ยังจำความรักครั้งแรกของคุณกันได้ไหมครับ (?) ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก หลายคนบอกใครจะไปจำได้ว่ะ เพราะอยู่บนโลกมาเกือบ 30 ปียังไม่มีใครมาจีบเลย หลายคนก็บอกว่าใครจะไปจำได้วะ เกิดมา 30 ปีมีแฟนมาแล้วนับไม่ถ้วน ขนาดเอานิ้วมือ นิ้วเท้า นิ้วเท้าเพื่อน มาช่วยในการนับ ยังนับไม่หมดเลยเว้ย เอาเป็นว่าจำได้หรือไม่ก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะความรักที่ผ่านมาแล้วเราทำอะไรกับมันไม่ได้มากหรอก นอกจากช่างแม่ง
เอาเข้าจริงถ้าเราลองค้นให้ดี ๆ ในกล่องดวงใจ (เห้ย) กล่องความจำ เราอาจจะพอยังจำเรื่องราวที่มันเคยเกิดขึ้น และเติมเต็มด้วยใจที่เคยเหี่ยวเฉาให้กระชุ่มกระชวยอีกครั้งหนึ่ง (และมันก็กลับมาเหี่ยวเฉายิ่งกว่าเดิม) เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องราวดี ๆ มันไม่ได้ถูกกลบทับด้วยความทรงจำร้าย ๆ ภายหลังจากการเลิกรากันหรอก(มั้ง)เนอะ
สำหรับความรักครั้งแรกในระดับมหาวิทยาลัยของใครหลาย ๆ คน มันอาจจะเป็นความรักที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบมาและคนที่ยืนข้าง ๆ กันตอนเรียนมหาลัยอาจจะกลายมาเป็นคนที่ยืนข้าง ๆ เราไปตลอดชีวิต หรือสำหรับบางคนมันอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าความรักในทุกครั้งที่เคยผ่านมาคนที่เคยยืนข้างกันตอนมหาลัย อาจจะกลายเป็นศัตรูกันไปตลอดชีวิต แต่ก็นี่แหละเนอะความรัก
หลายคนตอนเข้ามหาลัยได้สิ่ง หนึ่งที่เราทุกคน เรียกได้ว่าน่าจะทุกคนตั้งความหวังว่าตลอดระยะเวลาที่เรียนมหาลัย ฉันจะต้องมีใครสักคน สองคน สามคน หรือยี่สิบคนในชีวิต แต่อย่างน้อย ๆ ขอให้ได้สักคนเถอะน่า แต่เดี๋ยวก่อนครับสำหรับหลายคนที่เคยตั้งความหวังแบบนั้นเอาไว้ สุดท้ายเรียนจบมหาลัยไปด้วยการกลายเป็นพญาครุฑ เรียกได้ว่านกระดับพยากันเลยทีเดียว เพื่อนของผู้เขียนหลายคนตอนเรียนมหาลัยก็ไม่มีใคร ต้องใช้ขีวิตอย่างโดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา เหี่ยวเฉาแล้วค่อย ๆ ตายไป
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า สำหรับความรักครั้งแรกในระดับมหาลัยของผู้เขียน เรียกได้ว่าเป็นความรักที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย
ถ้าใครได้อ่านตอนเก่า ๆ มาแล้ว ผู้เขียนเคยเขียนเรื่องของระบบโต๊ะ ของแต่ละคณะในธรรมศาสตร์เอาไว้ (ถ้ายังไม่ได้อ่านก็ย้อนกลับไปอ่านซะ) และนั่นแหละครับ จุดเริ่มต้นความรักครั้งแรกของผู้เขียน มันเริ่มมาจากระบบโต๊ะ และการเข้าไปร่วมทำกิจกรรมโต๊ะของคณะรัฐศาสตร์
ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อนว่าโต๊ะของผู้เขียนนั้น เป็นโต๊ะที่ถูกเรียกว่าโต๊ะแฝด โต๊ะแฝดคือการรวมตัวกันของ 2 โต๊ะ นั่นก็คือ (1) โต๊ะขาวควัน โต๊ะที่มีที่มาจากรุ่นก่อตั้งเป็นพวบสูบบุหรี่จัดมาก จนกลายเป็นที่มาของชื่อ "ขาวควัน" ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งคือ (2) โต๊ะจำปีเหนือ ที่มาของชื่อโต๊ะคือมาจากโต๊ะที่ตั้งอยู่ใต้ต้นจำปี ทางฝั่งทิศเหนือของตึกคณะ และโต๊ะขาวควันจำปีเหนือก็เกิดขึ้นมาจากการรวม (1) โต๊ะขาวควัน กับ (2) โต๊ะจำปีเหนือ เข้าด้วยกัน โดยการแต่งงานของรุ่นพี่ระหว่าง 2 โต๊ะ ทำให้โต๊ะนี้ ได้ชื่อว่า "ขาวควันจำปีเหนือ"
จุดเริ่มต้นของความรัก มันเริ่มขึ้นมาจากการเข้าโต๊ะไปทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างสมาชิกในโต๊ะนี่แหละครับ จำได้ว่าตอนนั้นเราได้เจอกับเธอคนนั้นเป็นครั้งแรก แต่ตอนนั้นก็เฉย ๆ นะ ไม่ได้รู้สึกชอบ หรือรู้สึกพิเศษอะไรเลยด้วยซ้ำไป เอาจริง ๆ ตอนแรกเราใช้เธอเป็นสะพานเพื่อไปจีบเพื่อนของเธออีกทีด้วยซ้ำ ตอนนั้นเธอก็รู้ด้วยนะว่าเรา "ชอบเพื่อนเธอ" และขอให้เธอช่วยเหลือในการจีบเพื่อนของเธอด้วยซ้ำไป
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ BB กำลังเป็นกระแสและคนก็ใช้ BB กันทั้งบ้านทั้งเมือง และ BB นี่แหละเป็นจุดเริ่มต้น ของความรัก
ตอนนั้นพอมี BB เราก็ติดต่อกันบ่อยขึ้น บ่อยขึ้น บ่อยขนาดที่ว่าแทบทุกนาทีก็ว่าได้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน เวลาเดินไปไหนต่อไหน ก็จะต้องหยิบเอา BB ขึ้นมาพิมพ์ตลอดเวลา
บทสนทนามันก็เริ่มจากเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น ทำไร กินไรยัง นอนยัง ตื่นกี่โมง เรียนโอเคมั้ย และด้วยความทั่วไปของบทสนทนามันทำให้เราคุยกันทุกวันและทุกเรื่อง จนเราเริ่มรู้สึกว่าเธอกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา ตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากการลืมตา คือส่ง BB ไปถามเทอว่า "ตื่นยัง" "เมื่อคืนหลับสบายมั้ย" การดำเนินไปของบทสนทนาธรรมดา ๆ นี้เอง ที่กลายเป็นความผูกพันธ์และมันทำให้เรารู้สึกว่าเธอไม่ใช้แค่เพื่อนธรรมดา ๆ ของเราอีกแล้ว
ความสัมพันธ์ผ่าน BBM มันก็ดำเนินของมันไปตามปกติ แต่ความรู้สึกของเรามันเปลี่ยนไปแล้ว และตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าอยากให้เธอเป็นมากกว่าเพท่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง และทุกเวลา จำไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ุผ่าน BBM มันดำเนินไปนานแค่ไหน
กระทั่งปลายปี 54 ธรรมศาสตร์หยุดการเรียนการสอนไปเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากน้ำท่วม เรากับเธอต่างก็แยกย้ายกันหนีน้ำไปคนละทิศคนละทาง แต่ความสัมพันธ์ุใน BBM ก็ยังดำเนินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ระหว่างที่เราต่างคนต่างหนีน้ำอยู่นั้นเอง ในความสัมพันธ์ุของเราก็มีใครบางคนเข้ามา ที่ไม่ใช่ BBM และความสัมพันธ์ที่เข้ามาใหม่ มันดำเนินไปไว้และชัดเจนกว่า BBM ทำให้เราคุยกับคนใหม่ที่เข้ามาและคุยกับเธอคนนั้นไปด้วย เพราะคิดว่าเธอ(BBM)ยังไงก็ไม่ไปจสกเราอยู่แล้วเพราะเราสนิทกันขนาดนี้ จนเราตกลงคบกับคนที่เข้ามาใหม่ และความสัมพันธ์ก็ดำเนินควบคู่ไปกับ BBM แต่หลังจากที่เราบอก BBM ไปว่าเราคบกับใครบางคนไปได้ 2-3 วัน BBM ที่เคยดังตลอดเวลาก็ค่อย ๆ เงียบไป และบทสนทนาที่เคยลื่นไหล ก็กลายเป็นบทสนทานแบบถามคำตอบคำ
ในที่สุดเมื่อเรารู้สึกว่า BBM เริ่มเปลี่ยนไป เราเลยถามเธอคนนั้นไปตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น (?) แต่เธอก็ลอกเราว่าไม่มีอะไร เคยช่วงนี้ไม่ค่อยว่า (จริง ๆ เรารู้ว่าเธอโกหก) เพราะเราแอบส่องทวิสฯ ของเธอโดยไม่บอก และเธอก็เป็นคนที่พร่ำบ่นเรื่องต่าง ๆ ลง ทวิสฯ เป็นประจำ ทำให้เราเห็นข้อความที่เธอพร่ำบ่นลงในทวิส
หลังจากที่เห็นข้อความในทวิสฯ เราเลยบีบบังคับเธอทุกช่องทาง จนเธอยอมบอกว่าเธอเองก็รู้สึกกับเราเปลี่ยนไป เป็นความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อน เมื่อรู้ดังนั้นเราเลยไปลอกเลิกคนที่เราเพิ่งคบแบบ งง ๆ โดยบอกเหตุผลที่เหี้ยมากในการบอกเลิกไป และที่รู้สึกว่าตัวเองเหี้ยมากคือ เราเป็นแฟนคนแรกในชีวิตของเธอ และเราคบกับเธอได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว(เราขอโทษนะ เราเหี้ยเอง)
หลังจากบอกเลิกเธอคนนั้น เราก็กลับมาดำเนินความสัมพันธ์กับ BBM ในฐานะของคนที่คิดกันมากกวาาเพื่อน หลังจากนั้นมหาลัยก็กลับมาเปิดเรียนอีกครั้ง และความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินไปด้วยดี โดยการที่เราเดินไปรับเธอที่หอทุกเช้า เพื่อกินข้าวเช้าและเดินไปเรียนด้วยกัน หลังเลิกเรียนเราก็เดินกลับไปส่งเธอที่หอทุกวัน หรือถ้าวันไหนไม่มีเรียนเราก็จะไปรอเธอที่หอเพื่อกินข้าวพร้อมกัน ไปอ่านหนังสือด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา และความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียบแบบนี้ก็ดำเนินไป 1 ปีกว่า
จนเมื่อเราเริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันดูไม่ชัดเจน เราเลยถามเธอว่าเราเป็นอะไรกัน เธอเองก็บอกไม่ได้ และเมื่อใครหลาย ๆ คนถาม เราก็ตอบไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรากับเธอควรจะเรียกสถานะความสัมพันธ์กันว่าอย่างไรดี พอเจอคำถามแบบนี่เข้าเราเองก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไป
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเริ่มมีใครอีกคนเข้ามา และเรารู้สึกว่าเวลาได้คุยกับใครอีกคนมันทำให้เรารู้วึกดีมาก ๆ จนเราเริ่มห่างหายกับเธอคนนั้น
และแล้ว เราก็ไปคบกับคนใหม่ที่เข้ามาในชีวิต และเลิกติดต่อเธอคนนั้นอีก เวลาไปเรียนเราก็ทำเป็นว่ามองไม่เห็นเธอ ไม่ทัก เวลาที่เธอยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนเราก็จะทักแต่เพื่อน ๆ และทำเป็นมองไม่เห็นเธอ และเวลาเจอเธออยู่ไกล ๆ เราก็พยายามจะเลี่ยงไม่เจอเธอ หลังจากนั้นไม่นานเราก็เลิกใช้ BB และไม่ได้ติดต่อเธออีกเลย
ท้ายที่สุดความสัมพันธ์ของเรา 2 คนก็จบกันไปแบบ งง ๆ และจบลงด้วยการทำตัวเลว ๆ ของเราเอง ที่อยู่ดี ๆ ก็ทิ้งเธอไปมีคนใหม่ เพียงเพราะไม่สามารถระบุสถานะความสะมพันธ์(แฟน)กันได้ และหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยเข้าทำกิจกรรมของโต๊ะอีกเลย เราพยายามหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่รู้ว่าเธอจะไป พยายามจะไม่อยู่ในสถานที่ที่มีเธออยู่ และแล้วเรา 2 คนก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกันในที่สุด
หลังจากเรียนจบเรามีโอกาสได้เจอเธออยู่หลายครั้ง เวลาที่เจอเธอแต่ละครั้ง เราก็อยากจะเดินเข้าไปทัก และขอโทษกับทุก ๆ อย่างที่เราเคยทำลงไป แต่ทึกครั้งที่เราเดินเข้าไปหา สถานะของเรามันเป็นได้เพียงอากสสำหรับเธอ ในที่ที่เธออยู่มันไม่เคยมีตัวตนของเราอยู่เลย ตอนนี้เราว่าเราเข้าใจแล้วแหละ ว่าสิ่งที่เราเคยทำกับเธอมันทำให้เธอรู้สึกยังไง เราขอโทษนะ ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับเธอ ถ้าเธอได้อ่านและอย่างน้อยถ้าเรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อก่อนได้ก็คงดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in