Day-6 : lie
yohanx dohyon
“บางครั้งความจริงก็ทำให้เจ็บปวดมากกว่าคำโป้ปดเสียอีก”
เพราะไม่อาจรับความจริงที่แสนเจ็บปวดได้..เราจึงเลือกที่จะหันหลังให้กับมัน
ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเป็นคำโกหกมากมาย
แต่ก็ยินดีจะรับฟังและเชื่อมันอย่างสนิทใจ
ดาวเหนือเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองว่าในโลกนี้จะมีใครสักคนโง่จนรับความจริงไม่ได้เลยหรือไร
จนกระทั่งได้พบภูผา
ผมจึงค้นพบว่าตัวเองได้กลายเป็นคนโง่ดั่งที่เคยปรามาศไว้
เรื่องของเรามันเป็นความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจที่จะระบุได้แต่ในทุกวันนี้ดาวเหนือก็ยังคงใช้ชีวิตด้วยคำโกหกคำโตของใครบางคนราวว่าคำโป้ปดเหล่านั้นเป็นดั่งน้ำเลี้ยงของร่างกาย เป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่ที่หากขาดมันไป..ก็คงไม่อาจใช้ชีวิตต่อไปได้อีก
“พี่ทำไปเพราะหน้าที่ ใจพี่รักเหนือคนเดียว เหนือก็รู้”
ภูผาเคยกล่าวประโยคนี้ให้ผมฟัง เขาบอกว่าสิ่งที่เขาทำไปนั้นเป็นเพราะเขาคือทายาทเพียงคนเดียวของสกุลหากเขาไม่แต่งงานและไม่มีทายาทสืบทอดสกุลต่อนั่นจะทำให้สถานการณ์ครอบครัวของเขาตึงเครียดเกินไปเพียงเพราะเหตุผลที่ว่านั้นภูผาจึงได้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อจะได้มีทายาทสืบสกุล
ผู้หญิงคนนั้นคือดาหลา.. พี่สาวของผม
ผมยืนนิ่งเหมือนคนโง่เมื่อรู้ว่าพี่สาวกับคนรักของตัวเองกำลังจะแต่งงานกัน
ซ้ำร้าย.. แม้รู้จะรู้ดีเต็มอกว่าระหว่างผมกับภูผาควรจบความสัมพันธ์กันแต่ก็ไม่อาจทำใจที่จะเลิกรากับอีกฝ่ายได้แม้จะเจ็บปวดราวกับหันคมดาบมาแทงตัวเองจนบาดลึกถึงกระนั้นผมก็ยังทำใจที่จะปล่อยอีกฝ่ายไม่ได้
ความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยว.. และหัวใจที่แหลกสลาย
เขายังคงทำตัวปกติเมื่อเราอยู่ด้วยกันตามลำพังเรายังเป็นคนรักของกันและกัน
แต่นั่นก็เป็นเพียงเฉพาะตอนที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพังเท่านั้น เมื่อมีดาหลาเข้ามาด้วยภูผาก็จะสวมบทบาทเป็นสามีที่แสนดีที่ซื่อสัตย์กับภรรยาของเขาเพียงเท่านั้น
มันน่าตลกที่เห็นเขาทำอย่างนั้นกับใครอีกคนที่ไม่ใช่ผม
และบางครั้งผมเองก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า..สำหรับผมเองก็ถือเป็นการแสดงหนึ่งของเขาหรือเปล่า
คิดเพียงเท่านั้นก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกบีบจนเจ็บ
แต่ไม่เป็นไร
ถ้าเขาพูดว่าเขายังรักผมอยู่..
ต่อให้โกหกก็ไม่เป็นไร
บางครั้ง.. ผมก็รู้สึกว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายและไร้ความยุติธรรม
ทำไมกัน.. ทำไมต้องเป็นดาหลา
ผมเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ
ทุกครั้งที่เห็นท่าทีรักใคร่จากภูผาที่มีต่อดาหลาผมก็รู้สึกโกรธขึ้นมา ผมอยากจะวิ่งไปผลักให้เขาทั้งคู่แยกจากกัน อยากจะอาละวาดและกรีดร้องออกมาให้สาสมกับความโกรธที่ผมมีและความอยุติธรรมที่ผมได้รับ
ทั้งๆ ที่ผมมาก่อน
ประโยคนี้คอยทำให้ผมเจ็บปวดใจทุกครั้งที่เห็นทั้งสองคนเคียงคู่ แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่สามารถแสดงออกไปเช่นนั้นได้..ผมทำได้แค่เงียบและก้มหน้ายอมรับชะตากรรมที่ผมเป็นคนเลือกมันด้วยตัวเอง
ใครต่อใครที่ทราบเรื่องนี้ก็บอกให้ผมถอยออกมา
เขาพูดราวกับมันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายเหมือนให้ผมเดินออกจากบ้านตัวเอง
เขาพูดราวกับว่าผมไม่เคยคิดและพยายามทำอย่างที่พวกเขาแนะนำ
ผมก็อยากจะหนีให้พ้นจากเรื่องราวเหล่านี้
แต่ผมหนีไปไม่ได้.. เพราะผมรักเขา
ผมรักภูผา
ภูผาเองก็รักผม
อย่างที่เขาเคยบอกผมว่าเขารักผม
ถึงใครจะบอกว่าเขาก็โกหก.. ผมก็จะเชื่อเขา
ในที่สุดคู่แต่งงานก็มีทายาทกันสมใจผู้ใหญ่ในตระกูล
ผมยิ้ม ขณะที่สายตากำลังวูบไหวด้วยความสับสน
ผมกำลังกลัว.. ว่าความรักที่เขาเคยบอกว่ามีให้เพียงแค่ผมจะสั่นคลอน
สายตาของภูผานั้นเต็มอิ่มไปด้วยความสุขความสุขของเขาล้นทะลักจนทำให้ผมแทบทรุดลงเพราะคิดว่าวันที่ต้องตื่นขึ้นมารับความจริงคงใกล้มาถึงแล้ว
เพียงแค่คิด.. ผมก็เจ็บจนหายใจไม่ออก
“เหนือ มึงต้องเตะมันให้ออกไปจากชีวิตมึงได้แล้ว”
เพื่อนที่ทราบปัญหานี้กำลังช่วยผมหาทางออกด้วยการชิงตัดความสัมพันธ์นี้ให้ขาดเขาแจกแจงผลดีกับผลเสียเป็นข้อๆ ให้ผมฟัง ถามว่าผมรู้ไหมว่ามันดีไม่ดีอย่างไรแน่นอนว่าผมรู้
แต่ผมทำไม่ได้
มันยากเกินไป
แค่เห็นหน้าเขาผมก็ทำใจเดินจากเขาไปไม่ลงแล้ว
“งั้นก็เปิดใจให้คนใหม่มาช่วยดูแลดีไหม”
มินเพื่อนอีกคนในกลุ่มที่รับรู้ถึงปัญหานี้ได้เสนอทางออกใหม่แก่ผมความจริงวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ทุกคนยุแยงให้ผมใช้เพื่อจะได้ตัดภูผาออกจากชีวิตอย่างเด็ดขาดเสียทีแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับวิธีนี้เสียเท่าไร
“ไม่อยากดึงใครเข้ามายุ่งกับเรื่องแบบนี้.. ทำให้เขาเจ็บเสียเปล่าๆ”
ผมว่า
มินยิ้มกริ่มราวกับมีทางออกสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว
“ไม่ต้องห่วง จำพี่สกายได้ไหม พี่สันที่หน้าหมวยๆ สักปืนอ่ะ”
“หมวยๆ? พี่สกายผู้ชายไม่ใช่หรอวะ” ผมถามขึ้น
ทุกคนในกลุ่มร้องอ๋ออย่างเข้าใจกัน
“ใช่ ผู้ชายนั่นแหละ มึงคบพี่มันเลย”
ผมขมวดคิ้ว
“คบบ้าอะไร เขามีแฟนหรือยังก็ไม่รู้”
“ยังไม่มีหรอก พี่มันรอมึงอยู่”
มินว่า อาจเพราะเห็นผมกำลังทำหน้าสงสัยมินถึงได้อธิบายเพิ่มเติมว่าพี่สกายอดีตพี่สันทนาการในสมัยเรียนนั้นแอบชอบผมมานานแล้วแต่ที่ไม่เคยมาแสดงตัวเพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมกำลังเริ่มคุยกับภูผาพอดี
แม้จะได้ฟังอย่างนั้น.. แต่ผมก็ไม่คิดว่าควรลากคนดีๆ แบบพี่สกายมายุ่งกับเรื่องนี้อยู่ดี
เขาอยู่ของเขาดีๆ.. จะลากให้มาเปื้อนกับเรื่องของผมทำไมกัน
“กูบอกเลยเหนือว่าพี่มันพร้อมเป็นมือที่สามที่สี่ที่ห้าให้มึงมาก”
เห็นท่าทางจริงจังของเพื่อนๆ ที่พร้อมทำทุกอย่างให้ผมพ้นไปจากจุดนี้แล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้หลังจากวันนั้น ทุกคนในกลุ่มก็ได้สร้างบุพเพให้ผมกับพี่สกายได้พบและทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง
เขาเป็นคนที่ดี.. ดีเสียจนผมแอบเสียใจที่ใช้เขาเป็นเครื่องมือ
แต่เขาก็ยังยิ้มแล้วบอกผมว่าไม่เป็นไร เขาเต็มใจ
ในเวลาที่ผมมองเขา..บางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนกำลังส่องกระจกมองตัวเอง
มองความดันทุรังที่เชื่อคำโป้ปดหมดหัวใจ
“ช่วงนี้สนิทสนมกับใครมากเกินไปหรือเปล่า”
ภูผาถามขึ้นในวันหนึ่งใจผมกระตุกเล็กหน่อยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำผิดทรยศความรู้สึกของเขาขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากเพื่ออธิบายออกไปเหมือนคนโง่ที่ลืมไปว่าสถานะของผมกับเขาตอนนี้ก็คือน้องเมียและพี่เขยดาหลาก็ปรากฏตัวขึ้นมาได้ทันกาล
“ภูผา พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกับดานะ”
ภูผายิ้มอบอุ่นสายตาที่เขามองดาหลานั้นดูเหมือนจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
“ครับ แต่ตอนนี้ต้องพักผ่อนก่อนนะครับ”เขาว่าแล้วประคองดาหลากลับห้องไปแต่ในเสี้ยวนาทีหนึ่งสายตาคู่นั้นตวัดมองผมอย่างคาดโทษ เพียงแวบเดียวเท่านั้นสายตาของเขาก็กลับมาอบอุ่นกับภรรยาของเขาดังเดิม
ภรรยาที่ไม่ได้หมายถึงผม
ภูผาเริ่มกลับมาให้ความสนใจผมอีกครั้งมันน่าเศร้าที่ต้องพูดอย่างนั้น.. แต่เขากำลังทำตัวเป็นหมาหวงก้างแม้มันจะน่าโกรธที่เขาทำตัวไม่ให้ผมจมปลักอยู่กับที่แต่อีกใจผมกลับรู้สึกเหมือนได้รับยาชูกำลังขึ้นมา ทั้งที่มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น
อาการหึงหวงของเขาออกมาชัดขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสวมบทบาทสามีและพี่เขยที่ดีได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งดาหลาท้องแก่ เขาก็ยิ่งปลีกตัวมาหาผมบ่อยขึ้นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน
ถ้ามองจากคนนอกที่รู้เรื่องนี้เขาคงบอกว่านี่มันคงอุบาทว์สิ้นดี
แต่เพราะไม่มีใครทราบเรื่องระหว่างผมกับเขาจึงไม่มีใครระแวงหรือสงสัยอะไรทุกคนเข้าใจว่าพี่เขยคนนี้กับน้องชายของดาหลาช่างสนิทสนมกลมเกลียวกันดีเหลือเกิน
สนิทกันมากจริงๆ.. จนนอนด้วยกันได้หลายครั้งเลยล่ะ
“พี่รักเหนือคนเดียว เหนือเชื่อพี่นะ”
เขาเอาแต่ย้ำคำนี้ให้ผมฟัง
“พี่จะทำให้เหนือมีความสุขที่สุด”
และเขาก็ใช้สองมือกับลมปากนั่นปิดตาผมได้อีกครั้ง
ผมได้แต่ยิ้มกับคำโป้ปดคำโตที่แสนจะหวานที่สุดในโลกนี้
“ทำไมดูไม่สนุกเลยเหนือ” พี่สกายเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
ผมยิ้มจางๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกอยู่ในสถานะเดียวกันหรือเปล่าทุกครั้งที่เห็นเขา.. ผมก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา
เขาเป็นคนที่ทำให้ผมสบายใจและสามารถพูดในสิ่งที่ผมไม่สามารถพูดหรือแสดงออกไปได้เขาฟังมันทั้งหมดโดยไม่ได้ตัดสินผมอย่างที่ใครต่อใครทำ สิ่งที่เขาเป็นและแสดงออกทำให้ผมรู้สึกว่ายังมีใครคนหนึ่งคอยอยู่ข้างๆ
ในยามที่ผมอ่อนแอ เขาก็พร้อมจะรับผมไว้
จะเป็นอย่างไรถ้าผมรักเขาเต็มหัวใจ..ผู้ชายที่ดีอย่างเขาต้องทำให้ผมมีความสุขมากแน่ๆ
“พี่ว่ามันจะเป็นยังไง.. ถ้าเรารักกัน”
เขานิ่งไปสักพัก สายตาคู่นั้นดูสับสน
“ตอนนี้.. ยังมีแต่พี่ที่รักเหนือหรอ”
ผมเงียบไป.. อาจเพราะเห็นอย่างนั้นเขาถึงหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศที่กร่อยให้สดใสขึ้นผมมองเขาอย่างนึกเศร้าและอยากขอโทษเขาที่ไม่อาจเป็นคนนั้นให้เขาได้ เห็นเขาต้องเสียใจเพราะผมแล้ว..นี่มันก็โหดร้ายกับคนๆ หนึ่ง แต่ผมก็แค่มนุษย์..เป็นแค่มนุษย์ที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง
และเพื่อไม่ให้เขาเจ็บปวดจนเกินไป..
“เหนือจะรักพี่”
ผมเองจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายโกหกให้เขาบ้าง
เขายิ้ม แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ไม่ถึงดวงตา
ผมโอบกอดเขาไว้เหมือนคนที่เห็นแก่ตัว แต่เมื่อเขากอดผมกลับและยินยอมที่จะเชื่อคำโป้ปดที่แสนหวานของผม ผมก็จะใช้สองมือและลมปากนี้ปิดตาเขาด้วยเช่นกัน
“เหนือจะทำให้พี่มีความสุขเอง”
“I tell him sweet lies, sweet lies”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in