เป็นอีกคืนที่อรรพีนอนไม่หลับ
ไดอารี่เล่มเล็กถูกเอาเข้าเก็บในลิ้นชักข้างเตียงก่อนที่เจ้าของของมันจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
หลังจากวันที่ทิชงค์ฟื้นจากความตายแต่ทว่ากลับสูญเสียความทรงจำระหว่างเขาและเธอไปทั้งหมด
หญิงสาวก็ได้แต่เก็บความเสียใจไว้เพียงผู้เดียวเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมาเจอเรื่องลำบากอีก
เธออยากเป็นฝ่ายปกป้องเขาบ้างก็เท่านั้น
ถึงแม้ว่าสายตาว่างเปล่าของทิชงค์ในวันนั้นยังคงเป็นเหมือนกับมีดที่กรีดลงในใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกคราวที่นึกถึง แต่อรรพีก็ตั้งใจว่าจะเก็บเรื่องระหว่างกันไว้เป็นเพียงความทรงจำแสนล้ำค่าที่เพียงแค่หลับตาก็จะได้ยินคำรักที่อีกฝ่ายเคยพร่ำบอก
แค่ยังได้เห็นเขาเติบโต มีชีวิตที่ดี แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว
อาทิตย์ก่อนภามพาอัยร์มาจัดวันเกิดที่บ้านทำให้ต้องเจอกันอย่างช่วยไม่ได้ หลายครั้งที่อรรพีเผลอมองจนอีกฝ่ายอาจจะเริ่มสงสัยจนบางครั้งก็เหมือนส่งสายตาแห่งคำถามกลับมา
และสิ่งที่เธอทำได้ก็มีเพียงการหลบสายตาทำเหมือนว่ากำลังมองไปทางอื่น
หลังจากวันนั้น หญิงสาวก็ทุ่มเทให้กับงานที่ลมติดปีกและงานจิตอาสาเช่นเดิม ใจลึกๆ เธอหวังว่าความยุ่งจนไม่มีเวลาอาจจะทำให้ฟุ้งซ่านน้อยลงบ้าง
อันที่จริงก็ช่วยได้นิดหน่อย แต่วันไหนที่อดคิดถึงไม่ได้ อรรพีก็ยังมีไดอารี่เล่มเล็กไว้เป็นที่ระบายความในใจถึงชายคนรัก
แม้ว่าปาฎิหาริย์ที่พาทิชงค์กลับมาในครั้งนี้จะไม่ได้เอาความทรงจำระหว่างเรากลับมาด้วยก็ไม่เป็นไร
แค่เขายังมีชีวิตอยู่ให้เธอได้เห็น แค่นี้ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว
วันนี้เธอมาพักผ่อนที่เกาะวงเดือน
บ้านหลังเล็กของภาคย์ยังคงเป็นที่ที่อรรพีจะแวะมาเสมอเมื่อว่างจากงาน สถานที่แห่งความทรงจำมากมายที่ยังคงอบอวลไปด้วยความรักของพวกเขาก็ยังพอที่จะเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ช่วงนี้เธอกำลังฝึกวาดรูป
มือเล็กขยับดินสอช้าๆ ด้วยความที่ยังไม่ค่อยชินกับการวาดเสียเท่าไหร่ หากแต่ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้ภาพในหัวออกมาเป็นรูปเป็นร่างเท่าที่พอจะทำได้
ช่วงเวลาแห่งความสุขที่นึกถึงเมื่อไหร่ก็จะมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา แต่ทว่าก็เป็นสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจและชีวิตของอรรพีให้ยังคงอยู่
แต่ยิ่งร่างภาพชัดขึ้นเท่าไหร่ น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้มากเท่านั้น
วันนี้หญิงสาวเลือกที่จะลองวาดตอนที่พวกเขาเต้นรำกันที่บ้านของคุณพ่อ เธอยังจำสัมผัสนั้นได้ดีจนรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ยังจำตอนที่ใกล้ชิดกันจนเหลือเพียงลมหายใจกั้น
ใกล้พอที่ได้ยินเสียงหัวใจของกันและกันจนแทบแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร
ตอนที่หน้าผากและปลายจมูกของพวกเขาแตะกันก่อนจะตามมาด้วยริมฝีปากอุ่นของทิชงค์ที่ย้ายมาคลอเคลียข้างแก้มและกดจูบแผ่วเบาแต่อุ่นไปถึงหัวใจในวันนั้น
"23 ปีแล้ว คุณก็ยังเหยียบเท้าฉันอยู่"
"งั้นปีที่ 24 ไม่เหยียบละ"
'เพียงอยู่ในวงแขนคุณ อบอุ่นในหัวใจ
เพียงได้เดินเคียงข้างคุณ ดั่งมีพรมละมุน'
'ทอดพาดวงใจเราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล
ที่ไม่มีใครเคยก้าวล้ำข้ามผ่านพ้นไป
เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า
จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัย...คล้องใจ'
...............................TBC................................
ตอนที่แล้วได้รับกำลังใจจากคนอ่านแล้วมีความสุข วันนี้เลยจะมาขอบคุณอีกรอบค่ะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ นะคะที่แวะมาอ่านและส่งกำลังใจเป็นข้อความไม่ว่าจะเยอะหรือน้อยมันก็เป็นแรงผลักดันให้มีกำลังใจเขียนต่อจริงๆ ค่ะ ?? มาลุ้นกับรักครั้งนี้ของอรพีกับทิชงค์ไปด้วยกันน้า เจอกันตอนหน้าค่ะทุกคน :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in