ภายในขบวนรถไฟ TRA ที่มุ่งหน้าไปยังไทเป โดยมีสถานีปลายทางเป็น Taoyuan นั้น ผู้คนแน่นขนัดไม่ต่างจาก BTS ในชั่วโมงเร่งด่วน
เรายังโชคดีกว่าคนอีกหลายคนที่ยังได้นั่ง บางคนถึงกับทนไม่ไหวทิ้งตัวลงบนพื้นขบวนโดยไม่สนใจสายตาผู้คนรอบข้างแม้แต่นิดเดียว
ระหว่างทางรถจอดหลายสถานี แถมยังจอดนาน ท่าทางจะเป็น Local Train แน่นอน
เท่าที่จำได้ เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ในการเดินทางจาก Houtong มาถึง Taipei Main Station เรายังไม่อยากกลับห้องพักเท่าไหร่ แม้จะเพลียแดดแต่หลังจากได้อาหารเย็นชุดใหญ่ก็คิดว่าเรี่ยวแรงยังมีเหลือจึงเปลี่ยนขบวนรถไปขึ้นสายสีน้ำเงินเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Ximen
ขบวนท้องถิ่นหน้าตาเหมือนนกเลย
Ximending ในความทรงจำของเราคือร้านซีดีกับโรงหนัง
2 ปีก่อนเราได้ประสบการณ์ดูหนังครั้งแรกในต่างประเทศที่ Wonderful Theater ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ตึกเดียวกับ H&M ที่ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเห็นยามออกมาจากสถานี ximen ไม่ว่าจะออกมาทางประตู 6 หรือ ประตู 1 ก็ตาม
เราตั้งใจว่าจะแวะไปดูตรงโรงหนังสักหน่อย แต่เนื่องจากเราเดินออกมาทางประตู 1 (มั้งนะ) ที่เป็นประตูที่ใกล้กับ Red Brick Warehouse เราเลยมุ่งหน้าไปยังร้าน CD ก่อน
ร้านนี้ในกูเกิลแมพลงเอาไว้ว่า Music House แต่เราเคยให้เพื่อนอ่านภาษาจีนบนถุงของร้านอ่านได้ว่า 澤龍 (Zé lóng) ซึ่งเคยเขียนถึงไปนิดหน่อยใน
ไต้หวันเที่ยวที่ 1 แต่ดันเขียนได้แค่ครึ่งทางเลยยังไม่ได้เล่าส่วนหลังเกี่ยวกับร้าน CD ร้านนี้ งั้นขอเล่าไว้ตรงนี้เลยแล้วกัน
ครั้งแรกที่เรามา คือตอนธันวาคม 2016 เรามาที่ร้านนี้ตั้งแต่วันแรกของทริป ตั้งใจมาหาดีวีดีคอนเสิร์ตตามที่เพื่อนฝากซื้อ พนักงานขายหรือเขาเป็นเจ้าของร้านเราก็ไม่แน่ใจเป็นชายหญิงค่อนข้างสูงอายุ เรากับเพื่อนเรียกกันเองว่าลุงกับป้า ซึ่งวัยก็น่าจะไล่ ๆ กับพ่อแม่เราหรืออาจจะแก่กว่าหน่อยนึง เรากับเพื่อนเข้า ๆ ออก ๆ ร้านบ่อยจนเขาน่าจะจำได้แล้วล่ะ จนวันก่อนกลับในทริปก่อน เราหยิบซีดีของ radwimps อัลบั้มซาวน์แทร็ก your name ขึ้นมาดู ลุงแกก็คุยว่าหนังเรื่องนี้ดังมาก บิ๊วเก่งก็ว่าได้ จนในที่สุดเราก็ซื้อซีดีอัลบั้ม Human Bloom ติดมือกลับมา ในขณะเดียวกันเพื่อนเราถือแฮนบิลหนังเรื่อง La La Land แกก็บอกว่ามีแผ่นซีดีซาวน์แทร็กขายด้วยนะ พวกเราก็เลยตัดสินใจบอกแกไปว่า เนี่ย... เพิ่งไปดูมาเลย หนังสนุกมาก
พอตอนนี้มานั่งคิดดู ถ้าเราในตอนนั้นคุยเก่งกว่านี้ หรือพูดภาษาจีนได้คงได้เมาท์กันเพลินแน่ ๆ แม้ลุคลุงกับป้าอาจจะดูไม่เหมาะกับร้านซีดีในย่านวัยรุ่นแบบนี้ แต่เราคงต้องคิดใหม่เพราะแกขายเก่งมาก ด้วยบุคลิกและอัธยาศัยดีแบบนี้แหละมั้งทำให้ร้านอยู่ได้ท่ามกลางร้านสาขาที่มีอยู่ทั่วเมือง
ภาพตัดกลับมาที่กุมภาพันธ์ 2019 เราเหลียวมองไปยังเคาน์เตอร์อัตโนมัติ แทนที่จะเจอลุงหรือป้านั่งอยู่เหมือนที่เราเคยเห็นกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มสวมเสื้อยืดอายุน่าจะประมาณยี่สิบต้น ๆ
อ้าว... ไม่อยู่หรอกเหรอ
เรานึกเสียดายเล็กน้อยแม้เขาอาจจะจำกันไม่ได้ก็ตาม เราเลยเบนความสนใจไปยังซีดี ดีวีดี ไวนิล มากมายที่อยู่ในร้านและเพลิดเพลินกับมันอยู่ครู่ใหญ่
ที่นี่ยังคงมีซีดีเยอะแยะเช่นเคย โดยเฉพาะซีดีเพลงญี่ปุ่น เยอะและราคาเท่า ๆ กันกับในญี่ปุ่นก็ว่าได้ ช่างเป็นประเทศที่น่าอิจฉาเช่นเคย
ครั้งนี้เราตั้งใจจะมาซื้อซีดีอัลบั้มใหม่ของ radwimps เหมือนมาเที่ยวไทเปทีไร วงก็จะเพิ่งออกอัลบั้มใหม่ได้ไม่นาน น่าจะถือเป็นเรื่องดี เรากวาดสายตามองไปทั่วชั้นแต่หาไม่เจอ หรือเป็นเพราะสายตาล้าเกินไปก็ไม่รู้ แต่เห็นบนผนังเหนือชั้นวางซีดีมีภาพวงติดเอาไว้พร้อมปกอัลบั้ม
เหลือบไปมองน้องผู้ชายที่นั่งเล่นมือถืออยู่ตรงเคาน์เตอร์ก่อนจะตัดสินใจเดินไปถามว่าอันเนี้ยมันอยู่ตรงไหน น้องมองตามแล้วลุกออกมาจากเคาน์เตอร์ก่อนจะหยิบแล้วส่งให้เราประมาณว่าเตะตาขนาดนี้ไม่เห็นได้ยังไง
นั่นสิ... ไม่เห็นได้ยังไง
เรามองแล้วถามน้องเขาไปว่ามันเหมือนกันใช่ไหม เขาก็พยักหน้าแล้วบอก same same เราเลยถามต่อว่า มันมีเวอร์ชั่นเดียวเนอะ เขาก็พยักหน้า
โอเค... ได้มาแล้วหนึ่งอย่าง
เราถือซีดีเอาไว้ในมือก่อนจะสำรวจอีกนิดหน่อยว่ามีอะไรน่าสนใจไหม
น่าสนใจจริง ๆ
เราเดินกลับมาตรงเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน หลังจากยื่นบัตรเครดิตไปแล้วก็หันไปมองรอบตัว หันไปเห็นแผงขายถ่านแล้วสะดุดตา CR123A เพราะไม่ค่อยเห็นร้านที่ไม่ได้ขายกล่องมีเจ้าตัวนี้ และถ้าใครใช้กล้องฟิล์มก็น่าจะรู้จักถ่านตัวนี้ดีเพราะมันใช้กับพวกกล้องคอมแพคนั่นเอง ส่วน LR44 นี่ถือว่าหาง่ายกว่าเมื่อเทียบกัน
เดิมก็ประทับใจอยู่แล้วยิ่งประทับใจเข้าไปใหญ่ พอจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกจากร้านก่อนจะมาชักภาพเป็นที่ระลึกเพื่อเอาไปเทียบกับภาพเดิม
2016
2019
เสียเงินแล้ว พอใจแล้ว เลยเดินกลับไปทาง Wonderful Theater สักหน่อย ไประลึกความหลังและแวะดูว่าช่วงนี้มีอะไรฉายบ้าง
อีเสน่ห์ร้ายเข้าฉายแล้ว อยากดูมาก แต่วันนี้ท่าทางจะไม่ทัน รอกลับไปดูที่เมืองไทยก็ได้เนอะ
เดินออกมาจากโรงหนังแล้วก็ไหลไปตามฝูงชน สามทุ่มครึ่งแล้วคนก็ยังคึกคัก ไทเปดูเป็นเมืองที่มีชีวิตตอนกลางคืนมากกว่ากลางวันเสียอีก ร้านค้ายังเปิดอยู่แทบทั้งนั้น เราเหลือบไปเป็นร้านชานม(?)เห็นคนต่อแถวอยู่สองสามคนเลยไปยืนต่อบ้าง สั่งนมสดไข่มุกเมนูยอดฮิตกิน ดูเหมือนไทเป 2019 จะฮิตนมสดไข่มุกมากกว่าชานมไข่มุกเสียอีก
หวานมาก สุดท้ายก็กินไม่หมด ขนาดสั่งลดหวานแล้วก็เท่านั้น
เราเดินต่อสักพักก็หมดความสนใจ เลยย้อนกลับมาที่สถานี MRT แล้วกลับที่พัก ขนาดรู้สึกว่าเดินได้ไม่นานก็อยู่จนถึงเกือบ ๆ สี่ทุ่มครึ่ง และบรรยากาศรอบตัวดูไม่มีท่าทีเงียบลงเลยแม้แต่น้อย สงสัยค่ำคืนนี้จะอีกยาวไกล
แต่ตัวเรานั้นไม่ค่อยไหวแล้วล่ะ ขอตัวกลับไปนอนก่อนแล้วกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in