได้เป็นคนรักกัน เราชอบเวลาแลร์รี่อยู่กับแอนนาจัง ตอนที่เขาไปงาน exhibition ที่แอนนาจัด ตอนที่เขากลับบ้านแล้วพูดคุยกับแอนนา ส่วนตัวคิดว่านี่เป็นมุมน่ารักของตัวละครนี้ในแคสต์นี้ (เราไม่มั่นใจว่าแคสต์อื่นอีก 2 แคสต์จะตีความมาต่างจากแคสต์นี้มากน้อยแค่ไหนเลยขอพูดไว้แบบนี้ก่อน) จนตอนที่เขาทะเลาะกับแอนนาเราก็รู้สึกว่าตัวละครนี้น่ากลัวจัง ดูเป็นคนที่อารมณ์รุนแรงมาก ๆ คนนึง สารภาพว่าตกใจตอนเขาตวาดแอนนา
นอกจากนี้เราชอบฉากที่แอนนามาเจออลิซแล้วทั้งสองคนนั่งคุยกันมาก ๆ อาจเพราะตัวแคสต์เองทำให้เราเห็นได้ชัดว่านี่คือผู้หญิงวัยทำงานที่ดูผ่านอะไรมามาก กับหญิงสาววัย 20 กว่า ๆ ที่ก็ผ่านอะไรมามากมายไม่แพ้กัน ชอบมากจริง ๆ
อีกฉากที่ชอบ(และชอบที่สุด)คือตอนที่แลร์รี่ไปเจออลิซที่คลับแล้วพยายามเค้นชื่อที่แท้จริงของอลิซ ฉากนั้นท่าเต้นของอลิซดูยั่วยวนมาก ชอบ เพลงอะไรก็เข้ากันหมดเลย อีกสิ่งที่ชอบคือพอเป็นเวลางานอลิซก็ตอบแลร์รี่เท่าที่เธอจะตอบได้(และอยากตอบ) นั่นทำให้บทสนทนาของแลร์รี่กับอลิซดูเหมือนเกมจิตวิทยา ไม่รู้เลยว่านี่อลิซกำลังพูดความจริงไหม แต่ขณะเดียวกันเธอก็ดูเหมือนหุ่นยนต์ที่ถามคำตอบคำมากเช่นกัน เป็นอะไรที่ดูเหมือนถูกโปรแกรมไว้แต่ก็ดูกวนประสาทมากเหมือนกัน
(ชอบประโยค “ตอนผมมีไฟคุณยังใส่ผ้าอ้อมอยู่เลย”
“แต่ผ้าอ้อมฉันลุกเป็นไฟนะ” มาก 5555555)
นั่นแหละ บรรยายฉากที่ชอบหมดแล้ว ถือเป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วเปิดประสบการณ์ เหมือนได้ไปเห็นชีวิตคน เห็นเขารักกัน นอกใจกัน ทะเลาะกัน แล้วก็แยกจากกันไป ดูแล้วรู้สึกว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลก สวยงามแต่ก็ซับซ้อนมากในเวลาเดียวกัน ดีใจที่ได้มาดูละครเรื่องนี้ แม้ว่าตัวเราเองอาจจะยังไม่สามารถเข้าใจการกระทำตัวละครได้ทั้งหมดและตัวเราเองก็ยังขาดประสบการณ์เรื่องความรักความสัมพันธ์มาก แต่ก็…นี่แหละมนุษย์ (อ้าว!) บางทีเราก็ไม่ต้องทำความเข้าใจไปซะหมด ปล่อยให้มันเป็นไป ดูว่าตัวละครจะทำยังไงต่อไปก็พอแล้วนี่นา!
ขอชื่นชมทุกคนที่เกี่ยวข้องเลย ทุกฝ่าย ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง เก่งกันมาก ๆ เรื่องนี้นักแสดงเปลี่ยนชุดหลายชุดมาก ฉากก็เยอะมาก ทีมหลังม่านต้องคอยจัดฉากใหม่ตลอด เก่งมากจริง ๆ ฉาก แสง เสียงก็ออกแบบมาดีมากก สวยอะ เนรมิตสถานที่ได้ไม่ซ้ำเลยทั้งที่เวทีมีจำกัด สุดยอดจริง ๆ ขอบคุณทุกคนที่สร้างสรรค์งานนี้ออกมา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in