เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Sleeveless Loverainbowflick17☂️
Hot Saturday : วันเสาร์เร่าร้อนกับคู่จิ้นฮอลลีวูด

  • วันนี้มาเล่าเรื่องซุบซิบเรื่องหนึ่งในฮอลลีวูดเมื่อหลายปีก่อนให้ฟังกันค่ะ เป็นข่าวลือที่คนให้ความเชื่อถือกันครึ่งต่อครึ่ง และยังคงเถียงกันอยู่จนกระทั่งวันนี้

    ก่อนอื่นขอแนะนำตัวละคร

    แครี แกรนต์ (Cary Grant) เกิดที่บริสโตล ประเทศอังกฤษ เป็นนักแสดงชาวบริติช-อเมริกันที่มีชื่อเสียงมาก ได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงนำชายที่เห็นหน้าเป็นประจำคนหนึ่งของฮอลลีวูดคลาสสิก ถึงขนาดมีคนเคยพูดว่า 'ใครๆก็อยากจะเป็น แครี แกรนต์'  (ซึ่งแกรนต์ก็ตอบกลับไปว่า 'ผมก็เหมือนกันครับ'  เนื่องจากกว่าจะก้าวมาเป็นขวัญใจฮอลลีวูด เขาเริ่มต้นมาจากศูนย์ และมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย)


     ใบปิดภาพยนตร์เรื่อง Charade (1963) ร่วมแสดงกับนักแสดงสาว(2 ออสการ์) ชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี 


                 ตอนอายุห้าขวบ พ่อเขาส่งแม่ไปโรงพยาบาลรักษาโรคทางจิต แล้วโกหกเขาว่าแม่ 'ไปเที่ยววันหยุดยาว' ต่อมาจึงบอกว่าเธอเสียชีวิต จากนั้นจึงพาแกรนต์ย้ายไปอยู่กับย่า ไม่นานต่อมาเมื่อแกรนต์อายุหกขวบ พ่อก็แต่งงานใหม่แล้วย้ายไปอยู่กับครอบครัวนั้น โดยไม่ได้เอาแกรนต์ไปด้วย อีกทั้งเรื่องที่พ่อบอกว่าแม่เสียชีวิตนั้นเป็นเรื่องโกหก ซึ่งกว่าแกรนต์จะรู้ก็อายุปาเข้าไป 31 ตอนนั้นถึงได้ทำเรื่องพาแม่ออกมาจากโรงพยาบาล
                  ความห่างเหินกับครอบครัวนี้เองทำให้เขาเป็นเด็กเข้าสังคมยาก และหันหน้าไปหาเวที ชมการแสดง และต่อมาได้ร่วมแสดงด้วย เมื่ออายุหกขวบ ได้ร่วมแสดงในคณะละคร เดอะ เพนเดอส์ (The Penders) ทำให้เขามีประสบการณ์ด้านการแสดงมาตั้งแต่อายุยังน้อย
                  ปี 1915 เขาได้ทุนเข้าเรียนที่  Fairfield Grammar School เป็นเด็กเรียนดี กีฬาเด่น และป็อป ได้รับความสนใจจากทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย แต่ว่าดื้อจัด ไม่ทำการบ้าน ตอนเย็นๆชอบไปทำงานข้างหลังเวที (แบคเสตจ;ฺ backstage) ให้โรงละคร ช่วงหยุดฤดูร้อนก็ทำงาน ทำอะไรก็ได้ให้ไม่ต้องอยู่บ้าน เพราะอยู่แล้วไม่มีความสุข 


    แครี่ แกรนต์ ภาพจาก บล็อก El laberinto de eboli


                    ปี 1918 โดนไล่ออกจากโรงเรียน สาเหตุมีหลายกระแส บางคนก็ว่าไปเจออยู่ในห้องน้ำหญิง บ้างก็ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการขโมย บางคนก็บอกว่าเขาตั้งใจให้โดนไล่ออก เพื่อจะได้ไปร่วมกับคณะละครได้สะดวกยิ่งขึ้น
                    หลังจากออกจากโรงเรียนก็กลับไปอยู่กับ เดอะ เพนเดอส์ ทัวร์แสดงไปรอบ ๆ ประเทศ ได้ขึ้นมารับบทนำ และจากนั้นไม่นานก็ไปอเมริกา ในที่สุดช่วงต้น 1930s ก็เข้าไปอยู่ในฮอลลีวูด  แรก ๆ เล่นหนังแนวอาชญากรรมและดราม่า เช่น  Blonde Venus(1932) , She Done Him Wrong (1933) ก่อนจะเปลี่ยนสายมาเป็นเจ้าพ่อหนังรอมคอม (โรแมนติก-คอมเมดี้) หลายๆเรื่องที่เขาเล่นก็ได้ชื่อว่าเป็นหนังคอมเมดี้อมตะในเวลาต่อๆมาด้วย 
                    แกรนต์แต่งงานทั้งหมดห้าครั้ง 


    แครี่ แกรนต์ ภาพจาก Jake-weird
  •       



             แรนดอล์ฟ สก็อต (Randolph Scott)  นักแสดงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงมากเช่นกัน เป็นลูกชายคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน พ่อแม่เป็นชาวสกอตติช-อเมริกัน บ้านค่อนข้างมีฐานะ ทำให้ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน 
            ตอนอายุ 19 ปี เขาเข้าร่วมกองทัพอเมริกาเนื่องจากมีสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และถูกส่งไปอยู่ที่ฝรั่งเศส หลังจากสงครามจบก็อยู่ฝรั่งเศสต่ออีกพักหนึ่งในโรงเรียนทหาร ก่อนจะกลับมาเรียนต่อที่อเมริกา ตอนนั้นวางแผนจะเข้าร่วมทีมฟุตบอล แต่เนื่องจากมีอาการบาดเจ็ดบริเวณหลังจึงล้มเลิกความตั้งใจไป จากนั้นก็ย้ายไปเรียนวิศวกรรมอุตสาหกรรมสิ่งทอ

    สก็อต ภาพจาก Gettyimages

           จนกระทั้งปี 1927 เขาถึงเริ่มสนใจการแสดงขึ้นมา พ่อของเขาช่วยเขียนจดหมายไปแนะนำลูกชายให้ผู้กำกับ เขาได้บทเล็ก ๆ ในหนังโรแมนติกคอมเมดี้ จากนั้นก็เป็นเอ็กซ์ตร้ามาเรื่อยๆ จนปี  1931 ได้เล่นบทนำครั้งแรกในหนังเรื่อง Women Men Marry ไต่ลำดับไปเรื่อยๆ จนได้เล่นหนังเกรด B และ A สก็อตแสดงหนังหลากหลายแนว แต่แนวที่เขาโด่งดังที่สุด คือแนว เวิสเทิร์น (ใส่หมวกคาวบอย ถือปืน) ซึ่งได้นำประสบการณ์การเป็นทหารมาใช้ประโยชน์ด้วย

    สก็อต ภาพจาก People.ru 

         ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาพยายามจะกลับไปร่วมรบอีกครั้งโดยสมัครเป็นนาวิกโยธิน แต่ถููกปฎิี่เสธเนืี่องจากอาการบาดเจ็บบริเวณหลังเจ้าปัญหาเจ้าเดิม แต่เขาก็ยังพยายามจะมีส่วนร่วมต่อไปโดยร่วมทัวร์การแสดงกับ Joe DeRita ใน Victory Committee showcase แล้วก็บริจาคสเบียงให้กับรัฐบาล   
       สก็อตแต่งงานทั้งหมดสองครั้ง 

  • Where it all began

    Hot Saturday (1932) ภาพจาก IMDB 

    ทั้งสองคนเจอกันครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Hot Saturday ในปี 1932 ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับข่าวลือ

    นับเป็นความบังเอิญอย่างหนึ่ง เพราะหลังจากนี้ชีวิตของทั้งคู่ก็ผูกพันอยู่กับข่าวลือไม่ต่างกัน

     หลังจากพบกันในกองถ่ายก็รู้สึกจะคุยกันถูกคอ กลายเป็นเพื่อนซี้กันไปตามท้องเรื่อง และไม่นานหลังจากนั้นก็ไปแชร์บ้านอยู่ด้วยกันที่  2177 W. Live Oak Drive ใกล้ๆ สวนกริฟฟิท (Griffith Park) โดยทางเอเจนซี่ของทั้งคู่ก็ออกมาให้คำอธิบายว่า เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย  

    หลังจากนั้น ปลายๆช่วง 1930s ก็แชร์บีชเฮาส์ที่ซานตาโมนิกากันอีก ทั้งสองคนแชร์บ้านอยู่ด้วยกันประมาณ 11 ปี 


     "Their relationship is perfect. Randy pays the bills and Cary mails them.” 

    Carole Lombard, เพื่อนของทั้งคู่


    พอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ข่าวลือว่าจริง ๆ เป็นมากกว่าเพื่อนก็ตามมา

                  ข่าวลือนี้แยกกระแส ฝ่ายที่เชื่อมองว่า ประหยัดอะไรกันคะ ทำไมดาราฮอลลีวูดชายโสดรวย 
     สองคนที่สร้างบ้านคนละหลังก็ได้ ถึงเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน ตั้งข้อสัณนิษฐานด้วยว่าเป็นเพราะช่วงนั้น (ปี 1930s) คนไม่ยอมรับเรื่องรักเพศเดียวกัน ทำให้ไม่กล้าเปิดตัวเพราะเสี่ยงไปถึงหน้าที่การงานและสถานะทางสังคมหรือเปล่า และการที่ทั้งสองคนค่อนข้างเปิดเผยในที่สาธารณะว่าสนิทกัน ก็เพื่อให้คนมองเป็นโบรแมนซ์* แล้วมองข้ามไปเลย แถมยังมีข่าวลือตามมาอีกว่าคนในวงการฮอลลีวูดเห็นว่าพวกเขาเคยไปเที่ยวตามย่าน lgbtq+ บางคนมียกขึ้นมาพูดให้ฟังอีกว่า แกรนต์เคยมีข่าวลือว่าชอบกับดีไซเนอร์หนุ่ม Orry-Kelly ด้วย 
                ส่วนฝั่งที่ไม่เชื่อก็มองว่าคิดมากกันไปเอง และการออกสื่ออาจทำเพื่อกระทบกระเทียบข่าวก็ได้

    *โบรแมนซ์ ซึ่งก็อาจจะมองได้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะเฉลิมฉลองมิตรภาพระหว่างผู้ชายด้วยกันในบางยุคสมัยอยู่แล้ว ซึ่งมันอาจจะมีความซับซ้อนด้านมุมมองทางเพศหลาย ๆ มุมซ่อนอยู่นะคะ  แต่ ณ ที่นี้จะยังไม่ขอพูดถึง 
     
    ภาพจาก Everythingzoomer (ถ่ายนิตยาสาร)

                 ปี 1934 ถึงแม้แกรนต์จะแต่งงานครั้งแรกกับ เวอร์จิเนีย เชอร์ริลล์ ( Virginia Cherrill)  ไปแล้ว ก็ยังไม่วายมีข่าวลืออีก บ้างก็ว่าแต่งเพราะสตูดิโอบังคับ เพื่อให้กลบข่าวเรื่องเป็นเกย์ไป การแต่งงานครั้งนี้อยู่ได้ประมาณ 13 เดือน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอหย่าด้วยเหตุผลว่า ขี้เมา อารมณ์ร้าย และ ไร้อารมณ์ทางเพศ รวมไปถัึงบอกว่าเขาใช้ความรุนแรงในครอบครัวด้วย




    Virginia Cherrill ภาพจาก wikipedia
    Virginia Cherrill ใน Charlie Chaplin

     บางกระแสบอกว่า ระหว่างที่แต่งงานฝ่ายชายก็ยังอยู่กับสก็อต ฝ่ายหญิงเองย้ายตามไปอยู่บ้านหลังนั้นด้วย ในขณะที่บางคนบอกว่าหลังหย่าตางหากถึงย้ายกลับไปอยู่กับสก็อต



    ภาพจาก My Favourite Wife Wikipedia

             ขณะถ่ายภาพยนตร์เรื่อง My Favourite Wife (ภาพยนตร์ที่มีทั้งสองคนแสดงด้วยกันมีแค่เรื่องแรกกับเรื่องนี้) เบิร์ต กราเนต (Bert Granet) ที่เป็น Sctipt Supervisor (คนที่คอยดูความต่อเนื่องของภาพยนตร์) เล่าว่า พวกเขามาถึงเซ็ตด้วยกัน และแทนที่จะแยกใช้คนละห้องกัน ก็เข้าไปในห้องเดียวกันซะอย่างนั้น ทุกคนในกองก็ได้แต่มองหน้ากันงง ๆ 

    Cary Grant, Irene Dunne, Randolph Scott in My Favorite Wife 


    ริชาร์ด แบลกเวลล์ (Richard Blackwell)  แฟชั่นดีไซเนอร์ เขียนในบันทึกความทรงจำ (memoir) ของเขาว่า ระหว่างที่เขาอยู่กับทั้งคู่เป็นเวลาหลายเดือน เขาเชื่อว่าระหว่างสองคนนี้มีความรัก


    ภาพจาก Semana (ถ่ายนิตยาสาร)


    ทั้งสองคนแยกทางกันในปี 1940  บางคนสันนิษฐานว่าเพราะถูกกดดัน แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และมีคนบอกว่าเจอนั่งกินข้าวด้วยกันสบาย ๆ  ในช่วงปลาย 1970s บางคนบอกว่าเห็นจับมือกันด้วยนะ (อารมณ์แฟนแอค เชื่อได้บ้าง เชื่อไม่ได้บ้าง) 


    แกรนต์เสียชีวิตในปี 1986 จากอาการเลือดออกในสมอง และสามเดือนต่อมา สก็อตก็เสียชีวิตจากโรงทางหัวใจและปอดค่ะ 




  • แต่ข่าวลือยังมีชีวิตอยู่ยั้นปี 2011 

    ลูกคนเดียวของแกรนต์เขียนในบันทึกความทรงจำ (memoir) ของตัวเองเรื่องพ่อ เป็นเชิงปฎิเสธว่าพ่อไม่ได้เป็นเกย์นะคะ โดยบอกว่า 'พ่อค่อนข้างชอบให้คนเรียกว่าเป็นเกย์นะ เขาบอกมันทำให้ผู้หญิงอยากพิสูจน์ว่ามันไม่จริงหรอก' 


    แต่ในปี 2016 สารคดี Women He's Undressed ของ
    ดีไซเนอร์หนุ่ม Orry-Kelly กลับพูดไปอีกทาง Orry-Kellyออกมาเปิดเผยว่า มีความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกกับแกรนต์จริงๆ ในปี 1920   ซึ่งตอนนั้นอยู่ในนิวยอร์ก แล้วก็กำลังปากกัดตีนถีบฝ่าฟันชีวิตกันทั้งคู่   โดยย้ายไปฮอลลีวูดด้วยกัน ก่อนจะแยกกันไปในปี 1930  




    เก็บตกรูปภาพ 






    ส่วนใหญ่เป็นภาพที่ถ่ายให้นิตยาสารแหละค่ะ 
  • References 

    Chetty, D. (2017, June 23). Pride Month: Cary Grant and Randolph Scott'A Hollywood Gay Couple? Retrieved from http://www.everythingzoomer.com/cary-grant-randolph-scott-a-hollywood-gay-couple/

    Grent, J. (n.d.). Cary Grant and Randolph Scott: A Gay Hollywood Romance. Retrieved from http://www.homohistory.com/2013/07/cary-grant-and-randolph-scott-hollywood.html

    Musto, M. (2010, September 22). Cary Grant and Randolph Scott: A Love Story. Retrieved from https://www.villagevoice.com/2010/09/22/cary-grant-and-randolph-scott-a-love-story/

    'My father liked being called gay,' admits Cary Grant's daughter in new memoir. (2011, April 28). Retrieved from http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1381342/Cary-Grants-daughter-admits-father-liked-called-gay-new-memoir.html

    Peterson, A. H. (2011, December 21). Scandals of Classic Hollywood: Cary Grant's Intimate Bromance. Retrieved from https://www.thehairpin.com/2011/12/scandals-of-classic-hollywood-cary-grants-intimate-bromance/

    Summer, C. (2016, August 9). Cary Grant's first American male lover: Star lived with designer. Retrieved from http://www.dailymail.co.uk/news/article-3731320/Was-Cary-Grant-secretly-gay-New-documentary-claims-legendary-Hollywood-star-lived-male-costume-designer-forced-cover-sexuality.html

    Terry. (2015, May 2). Cary Grant & Randolph Scott - Part I. Retrieved from http://gayinfluence.blogspot.com/2011/09/cary-grant-randolph-scott-part-i.html

    ภาพหน้าปก  the village voice

    -----------------------------------------------------------------


    หมายเหตุเพิ่มเติม  :  https://rbf17ref.home.blog/2019/05/03/notes-hot-saturday/


    *แปลและเรียบเรียงส่วนไหนผิดขออภัยล่วงหน้า ทักมาบอกได้เลยนะคะ 


     Contact / ช่องทางการบอก 
    Twitter direct message : @rainbowflick17

    E-mail : rainbowflick37@gmail.com


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Janst (@janst)
เพิ่งได้อ่านคู่นี้ โอ๊ยยย กร๊าวใจมากๆเลยค่ะ