ซึ่งตอนนี้ประมาณบ่าย 2 เรามีนัดกันอีกทีประมาณ 5 โมงครึ่งก่อนที่เทศกาลหิมะจะจุดพลุพิธีปิด
พอไปถามลุงที่เคาท์เตอร์ ลุงพูดอังกฤษไม่ค่อยได้จริงๆ 5555 ทีแรกพวกเราก็จะถอดใจแล้ว
ปรากฏลุงไปพาป้ามาช่วย (ซึ่งป้าก็พูดแต่ญี่ปุ่นลุงเรียกมาทำไม 5555)
แล้วเราที่พยายามคุยกับลุงกัน 3 คนตรงหน้าลุง ทันใดนั้นลุงก็ยื่นใบกรอกเลือกเลขน้องม้ามาให้เรา
สรุป เลยตามเลย เพื่อนบอกว่าไหนๆก็มาแล้วเธอ จ้ะ... เนื่องจากพนันได้ต่ำสุด 100 เยน ลองดูขำๆก็ได้
ลุงก็พยายามอธิบายวิธีในการเสี่ยงดวงที่มีถึง 6 แบบ ด้วยภาษาอังกฤษปนญี่ปุ่น แต่ก็พอรู้เรื่อง
ช่อง 4 ฝนเบอร์ม้าที่เลือกสำหรับ 1 เบอร์ และ 2 เบอร์ช่องข้างๆ ช่อง 5 คือจำนวนเงินและหน่วยเงิน
มีตั้งแต่งหลักร้อยถึงหลักหมื่น
เพื่อนคนนึงเลือกแบบ 1 คนนึงเลือกแบบ 5 (ถ้าไม่ผิด) ส่วนเราเลือกแบบ 6
โอกาสมากสุดเลือกไป 2 เบอร์ เบอร์ละ 100 เยนรวม 200 เยน ฝากด้วยนะน้องเบอร์ 3 กับเบอร์ 9
ปกติกรอกแล้วต้องไปจ่ายที่เคาท์เตอร์ แต่ลุงจัดการเอาไปจ่ายให้ เสร็จแล้วก็ไปให้น้องม้าทำนายกัน
ขึ้นไปรอที่ชั้น 2 ซักพักพอจะแข่ง คนจะกรูกันไปเชียร์ข้างสนาม
เนื่องจากหิมะตกหนักบนอัฒจรรย์เลยว่าง
ต้องคอยปัดหิมะบนเสื้อเรื่อยๆก่อนจะกลายเป็นบิงซูมนุษย์
พอออกสตาร์ทจะมีเนิน 2 เนินให้ม้าข้าม ซึ่งม้าที่จะแข่งได้ต้องลากเลื่อนหนัก 450 กิโลขึ้นไป ถึง 1 ตัน
พื้นสนามแข่งมีระบบทำความร้อนเพื่อไม่ให้สนามเป็นน้ำแข็ง
ข้างสนามก็ตามประสาชาวญี่ปุ่น เชียร์น้องม้าสู้ๆกันใหญ่เลย
น้องเบอร์ 9 กับเบอร์ 3 ของพี่!!!
เย้!!! น้องม้าทุกตัวขอบคุณมากกก
おつかれさまです.
แข่งแล้วก็เอาบัตรที่ลงเดิมพันไว้ไปเข้าเครื่องเช็คกัน
สอดบัตรเข้าไปในเครื่อง ถ้าเข้าวินก็จะมีเหรียญเงินไหลออกมา
เพื่อน 2 คนโดยกินบัตรโบ๋เบ๋ และแน่นอน เราได้ค่ะ 555555555
ได้เงินกลับมา 860 เยน หักลงเดิมพันไป 200 เยน ได้กำไร 660 เยน โดนแซวยันจบทริป
พูดตรงๆว่าไม่คิดว่าจะได้ ปกติไม่มีดวงในการเสี่ยงอะไรใดๆ แม้แต่จับฉลาก
เสร็จแล้วเราก็แวะไปซื้อของฝากมีร้านของฝากเล็กๆในสนามม้า ขายของที่ระลึกน่ารักหลายอย่าง
แต่มีนี่ด้วย...
ฮิกุมะ ....ทีแรกไม่เห็นรูปเพราะมันอยู่ลึก เลยไปถามคนขาย
เราว่าว่ากวางเหรอคะ เขาบอกไม่ใช่ เขาก็บอกว่า เบ ??? คุมะ ?
ใช่เลย มันคือเนื้อหมีกระป๋อง จากที่เจอกวางกระป๋องที่ซัปโปโรมาแล้ว
มี 2 รส รสโชยุกับรสมิโสะ เราเอากลับไปกระป๋องนึง ส่วนเพื่อนเอาไปลอง 2 รส
ป่านนี้ไม่รู้ลองรึยัง เพราะเราลองแล้ว T_T และไม่เอาอีกแล้ว
ซื้อรสโชยุมา กลิ่นโชยุมาเลย เนื้อเปื่อยแต่กินๆไปก็รู้สึกว่ามันแอบคาว
ออกมาแวะร้าน OTOP ตรง Tokachimura ข้างๆแป๊ปนึง
ผักผลไม้น่ากินมาก แต่ของกินในตู้เย็นก็เยอะมากเช่นกัน เลยซื้อไม่ได้แล้ว
ออกมาจากสนาม ชั่วใจว่าจะยืนรอรถเมล์ฟรีรับส่งไปงานเทศกาล หรือไปแท็กซี่ดี
เพราะเรายังเหลือเวลาเยอะมาก ตอนนี้ยังไม่ 4 โมงเย็นดีเลย กว่าจะถึงเวลาจุดพลุตั้ง 5 โมงครึ่ง
สุดท้าย ทนไม่ไหวเพราะหิมะตกตลอด เลยหารแท็กซี่กัน
หิมะตกเยอะจนเอามาทำเป็นสไลเดอร์ให้เด็กๆได้เลย
นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาทีก็ถึงสวนสาธารณะมิโดริงาโอกะที่จัดเทศกาลน้ำแข็ง
รู้สึกถึงประชากรในเมือง จากปกติที่เมืองเงียบเหลือเกิน เหมือนไม่มีใครอยู่
แต่วันนี้คนดูเยอะมาก อาจจะคนเยอะเป็นพิเศษเพราะงานวันนี้วันสุดท้ายก็ได้
ทางเข้ามีน้ำแข็งแกะสลักจากฝีมือคนในเมือง
มีป้ายนี่ด้วย แต่น่าจะเป็นรับกรุ๊ปทัวร์ที่เจอที่สนามม้า ไม่น่าใช่พวกเรา 555
มีลานเคอร์ลิ่งด้วย
นี่คือวิธีเลี้ยงลูกในฤดูหนาวของคนที่นี่ ตอนไปสวนสัตว์ที่ซัปโปโรก็มีแบบนี้เหมือนกันเลย
น้องงงงง ไหวมั้ยลูกกกกกกกก
เสื้อสวยนะตัวเอง
โซนแรกที่เรามาแวะคือโซนของกิน
ของกินไม่ค่อยมีอะไรมาก ส่วนใหญ่เป็นของทอด ไส้กรอกย่าง ไก่ย่างของหวานก็เป็นกล้วยหอมเคลือบช็อกโกแลต เครื่องดื่มพวกน้ำอัดลมซึ่ง
เพื่อนอยากลองชิม ในอากาศหนาวแบบนี้ ของอุ่นๆอย่างไก่ย่างก็พอไหว
แต่ปรุงรสอ่อนมากแค่เกลือพริกไทย เพื่อนไม่ชอบ 55 ส่วนกล้วยหอมแข็งเป็นไอติมมาเลย กินยากไปอีก
อยู่เมืองนี้เจอคนใส่เครื่องแบบทหารได้เป็นเรื่องปกติ เพราะที่นี่มีค่ายทหารอยู่ในเมือง
รวมถึงพวกรถทหาร รถใหญ่ๆแปลกๆ จากที่เรารู้สึกว่าการพบเห็นทหารในญี่ปุ่นน่าจะเป็นเรื่องยาก
การแยกขยะก็ยังมีอยู่ทุกที่ตามปกติ
ส่วนใหญ่บูธในงานจะเป็นสไลเดอร์หิมะให้เด็กๆเล่น ไม่ก็ถ้ำหิมะให้มุดเข้าไปเล่น
ส่วนอันนี้เห็นเด็กๆต่อแถวกันเยอะเลยมามุงบ้าง เป็นรถวัว ซึ่งทีแรกเราก็นึกว่าจะเป็นเครื่องเล่น
คือ ก็ใช่แหละ แต่ใช้แรงคน น้องๆ น่าจะเป็นเด็กมหาลัยหรือนักเรียนมัธยมไม่รู้ เป็นคนหมุน
พี่ที่มาด้วยกันบ่นว่าอันตรายไปมั้ย ถ้าหลุดขึ้นมาจะทำยังไง มันเสี่ยงไปรึเปล่า 5555
ก็นั่นสินะ แต่ทั้งคนนั่งคนหมุนก็ดูสนุกดี ให้เด็กๆนั่งกันคนละ 2 หมุน เพราะคนหมุนเหนื่อย 555
มี Ice Cafe ข้างในซื้อเครื่องดื่มได้ แต่ที่แคบๆ ซื้อแล้วต้องรีบออก
เดินออกมาข้างหลังจะเป็นโซนประกวดหิมะปั้น
ดูจากเคเบิ้ลท้องถิ่นแล้วดูเหมือนที่ 1 จะเป็นมินเนี่ยนนี่แหละ
กึ่งสโนวแมน แต่ดูเป็นสโนวเฟซมากกว่า แอบหลอนนิดหน่อย น่าจะเด็กๆทำ
เดินจนทั่วงานแล้ว เพราะงานไม่ใหญ่เท่าไหร่ ก็ยังไม่ 5 โมงครึ่งเลย สุดท้ายก็ต้องไปยืนผิงไฟรอ
เพราะหนาวเหลือเกิน
มืดแล้วก็เริ่มประดับไฟ ได้บรรยากาศและสวยขึ้น
คนเริ่มเดินมาตั้งกล้อง เพื่อนเลยบอกให้รีบไปจองที่ตามพวกคาเมร่าแมน ยังไงต้องได้มุมดี
ก่อนจะปิดงานก็มีกล่าวขอบคุณคนช่วยงานทั้งหลาย
ยืนตากหิมะมาเป็นชั่วโมงแล้ว จุดพลุได้รึยังคะ
แล้วเวลาที่เรารอคอย เพื่อ 15 นาทีนี้ก็มาถึง ไม่ได้ดูพลุใกล้ๆแบบนี้มานานมากแล้ว
ล่าสุดน่าจะตอนงานในมหาลัยปีแรกๆ
บรรยากาศดีมาก มีเปิดเพลงสร้างบรรยากาศด้วย ใครมากับแฟนคงจะยิ่งรู้สึกดีแน่ๆเลย
ขนาดเรายืนข้างลุงตากล้องที่ไหนไม่รู้ยังรู้สึกดีเลย 5555555
พึ่งเข้าใจว่าการชมดอกไม้ไฟแบบในการ์ตูนมันรู้สึกดียังไงก็วันนี้
ถึงจะไม่ใช่การชมดอกไม้ไฟในเทศกาลฤดูร้อนก็เถอะ
พอจบแล้วทุกคนก็แยกย้ายเพราะหิมะยังไม่หยุดตกเลย
ขากลับเราก็ขึ้นรถรับส่งอันแออัด 555 เพราะงานเลิกทุกคนก็ออกมาพร้อมกัน
รถไปส่งที่สถานี แต่วันนี้รถเมล์กลับศูนย์ไม่มีแล้วเพราะสภาพอากาศ
รถเมล์เลยเลิกวิ่งตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไป เลยเหลือทางเลิกเดียวคือหารแท็กซี่กันกลับ
จบวันหยุดวันสุดท้ายด้วยการกลับไปกินข้าวที่โรงอาหาร จากที่รองเท้าเปียกเพราะตากหิมะกันทั้งวัน
-------------------------------------------------------
วันหยุดครบ 4 วันแล้วค่ะ แต่อาจจะมีตอนสุดท้าย สรุปความประทับใจของ 18 วันที่นั่น
เช่น อาหารที่โรงอาหาร ของกินที่ชอบ ซุปเปอร์ที่ไปกันบ่อยๆ บลาๆ
เดี๋ยวขอชั่งใจก่อนนะ ^_^'''
ข้อมูลสนามม้าบังเอย์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in