Title: Gimme Some Scoops
Rating: PG
Fandom: NCT
Categories: M/M
Relationship: TAEYONG/JAEHYUN
Characters: TAEYONG, YUTA, JAEHYUN
น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ร้านไอศกรีมโฮมเมดเยื้องประตูฝั่งตะวันตกของมหาวิทยาลัย เป็นกิจการของบ้านตระกูลอี และผู้ที่รับหน้าที่ดูแลกิจการในบ้านพร้อม ๆ กับเรียนไปด้วยก็คือ อีแทยง ลูกชายคนเดียวผู้ขยันขันแข็ง
และด้วยภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ ทำให้ทุกเช้า แทยงต้องตื่นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นมาเตรียมร้าน รอจนพนักงานประจำมาถึงแล้วค่อยออกไปเรียน พอเลิกเรียนก็มาเฝ้าร้านต่อ บางทีก็เอางานมาทำด้วย ช่วงวันหยุดที่ไม่มีเรียนก็หมกตัวคิดค้นรสชาติใหม่ ๆ ให้ทันสมัย ทันเหตุการณ์ แต่ติดใจลูกค้าไปนาน ๆ
ทั้งหมดนี้แทยงทำด้วยความเต็มใจยิ่ง เขาไม่ได้มีความรู้สึกน้อยเหนือต่ำใจหรือรู้สึกว่ากิจการที่บ้านเป็นโซ่ตรวนของชีวิต เพราะเขารักงานที่ทำอยู่ตอนนี้มาก และการเรียนสาขาวิทยาศาสตร์อาหารของเขาก็เพื่อมาสานต่อกิจการที่เขารักยิ่งนี่แหละ
ร้านของบ้านเขาเปิดมาหลายปีแล้ว สาขาหน้ามหาวิทยาลัยเพิ่งเปิดก่อนเขาเข้ามาเรียนได้ไม่ถึงสองปี แม้จะไม่ใช้ร้านดังที่มีสาขาเยอะทั่วประเทศ แต่ก็พูดปากต่อปากกันในกลุ่มคนที่ชื่นชอบไอศกรีมโฮมเมด และร้านเขาก็ดึงดูดนักศึกษาได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าทำรายได้แข่งกับร้านสาขาแรกของพ่อที่อยู่กลางเมืองเลย
และวันนี้แทยงที่เพิ่งเรียนช่วงเช้าเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาประจำที่เคาท์เตอร์เหมือนเช่นทุกวัน สัปดาห์แรกของการเปิดภาคเรียนในฐานะนักศึกษาปีสามไม่ได้สาหัสนัก อาจารย์แค่แจ้งรายละเอียดคอร์สเรียนแล้วก็ปล่อยให้ไปทำอะไรตามอัธยาศัย ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างแทยงต้องกลับมาเฝ้าร้านอยู่แล้ว นี่แหละอัธยาศัยของเขาที่สุด
ชายหนุ่มนั่งอยู่หลังเคาท์เตอร์ ต่อบลูทูธเครื่องเสียงของร้านเข้ากับมือถือแล้วเปิดเพลงบอสซ่าฟังสบาย ๆ สร้างบรรยากาศ ร้านไอศกรีมของเขาตกแต่งด้วยโทนสีมินต์ ให้ความรู้สึกสดใสอยู่ตลอดเวลา หน้าร้อนลูกค้าเยอะมากเพราะอยากหลบร้อนหาอะไรเย็น ๆ แม้หน้าหนาวจะไม่ได้มีลูกค้าหนาตาแต่ก็มีคนแวะเวียนมาเรื่อย ๆ เพราะหวนคิดถึงหน้าร้อนท่ามกลางอากาศด้านนอกร้านที่ติดลบบ้าง
แทยงก้มหน้าก้มตากดเลือกเพลง พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้าร้าน
เด็ก (?) คนนั้นหันหน้าเข้ามาในร้าน สายตาจดจ้องโปสเตอร์ที่แปะอยู่ราวกับโดนสะกด แทยงจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าคือไอศกรีมมินต์ซันเดย์ ที่เขาทำขายเฉพาะช่วงเปิดเทอม เป็นรสชาติที่สื่อถึงความ ‘สดใหม่’ ของการเป็นนักศึกษา แถมมีส่วนลดให้เด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาเรียนด้วย แทยงมองท่าทางของเด็กคนนั้นแล้วหลุดยิ้ม ตารูปเรียวรี แต่นัยน์ตากลมนั้นค้างอยู่ที่รูปไอศกรีมบนโปสเตอร์ ริมฝีปากสีแดงเข้มเหมือนสตรอว์เบอร์รี่เชอร์เบตอ้ากว้าง กริยาที่ราวกับตกตะลึงในอะไรสักอย่างทำเอาเขาตัดสินใจเดินไปเปิดประตู
“เข้ามาในร้านได้นะครับ”
อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก ทำเอาเขาผงะ พอมายืนใกล้ ๆ จึงพบว่าคุณลูกค้าสูงกว่าเขานิดหน่อย ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เกิดจากการกัดสีปรกใบหน้าขาวจัดนั่น เด็กหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีขาวและสวมทับด้วยเสื้อยีนส์ กางเกงขายาวกับรองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าไว้ที่ไหล่ขวา ดูไม่ต่างจากนักศึกษาทั่ว ๆ ไป แค่หน้าตาดีกว่ามาตรฐานมากไปหน่อย
“…มีส่วนลดสำหรับนักศึกษาใหม่ด้วยใช่ไหมครับ”
ฟังคำถามแล้วแทยงก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม
“มีครับ”
เขาเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้านั้น รอยบุ๋มจาง ๆ ที่ผิวแก้มนั่นก็ด้วย
เจ้าของร้านเปิดประตูผายมือให้ลูกค้าเข้ามาก่อน เด็กหนุ่มเดินเข้ามาอย่างกระตือรือร้น เขาจึงปิดประตูแล้วอ้อมมาอยู่หลังตู้ไอศกรีม ที่ลูกค้ามาหยุดยืนมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“เลือกได้เลยนะครับว่าอยากกินรสไหน เมนูอยู่นี่นะ”
เขายื่นแผ่นเมนูให้ แต่สายตาของอีกคนก็ยังจดจ้องอยู่ที่ไอศกรีมหลากหลายรสในตู้เหมือนเดิม
แทยงชะโงกหน้าจากหลังตู้ไอศกรีมไปหา
“ลองชิมไหม”
“…ได้เหรอครับ”
ท่าทางไม่แน่ใจทำเอาแทยงนึกเอ็นดูเด็กตรงหน้าขึ้นมา พิจารณาจากหน้าตาน่าจะห่างกับเขาไม่กี่ปี แต่ท่าทางเหมือนเด็กน้อยเลย
“ได้สิ”
ตอบแล้วเขาก็เอื้อมมือไปคว้าช้อนพลาสติกคันเล็กสำหรับให้ลูกค้าชิมไอศกรีมมา
“อยากลองรสไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า เดี๋ยวตักให้ครับ”
แทยงเห็นอีกฝ่ายทำท่าครุ่นคิด มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงแต่คิ้วขมวดแน่น สีหน้าจริงจังอยู่หน้าตู้ไอศกรีม ราวกับกำลังชั่งใจเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
มีคนที่จริงจังกับเรื่องกินขนาดนี้ด้วยเหรอ
“…ลองช็อกโกแลตมินต์ครับ”
ในที่สุดก็พูดออกมา
“ได้เลยครับ”
เจ้าของร้านในชุดผ้ากันเปื้อนของร้านเอี้ยวตัวไปตักไอศกรีมรสที่ว่ามาใส่ช้อน แล้วยื่นช้อนคันเล็กให้ เด็กหนุ่มรับมันไปก่อนจะละเลียดชิมอย่างระมัดระวัง
แล้วตาคู่นั้นก็เบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง
เด็กหนุ่มถอนช้อนจากริมฝีปาก นัยน์ตาเป็นประกาย รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมาขณะที่รอยบุ๋มที่แก้มลึกลงไปอีก
“…อร่อยจัง”
แทยงเพิ่งเข้าใจความรู้สึกใจฟูก็ตอนนี้
เขามองเด็กหนุ่มที่ยังคงประทับใจในรสชาติไอศกรีมตาไม่กะพริบ พอดีกับที่ประตูหลังร้านเปิดออก แล้วพนักงานประจำเขาก็โผล่หน้ามาหลังจากหายไปเข้าห้องน้ำจนนึกว่าตกส้วมตายไปแล้ว
“โย่ มาแล้ว มีลูกค้าไหมแท-- แจฮยอน!”
แทยงหันควับไปมองลูกจ้างควบตำแหน่งเพื่อนสนิทตัวดี ที่ขณะนี้ฉีกยิ้มสดใสใส่ลูกค้าคนน่ารักที่ยิ้มกว้างไม่แพ้กัน แม้นัยน์ตาคู่นั้นจะฉายแววประหลาดใจอยู่ก็เถอะ
“พี่ยูตะ!”
“โดนโปสเตอร์หน้าร้านตกมาใช่ไหมเนี่ย”
แจฮยอนหัวเราะคิกคักกับคำพูดนั้น
“ก็มันน่ากินนี่นา”
“เห็นแก่กินจริง ๆ เด็กคนนี้”
“โธ่พี่ ของอร่อยกินไปก็ไม่เสียดายชีวิตหรอกนะ”
แทยงมองเพื่อนสลับกับรุ่นน้องตรงหน้าแล้วในที่สุดก็โพล่งถามออกมา
“คือ…”
ยูตะหันมามองเขา
“อะไรเหรอ”
“…รู้จักกันเหรอ”
“อ๋อ” แจฮยอนรีบพูด “ผมอยู่คณะเดียวกับพี่ยูตะครับ แต่คนละสาขา เคยเจอกันตอนงานรับน้องใหม่”
แทยงเลิกคิ้วแปลกใจ ส่วนยูตะยักไหล่
“ไหน ๆ ก็เจอขอแนะนำให้รู้จักแล้วกัน” แล้วยูตะก็เอื้อมมือมาโอบไหล่เขาแสดงความสนิทสนมแบบที่ไม่ถามความสมัครใจของเขาแม้แต่คำเดียว “นี่อีแทยง หัวหน้าพี่เอง เป็นเจ้าของร้านนี้แหละ” แล้วก็พยักเพยิดไปที่คนที่ยืนถือช้อนไอติมค้างอยู่ “นั่นจองแจฮยอน รุ่นน้องฉัน เด็กใหม่เลย เพิ่งเข้ามาปีนี้”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
แจฮยอนเอื้อมมือมาเหนือตู้ไอศกรีม แทยงจึงต้องเอื้อมมือไปจับตอบบ้าง
“ยินดีเช่นกันครับ แจฮยอน”
“ตกลงชอบรสไหน ชิมหมดหรือยัง ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง เชื่อได้ เพราะพี่ลองมาหมดแล้ว”
ยูตะเริ่มอวดสรรพคุณอาหาร ถือว่าหมดหน้าที่แทยงในการทำงานขายแล้ว เพราะหน้าที่หลักของเขาตอนอยู่ในร้านคือเก็บเงิน
“อ่า…”
แจฮยอนท่าทางลังเล แล้วก็หันมาหาเขาเหมือนขอความช่วยเหลือ
“รุ่นพี่แทยงเป็นเจ้าของร้าน มีรสไหนหรือเมนูไหนแนะนำไหมครับ”
คนฟังกะพริบตาปริบ ๆ
“…พี่ก็ว่าอร่อยทุกรสนะ” เขาเปลี่ยนสรรพนาม
แจฮยอนเม้มปาก ท่าทางไม่พอใจคำตอบนัก แก้มกลม ๆ พองขึ้นเล็กน้อย ทำให้เขานึกถึงไอศกรีมวานิลลาขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“…วานิลลาเป็นไง คลาสสิกดี”
แล้วก็หลุดพูดออกไป
แจฮยอนเลิกคิ้ว
“ชิมได้ไหมครับ”
“อะ” ยูตะยื่นช้อนที่ตักไอศกรีมวานิลลาให้แจฮยอน
ลูกค้าคนเก่งพอได้ลิ้มรสชาติไอศกรีมไปก็หลับตาพริ้ม ทำหน้ามีความสุขเสียเต็มประดา แทยงเห็นแล้วเผลอยกมือกุมหัวใจตัวเอง
“…เป็นไร”
ยูตะหันมาถาม
เขาส่ายหน้าใส่
“เปล่า ๆ”
แค่ใจสั่นขึ้นมากะทันหัน
“วานิลลาอร่อยมาก งั้นผมเอารสนี้แหละครับ 2 สกู๊ปนะ”
ยูตะพยักหน้ารับหงึกหงัก แล้วเดินไปหยิบโคนวาฟเฟิลเตรียมตักไอศกรีมใส่
แทยงเดินกลับไปที่เคาท์เตอร์คิดเงิน แจฮยอนเดินตรงมาหาเขา
“2 สกู๊ป 3500 วอน ส่วนลดนักศึกษา 10% เหลือ 3150 วอนครับ”
พอจ่ายเงินเสร็จก็รอยูตะตักไอศกรีม
“รุ่นพี่แทยงทำไอศกรีมทั้งหมดนี่เองเลยเหรอครับ”
“ครับ?”
แจฮยอนจู่ ๆ ก็ชวนคุยขึ้นมา แทยงเลิกคิ้วกับคำถาม
“ก็เห็นพี่ยูตะบอกว่ารุ่นพี่เป็นเจ้าของร้าน...”
“อ๋อ” เขาพยักหน้ารับ “ก็มีบางรสที่พี่คิดสูตรเอง แต่บางรสก็รับมาจากร้านคุณพ่อน่ะ น่าจะเคยเห็นอยู่นะ ชื่อเดียวกันแต่อยู่ในเมืองเลย”
คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก “อร่อยมาก ผมชอบกิน”
“ได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจครับ”
แทยงยิ้มกว้างจนอีกนิดจะฉีกถึงหู
“ดีจังเลยนะครับ มีไอศกรีมให้กินทุกวันเลย”
แจฮยอนพูดเหมือนเพ้อ สายตาขณะพูดไม่ได้มองเขาแต่จดจ้องอยู่ที่วาฟเฟิลโคนในมือยูตะที่ตอนนี้มีไอศกรีมวานิลลาโปะอยู่
แทยงฟังแล้วก็หลุดพูดออกไป
“มาที่ร้านสิครับ มีให้กินทุกวันเลย”
แจฮยอนหันมาหาเขา
“…ครับ?”
“ได้แล้วจ้า”
พอดีกับที่ยูตะเดินมายื่นวาฟเฟิลโคนพร้อมไอศกรีมวานิลลาให้ลูกค้าพอดี แจฮยอนรับไปด้วยรอยยิ้มสดใสจนแทยงกลัวไอศกรีมจะละลาย ก่อนจะหันมาบอกเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนก้าวออกจากร้าน
“ไว้ผมจะมาทุกวันเลยนะครับ”
พูดเพียงเท่านั้น แล้วจองแจฮยอนก็ออกจากร้านไป
ทิ้งอีแทยงไว้ที่เคาท์เตอร์กับเพื่อนสนิทที่สาละวนเช็กตู้ไอศกรีมอยู่
อ่า...
รสชาติใหม่ที่จะขาย เอาเป็นพีชเชอร์เบตน่าจะดี
แทยงคิดกับตัวเองในใจ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in