เชื่อว่าหลายคนน่าจะเป็นเหมือนเรา คือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คทันทีที่ตื่นนอน
ไถทวิตเตอร์ ตอบไลน์ นอนดูรูปในอินสตราแกรม
แต่เมื่อเราอยู่ต่างประเทศ สิ่งที่ทำเป็นอย่างต่อมาคือเช็คสภาพอากาศในวันนี้ จะมีแดดไหม ฝนตกหรือเปล่า ยิ่งถ้าใช้ฟิล์มถ่ายรูปก็จะต้องคิดว่าวันนี้จะใช้ฟิล์มตัวไหน
และถ้ามาเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวของประเทศนั้น ๆ ก็ต้องเช็คว่าวันนี้ร้านเปิดหรือเปล่า
เราเข้าอินสตาแกรมแอคเคาท์ของร้าน Fika Fika Cafe ซึ่งเล็งไว้ว่าจะมาตั้งแต่วันแรก
เห็นโพสล่าสุดร้านอัพว่าเปิดให้บริการตามปกติแล้ว
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เราลุกจากเตียง อาบน้ำ แต่งตัว จัดของ และพร้อมจะออกไปหาอาหารเช้าและกาแฟอร่อย ๆ กินโดยไม่สนว่าจะมีคูปองฟรีวางแปะอยู่ตรงหัวเตียงก็ตาม
เช้านี้เราโหลด Kodak Color Plus 200 ใส่กล้องคอมแพค Olympus mju ii ม้วนที่ซื้อในไทเปนี่แหละ อันที่จริงฟิล์มตัวนี้เป็นฟิล์มที่เราชอบน้อยที่สุดเพราะมันเหลืองมาก แต่เนื่องจากราคาที่ถูกมากก็ทำให้เราหยิบติดมือมาด้วยความอยากจะประหยัด
แต่ Kodak Color Plus 200 ก็ยังคงเป็น Kodak Color Plus 200 อยู่วันยังค่ำ
นั่นคือให้โทนอมเหลืองนั่นเอง
Olympus mju ii + Kodak Color Plus 200
แต่จะว่าสวยก็ได้มั้ง เข้ากับสีตึกซีด ๆ ในย่านนี้ดี
เช้านี้เราตัดสินใจเดินไปขึ้น MRT สถานี ximen ที่เดินจากโฮสเทลเราไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ อาจจะไกลกว่า Taipei Main นิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกับการไม่ต้องเปลี่ยนขบวนแล้วเราก็โอเค เพราะร้าน Fika Fika Cafe นั้นอยู่ MRT สายสีเขียว สถานี Songjiang Nanjing
และเช้านี้ยังคงเวิ้งว้างเช่นเคย
Olympus mju ii + Kodak Color Plus 200
เจอร้านกาแฟน่าสนใจ เอาไว้จะมาลองโอกาสหน้า
Olympus mju ii + Kodak Color Plus 200
มาถึงสถานี Songjiang Nanjing แล้วเกิดการหลงทิศเล็กน้อย แต่ก็เดินไม่ยากเท่าไหร่ หากใครเคยไปคาเฟ่แถว ๆ ซอยเล็กซอยน้อยตามซอยอารีย์ เราว่าที่นี่ยังง่ายกว่ากันมาก
Nikon FE + Kodak Portra 400
เดินได้สักพักก็มองเห็นตัวร้านแล้ว ดูเหมือนจะอาศัยพื้นที่ใต้คอนโดทำเป็นร้านกาแฟ ตรงข้ามกันเป็นสวนสาธารณะ ดูร่มรื่นดี
Nikon FE + Kodak Portra 400
เรามองเข้าไปในร้าน คนเยอะกว่าที่คิดแม้เราจะมาแต่เช้า ตามกูเกิลแมพร้านเปิด 8.30 เรามาถึงร้านประมาณ 9 โมงเศษ ๆ เหลือโต๊ะริมหน้าต่างว่างแค่โต๊ะเดียวนอกนั้นเป็นโต๊ะรวมและเป็นบาร์ด้านหลัง พอสั่งแซนด์วิชมัสตาร์ดไก่กับ Flat White กาแฟก็เลือกได้ว่าจะเอาแบบไหน คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม เราเลือกคั่วกลาง พอสั่งเสร็จเรียบร้อยเราก็ดิ่งมาที่โต๊ะทันที
บรรยากาศภายในร้านมีอะไรบ้างอย่างทำให้เรานึกถึงร้านดังแถวพญาไท ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รับรางวัลหลายรายการ มองเห็นโล่ห์และถ้วยรางวัลวางอยู่บนชั้น ตัวร้านเต็มไปด้วยผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นที่แวะเวียนกันมาตลอดเวลา หากมาสายหน่อยก็จะไม่มีที่นั่ง ต้องรอคิวหรือไม่ก็ซื้อแบบ take away ซึ่งหลายอย่างที่เราพูดถึงมานี้เป็นสิ่งที่ทั้งสองร้านมีเหมือนกัน
แต่ต่างกันตรงร้านนี้มีแต่บาริสต้าและพนักงานสาว ๆ ส่วนร้านตรงพญาไทจะเป็นหนุ่ม ๆ เกือบทั้งหมด
แซนด์วิชถูกนำมาเสิร์ฟเป็นอย่างแรก ไม่รู้เพราะหิวหรือมันอร่อย เรารู้สึกว่ามันอร่อยมาก ๆ มีสลัดกับโยเกิร์ตเสิร์ฟมาคู่กัน เรากินจนเกลี้ยงเลย คุ้มค่ากับการทิ้งคูปองแมคโดนัลด์จริง ๆ
สักพัก Flat White ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ รสชาติถูกปากเรามาก และคิดว่าคุ้มค่ากับการมาที่นี่จริง ๆ แหละ
Nikon FE + Kodak Portra 400
พอกินใกล้ ๆ จะหมดเริ่มสังเกตว่าคนเต็มทุกที่นั่งแล้ว รวมถึงโต๊ะด้านนอก แถมยังมีรอคิวอีกหลายคน มองนาฬิกาแล้วยังไม่ 10 โมงเลย คนเริ่มออกมาหาคาเฟอีนกันแล้วสินะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าตอนบ่ายคนจะเยอะแค่ไหน เราเลยลุกจากที่นั่งแล้วเดินดูรอบร้านว่ามีอะไรบ้าง
Nikon FE + Kodak Portra 400
ขนมก็มี แถมยังน่ากินตั้งหลายอย่าง แต่ตอนนั้นกระเพาะรับไม่ไหวแล้ว สุดท้ายก็ได้กาแฟติดมือกลับมาด้วย
ท้องอิ่มแล้ว ไปไหนต่อดีนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in