แล้วทำอย่างไรจึงจะเรียนรู้ในแต่ละครั้งได้มากที่สุด ?

1.เมื่อเริ่มตัดสินใจจะเรียนแล้ว ควรเลือกที่เรียนที่สะดวกสำหรับเรา สามารถไปเรียนให้สม่ำเสมอ เรียกว่าเอาจนเป็นให้ได้ เหมือนกับขี่จักรยานค่ะ ที่พอเราจับจุดได้แล้วก็จะเป็นเลย ถ้าเรียนไม่ต่อเนื่องจะเสียเวลาและกลายเป็นเสียเงินอีก โดยเฉลี่ยแล้วสัก 1 คอร์สหรือ 10-12 ครั้งก็มักจะ"ขี่เป็น"แล้ว คนที่มีทักษะหรือหัวไวหน่อยอาจจะได้ตั้งแต่ 4-5 ครั้งแรก แต่จะ"ขี่ได้ดี"หรือไม่นั่นเป็นคนละเรื่องกันนะคะ ต้องเรียนรู้กันระยะยาวค่ะ

2.ไปถึงคอกม้าก่อนเวลาเรียน อย่างน้อย 15-30 นาที อย่างน้อยๆคือหลีกเลี่ยงอาการรีบร้อน ไปนั่งพักให้หายเหนื่อยเสียก่อน เพราะเรียนขี่ม้าต้องใช้สมาธิตลอดเวลาค่ะ นอกจากนี้การไปถึงก่อนก็ทำให้เราได้เห็นการเตรียมตัวของม้า การจูงม้ามาวอร์ม การใส่อานม้า ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

3.ถ่ายวีดีโอ จะทำให้แก้ไขท่าทางที่ผิดได้ตรงจุด เช่น โน้มไปข้างหน้ามากไป เท้าเข้าไปในโกลนลึกไป เป็นต้น ถ้าไม่ถ่ายวีดีโอไว้นี่บางทีนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

4.สังเกตดูการขี่ของนักเรียนคนอื่นๆ (ไม่ใช่มองไปเรื่อยในขณะที่ตัวเองกำลังขี่นะคะ อย่าลืมว่าต้องมีสมาธิกับตัวเอง) การดูคนอื่นขี่จะได้เห็นจุดเด่น จุดด้อย ที่ต่างกันไป บางครั้งเราดูแต่คุณครูขี่ ก็จะเห็นแต่ท่าทางที่ถูกต้อง สวยงาม ง่ายราวกับจับวาง แต่การเห็นนักเรียนคนอื่นขี่จะทำให้เราได้เรียนรู้มากๆเลยค่ะ บางคนหลังค่อม บางคนดึงบังเหียนตึงมากๆจนม้าดูเจ็บ บางคนจังหวะไม่สัมพันธ์กับม้า 

5.ทำความรู้จักกับม้า นอกเหนือจากการขี่ บางคอกก็อาจเปิดโอกาสให้เราได้จูงม้าเป็นการผ่อนคลาย คูลดาวน์หลังขี่ม้าเสร็จ หรือถ้าสนิทกันแล้วอาจได้ไปช่วยอาบน้ำน้องม้าด้วยค่ะ

6.บันทึกlog book เอาไว้ใช้เตือนตัวเองง่ายๆว่าเรียนไปถึงไหน และมีอะไรบ้างที่ยังอยากพัฒนาบ้าง หลายๆคนรวมถึงตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้ขี่ม้าทุกวัน และบ่อยครั้งในระหว่างวันเราก็มีภาระหน้าที่ ทั้งเรียนหนังสือและทำงาน พอตกเย็นไปถึงที่เรียนก็ขี่ไปตามความเคยชิน การที่ทำบันทึกไว้จะช่วยให้เราพัฒนาได้ตรงจุดค่ะ

7.ออกไปลองของ สำหรับเราตอนเรียนแรกๆคงจะบ้าเห่อมากด้วย ก็เลยขยันขับรถไปลองขี่ม้าตามฟาร์มอื่นๆนอกเหนือจากที่เรียน เช่น ที่เขาใหญ่ค่ะ มีเยอะแยะเลย เช่น ฟาร์มหมอปอ (สอนแบบ English riding) ,OK corral (สอนแบบ Western riding) เหตุผลคือ เราจะได้ลองขี่ม้าตัวอื่นดู และลองวิชาว่าที่เราทำอยู่มันเวิร์คหรือเปล่า บรรยากาศดีก็ช่วยทำให้ได้ผ่อนคลายและสนุกด้วยค่ะ เพราะเหตุผลการที่เราขี่ม้า ไม่ได้ต้องการแข่งขันหรือประกวดอะไร แต่เป็นเพราะอยากขี่ท่องเที่ยว ดังนั้นอย่าลืมออกไปเปิดหูเปิดตานะคะ

          อุปกรณ์อะไรที่มือใหม่ควรซื้อ

เนื่องจากอุปกรณ์ขี่ม้า "แพง"เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าของม้าหรือของคน นักเรียนมือใหม่อย่างเราอย่างน้อยควรจะมี

1.หมวก เช่นเดียวกับการขี่จักรยาน หรือมอเตอไซค์ เลือกหมวกที่ขนาดเหมาะสมจะช่วยลดการบาดเจ็บได้ ตรงนี้ต้องลงทุนหน่อยค่ะ แต่ถ้าอยากถ่ายรูปปล่อยผมเก๋ๆ หรือใส่หมวกคาวบอยเท่ๆ ก็อดใจไว้ให้ขี่คล่องสักหน่อยดีกว่าเนอะ   (สนนราคาตั้งแต่ 2,000-5,000 บาท)

2.ถุงมือ ในการขี่ม้า มือเราจะถือบังเหียนตลอดเวลา มีทั้งดึงและปล่อยจึงมีการเสียดสีกับสายเชือกได้ค่ะ

(สนนราคา ไม่กี่ร้อยจนถึงไม่เกิน2,000)

3.บูทยาว เพราะการขี่ม้าจะใช้น่องเป็นอวัยวะหนึ่งที่จะสื่อสารกับม้า บางคนเลือกซื้อบูทสั้นเพราะใช้เดินไปเดินมาได้สะดวกกว่า พอจะขึ้นม้าก็สวมแถบรัดน่องหรือ Chaps แบบคาวบอยเพิ่มไปเท่านั้น

(สนนราคา 800-หลักหมื่น T-T)

          ปัญหาอีกอย่างของคนที่มาเรียนตอนโต(แก่แล้ว)อย่างเราก็คือ เวลาไปเรียนมักจะเจอแต่เด็กๆทั้งนั้น รุ่นหลานเลยค่ะ ไม่ใช่แค่รุ่นลูกนะคะ แถมบางคนตัวนิดเดียวขี่เก๊งเก่ง ก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไปนะคะ การที่เรามาเรียนตอนโตก็มีข้อดีต่างจากตอนเป็นเด็ก เช่น มีวุฒิภาวะมากกว่า(แต่ก็อาจจะ"คิด"เยอะกว่าเด็กๆ ตรงนี้ต้องระวังค่ะ) และ ได้ใช้เงินตัวเองไม่ต้องขอคุณพ่อคุณแม่ (นี่ข้อดี ?)

           สุดท้ายนี้ ถ้ามีเพื่อนไปด้วยก็ดี แต่ถ้าไม่มีเลยก็ไม่ใช่ปัญหา อย่างตัวผู้เขียนเองที่ชวนแล้วชวนอีก ก็ไม่มีใครไปด้วย (เศร้าแพ็พ T-T) ก็เลยไปเรียนคนเดียว ทำให้รู้ว่าตอนเรียนเราจะต้องมีสมาธิอยู่กับตัวเองและม้า ไม่สามารถไปเม้าท์มอยกับใครได้อยู่ดีค่ะ

(Credit cover photo taken from: WikiHow on 3 Ways to mount a horse)