เพลงนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของAimyon ที่อยากจะสร้างสรรค์บทเพลงให้ดีขึ้น จนเป็นที่ยอมรับและถูกกล่าวขานว่า"เป็นอัจฉริยะ" ในช่วงเวลาที่เธอยังมีชีวิตอยู่
ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอเกี่ยวกับเพลงนี้กันค่ะ
*****
บทสัมภาษณ์ Aimyon เกี่ยวกับเพลง Itsumademo
Q: คุณบอกว่าผลงานชิ้นนี้ มีเพลงที่เขียนขึ้นที่โตเกียวจำนวนมาก เพลง Itsumademo ก็เช่นกันเหรอ? เนื้อเพลง "คำพูดที่ว่า"เป็นอัจฉริยะ" หลังจากฉันเสียชีวิตไปแล้ว ให้ตายก็ไม่อยากถูกเรียกแบบนั้นหรอก" เป็นความรู้สึกตรงๆ ของAimyon เลยรึเปล่า?
A: ใช่แล้วค่ะ เป็นเพลงที่เขียนขึ้นตั้งแต่สมัยเดินทางมาโตเกียว มีทั้งความรู้สึกที่อยากกลับไปนิชิโนะมิยะ(บ้านเกิด) แล้วก็คิดอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับดนตรี... ตามเนื้อเพลงเลยค่ะ อื้ม(หัวเราะ) อย่างเช่นตรงท่อน "เพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้วน่ะ" ถ้าพูดแบบนั้นไปตอนท่อนเกริ่นนำของเพลง จะขายดีขึ้นมารึเปล่านะ พอคิดว่าถ้าได้รับความเห็นใจ จะเป็นที่สนใจขึ้นมาไหม เผลอคิดไปต่างๆ นานา เช่นว่า ถ้าทำแบบนั้น ถึงจะเล่นดนตรีแบบธรรมดาทั่วไปก็คงไม่มีความหมายหรอก
.
แต่ว่าเพลงแบบนั้นมีอยู่มากมายเลยไม่ใช่เหรอคะ อย่างเช่น เพลงที่ "เขียนขึ้นเพื่อใครสักคนที่ตายจากไปแล้ว" แต่ฉันคิดว่า"เรื่องอะไรแบบนั้นอย่าพูดเลยดีกว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่ความเห็นใจหรอกเรอะ" บางทีอาจจะเป็นช่วงที่ฉันยังเป็นคนขวางโลกสุดๆ อยู่ แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วนะคะ (หัวเราะ)
Q: พอกำหนดเดบิวต์อย่างเป็นทางการแล้ว สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไป ต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาที่จะต้องคิดเรื่องดนตรีให้มากขึ้นแล้วสินะ
A: ค่ะ แล้วความคิดที่ว่า "ไม่อยากถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะหลังจากที่ตายไปแล้ว" ตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่นะคะ ยกตัวอย่างเช่น "ภาพชุดดอกทานตะวัน" ของแวนโก๊ะ (Vincent Willem van Gogh) ก็ได้รับการยอมรับหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว แต่ฉันคิดว่านั่นน่ะ "แวนโก๊ะไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรสักอย่างนี่" คิดว่าสุดท้ายแล้วนั่นก็เป็นความเห็นใจไม่ใช่เหรอ? เขาวาดทิ้งไว้เยอะมาก พอเขาเสียชีวิตไปแล้ว คำพูดที่ว่า "น่าสงสารจัง ทั้งที่เขาเป็นอัจฉริยะแท้ๆ" คิดว่าอะไรแบบนั้นเป็นแค่ความเห็นใจค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ในตอนนี้(ตอนที่ยังมีโอกาสได้ฟัง) อยากถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะแล้วตายจากไป เป็นเพลงแบบนั้นค่ะ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นตอนนี้ ต่อให้ถูกเข้าใจไปว่าฉันนิสัยไม่ดีหรือแย่แค่ไหนก็ไม่สน ฉันอยากจะปีนป่ายขึ้นไปให้ถึงจุดที่ถูกเรียกว่า"เป็นอัจฉริยะ" ให้ได้ค่ะ
เพลง : いつまでも (ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร)
เนื้อร้อง & ทำนอง : Aimyon
「死んだ友達がさぁ」って語れば売れんのか?
`Shinda tomodachi ga sa~a' tte
katareba uren no ka?
"เพื่อนคนที่เสียชีวิตไปแล้วน่ะ.."
ถ้าเล่าอะไรแบบนั้น ฉันจะโด่งดังขึ้นไหม?
結局この世の表現ってのは
同情だけで成り立ってんのかなあ
Kekkyoku konoyo no hyōgentte no wa
dōjō dake de naritatten no kanā
สุดท้ายแล้วการแสดงออกทางคำพูด
หรือท่าทางในโลกใบนี้
มีแค่ความเห็นใจก็ใช้ได้แล้วรึเปล่านะ
「本気でやってんだ」って叫んでも
結果がなきゃ大人は見捨てる
`honki de yattenda' tte saken demo
kekka ga nakya otona wa misuteru
ต่อให้กู่ก้องร้องตะโกนว่า
"ตั้งใจทำสุดฝีมือแล้วนะ"
แต่ถ้าผลลัพธ์ไม่ปรากฏ
พวกผู้ใหญ่ก็ไม่เหลียวแลหรอก
結局腐りやすい生物でしかないから
生き急ぐ 2 1
kekkyoku kusari yasui nama mono de
shika nai kara iki isogu nichuu ichi
สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงแค่
สิ่งมีชีวิตที่เน่าเปื่อยผุพังง่าย
จึงต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบในศตวรรษที่ 21
どれだけ最低で
どれだけ最悪な生き方でもいい
dore dake saitei de
dore dake sai akuna ikikata demo īi
ไม่ว่าจะเป็นวิธีใช้ชีวิตที่ยอดแย่บัดซบแค่ไหน
ต่างก็ดีทั้งนั้นแหละ
死んだ後に天才だったなんて
死んでも言われたくないもんな
shinda ato ni tensai datta nante
shinde mo iwa retakunai mon na
คำพูดที่ว่า "เป็นอัจฉริยะ"
หลังจากฉันเสียชีวิตไปแล้ว
ให้ตายก็ไม่อยากถูกเรียกแบบนั้นหรอก
`mukashi wa binbō de sa~a' tte
hanaseba naken no ka?
ถ้าบอกไปว่า "เมื่อก่อนฉันยากจนนะ"
จะร้องไห้ไหม?
結局この世の表現ってのは
同情だけで成り立ってんのかなあ
Kekkyoku kono yo no hyōgentte no wa
dōjō dakede nari tatten no kanā
สุดท้ายแล้วการแสดงออกทางคำพูด
หรือท่าทางในโลกใบนี้
มีแค่ความเห็นใจก็ใช้ได้แล้วรึเปล่านะ
それなりの生活や
ありきたりなごまかし方で今を生きる
sore nari no seikatsu ya
ari kitari na goma kashi kata de
ima wo ikiru
ตอนนี้ฉันมีชีวิตอยู่ ด้วยวิธีตลบแตลงไปวันๆ*
และใช้ชีวิตไปทั้งๆ อย่างนั้น
クソみたいな歌だと貶してくれよ
kuso mitai na uta dato kena shite kure yo
ช่วยพูดใส่ฉันแรงๆ ทีว่าเพลงมันห่วย ไม่ได้เรื่อง
まだまだ燃えていたいんだ
mada mada moete itai nda
ฉันอยากจะมีไฟฮึกเหิมอย่างนี้ต่อไป
dore dake saitei de
dore dake sai aku na ikikata demo īi
ไม่ว่าจะเป็นวิธีใช้ชีวิตที่ยอดแย่บัดซบแค่ไหน
ต่างก็ดีทั้งนั้นแหละ
死んだ後に天才だったなんて
死んでも言われたくないもんな
shinda ato ni tensai datta nante
shinde mo iware takunai mon na
คำพูดที่ว่า "เป็นอัจฉริยะ"
หลังจากฉันเสียชีวิตไปแล้ว
ให้ตายก็ไม่อยากถูกเรียกแบบนั้นหรอก
sō dayo na
จริงด้วยสินะ
sō nanda
เป็นแบบนั้นล่ะ
まだまだ燃えていたいんだ
mada mada moete itai nda
ฉันอยากจะมีไฟฮึกเหิมอย่างนี้ต่อไป
--------------------------------------------------
*เข้าใจว่า ありきたりなごまかし方 (ari kitari na goma kashi kata) น่าจะให้ความรู้สึกแบบ..เป็นธรรมดาที่คนเราจะใช้ชีวิตที่ต้องโกหกตอแหลบ้าง อย่างเช่นรู้สึกอีกอย่างแต่กลับพูดอีกอย่าง เพื่อให้อยู่รอดในสังคมจึงไม่สามารถพูดหรือแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมาได้ จึงแปลคำนี้ไปว่า (ใช้ชีวิตด้วย)วิธีตลบแตลงไปวันๆ
เพลงนี้เป็นอีกเพลงของAimyon ที่ชอบมากๆ
ถ้าแปลผิดพลาดประการใด ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ m(_ _)m
ฝากอุดหนุนเพลงของศิลปินด้วยค่า :D
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in