Day-5 : revenge
seungyoun x dohyon
“ผมไม่มีวันให้อภัย ผมจะทำให้มันเจ็บกว่าเป็นพันเท่า”
ผมประกาศกร้าวต่อหน้านาวินพี่ชายที่ยังนอนโคม่าที่เป็นผลมาจากการพยายามฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่ความรักไม่สมหวังยิ่งรู้มาว่า ‘มัน’ ใช้ความรักที่พี่ชายผมมีเป็นการเดิมพันกับบางสิ่ง เพียงเท่านั้นเนวินก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า
ใครต่อใครเอาแต่พูดให้เขาให้อภัยและปล่อยวาง
เหอะ ไปปล่อยกับพ่อมึงเถอะ
เขาจะลากไอ้เวรสุริยะมากราบแทบเท้าพี่ชายของเขาให้ได้
ที่คนเขาว่าความแค้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนชั้นดีในการใช้ชีวิตดูท่าจะเป็นเรื่องจริง..ในเมื่อไอ้เวรสุริยะไม่คิดจะมาขอโทษนาวินพี่ชายของเขาถึงที่ เนวินก็จะเป็นฝ่ายเข้าถึงตัวอีกฝ่ายเอง การเข้าหาสุริยะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากพอสมควร
แต่นั่นล่ะ
แรงแค้นมันทำให้คนเราคลั่งได้มากกว่าที่คิด
ในที่สุดผมก็สามารถเข้าถึงตัวของสุริยะได้แล้วโดยการเข้ามาเป็นรุ่นน้องในชมรมเดียวกัน และยังคอยพาตัวเองไปอยู่ในคลับที่เป็นที่ทำงานของมันด้วยการสมัครเป็นบาริสต้าและจัดแจงฉากการพบเจอกันทั้งหมดให้ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ น่าแปลกทีเดียวที่มันไม่นึกเอะใจเลยว่าการเจอกันระหว่างผมกับมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ สุริยะดูมีความสุขที่ได้เห็นผม ตรงกันข้ามผมขยะแขยงมันขึ้นทุกวัน
น่าตลกว่ะ
ก็ดี.. มีความสุขให้มากๆ
มีความสุขเผื่อวันข้างหน้าด้วยล่ะ
เพราะหลังจากนี้..ผมจะพรากความสุขทุกอย่างของมันเอง
รวมถึงตัวผมด้วย
สุริยะกำลังตกหลุมรักผม.. เขารักผมมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับคนที่ตกลงไปในห้วงลึกที่ไม่สามารถจะปีนป่ายขึ้นจากห้วงนั้นได้ยิ่งเขาตกหลุมรักผมมากเท่าไหร่.. แผนการของผมก็ยิ่งเป็นรูปร่างมากยิ่งขึ้นผมยิ้มกระหยิ่มในแผนการของตัวเอง
“เนรักพี่บ้างไหม?” เขาเอ่ยถามผมขึ้นในวันหนึ่ง ดวงตาค่อนข้างแดงก่ำ
ผมตกใจเล็กน้อยและพยายามที่จะเก็บสีหน้าและอาการให้เป็นปกติ
“ก็อย่างที่พี่พูดครับ”
เขามองหน้าผมราวกับต้องการให้ผมพูดคำนั้นออกมา
ขอโทษเถอะว่ะ
แค่นี้ก็ขยะแขยงจะตายห่าอยู่แล้ว
หลังจากวันนั้นสุริยะก็ไม่ถามคำถามอะไรพรรค์นั้นอีกเขายังทำตัวปกติมีเพียงสายตาคมกริบคู่นั้นที่เปลี่ยนไป ผมไม่รู้ว่าเขารู้อะไรมาบ้าง แต่สายตาของเขาดูเจ็บปวดทุกครั้งที่เขามองผมและผมก็จะเห็นความเจ็บปวดฝังลึกที่ฉายชัดผ่านสายตาคู่นั้น
ผมยิ้ม
ยิ่งเขาเจ็บปวด.. ผมยิ่งมีความสุข
อยากให้เขาเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก สิ่งที่เขาเป็นตอนนี้มันยังเทียบไม่ได้กับที่นาวินได้รู้สึก
แม้จะคิดอย่างนั้น..
แต่ก็กลับเป็นผมเองเช่นกันที่เจ็บปวด
ถึงกระนั้นก็หันหลังกลับไปไม่ได้อีกแล้ว..ผมต้องเดินหน้าทำตามแผนของตัวเองต่อไป
สุริยะบอกรักผมบ่อยขึ้นทั้งทางคำพูดและการกระทำ แต่ขอโทษเถอะ โคตรน่าขำเลยว่ะ ตอนเขาเล่นกับความรู้สึกของนาวินเขาก็คงคิดแบบที่ผมกำลังคิดในตอนนี้สินะ มองคนที่รักจนแถบถวายหัวมาวิ่งตามปรนนิบัติตัวเองทุกอย่างราวกับทาส เหมือนคนโง่คนหนึ่งที่จะทำอะไรก็ได้
หมอบอกว่าอาการนาวินดีขึ้น
นั่นเป็นเรื่องที่ดี
เหลือเพียงลากสุริยะไปกราบแทบเท้าของนาวิน..เขาก็จะได้จบเรื่องนี้สักที
รีบจบ..ก่อนที่เขาจะควบคุมมันไว้ไม่อยู่
นาวินฟื้นแล้ว
ผมเล่าให้นาวินฟังถึงแผนการที่กำลังจะทำต่อไป แต่พี่ชายคนนี้กลับตกอกตกใจและค้านแผนการที่ผมวางไว้หัวชนฝา นาวินห้ามผมดำเนินการแผนนี้ต่อเพราะจะเป็นอันตรายกับตัวผมเองเปล่าๆ ผมหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่ได้ตกลงหรือตอบรับอะไร
ไม่บอกแผนการให้นาวินรู้คงจะเป็นทางที่ดีกว่า
แผนการที่เริ่มแล้ว.. ก็ต้องดำเนินให้จบ
คอยดูเถอะสุริยะ.. มึงต้องซึ้งใจแน่
สุริยะทำตัวดีมาก
ดีเสียจนไม่เหลือคราบพ่อหนุ่มนักรักตัวร้ายที่เคยเล่นกับหัวใจใครต่อใครไปทั่ว
แต่ถึงกระนั้นผมเองก็ยังไม่คิดปักใจเชื่อว่าภาพลักษณ์ที่อีกฝ่ายแสดงออกจะเป็นเรื่องจริงรวมถึงความรักที่อีกฝ่ายแสดงออกให้ผมได้ยินและประจักษ์อยู่บ่อยครั้งนั่นด้วยก็เช่นกัน
จะเชื่อใจอะไรกับคนที่ปั่นหัวคนเป็นว่าเล่นล่ะ
คิดจะขึ้นหลังเสือก็ต้องระวังพลัดตกลงมาอยู่แล้ว และผมเองจะไม่ยอมพลาดเด็ดขาด
นาวินบอกผมว่าสุริยะดูรักผมมากจนไม่น่าใช่การเล่นละครตบตาแบบที่ผมคิด
ผมหัวเราะออกมาดังๆ นาวินยังคงไร้เดียงสาจริงๆ แม้ว่าตัวเองจะเป็นพี่ชายของผมก็ตาม
“อันนี้เรื่องจริงนะ พี่ซันเขารักเนมากๆนะ”
เหมือนได้ฟังเรื่องตลก ผมขำจนปวดท้อง
“ก็ดีแล้ว.. รักมากก็เจ็บมาก”
นาวินมองผมอย่างเป็นห่วง แต่ผมคิดว่านาวินคงคิดมากไปเอง คนอย่างสุริยะน่ะเหรอที่จะรักใครเป็น พูดว่ามันรักตัวเองมากจนกลัวเจ็บยังน่าเชื่อมากกว่าเสียอีก
สุริยะหายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์และกลับมาในสภาพที่ซูบโทรมอ่อนแรง ดวงตาของเขาลึกราวกับอดหลับอดนอนมาตลอดอาทิตย์ ทั้งนัยน์ตาแดงก่ำ เมื่อพบหน้าผมสิ่งแรกที่จอมวายร้ายคนนี้ทำก็คือโผเข้ามาสวมกอดผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน
“เนอย่าจากพี่ไปไหนนะ”
“...”
“จะยังไงก็ได้.. แต่อยู่กับพี่นะ”
ผมยืนฟังอีกฝ่ายคร่ำครวญด้วยความเบื่อหน่าย
แต่เอาหน่อยก็แล้วกัน
สงสาร
“หายไปไหนทั้งอาทิตย์หรอครับ”
เขาไม่ตอบคำถามนั้น แต่กอดผมแน่น แล้วพูดโพล่งขึ้นมาว่า
“เนรักพี่ไหม..”
เอาอีกแล้ว.. คำถามนี้
“..หรือใจเนคิดแต่จะแก้แค้นพี่อย่างเดียว”
ผมตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเขาโพล่งขึ้นมาอย่างนั้น แต่ถึงกระนั้นสุริยะก็ยังกอดผมไว้แนบแน่นราวกับว่ากำลังกลัวคำตอบจากปากของผม หยดน้ำอุ่นที่ซึมบนบ่าทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังร้องไห้ ซึ่งมันโคตรน่าตลกที่เขากำลังร้องไห้เพราะผมจริงๆ
แผนการของผมกำลังจะสำเร็จแล้ว ผมคิดในใจอย่างพึงพอใจ
“แต่ต่อให้เนจะอยู่กับพี่ด้วยความแค้นก็ไม่เป็นไร..”
เขาว่าเสียงเย็นเยียบ แม้อ้อมกอดของเขาในตอนนี้จะอุ่น แต่ผมกลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ สุริยะตอนนี้ดูเหมือนคนสิ้นหวังที่พร้อมทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง
“พี่จะไม่ขอโทษ..จะไม่มีวันให้เนแก้แค้นพี่สำเร็จ”
เขาว่าแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
ถึงตอนนั้นก็เป็นผมเองที่หัวเราะไม่ออก ผมสังเกตเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ในวันนี้ที่เป็นชุดสีดำทั้งชุดแต่กลับมีกลิ่นสนิมเหล็กคล้ายว่าจะเป็นกลิ่นเลือด ผมตัวสั่นขึ้นมา ขอบตารื้นผ่าวด้วยความกลัว สุริยะยังคงกอดผม มือหนายังลูบท้ายทอยผมเบาๆราวกำลังปลอบโยนผมให้สงบ
“ไม่มีนาวินแล้ว..”
เขาว่าด้วยน้ำเสียงยินดีขณะที่ผมกำลังกลัวจนสุดขีด
“ต่อไปนี้.. เนก็จะได้แค้นพี่ไปจนตาย”
เขาหัวเราะออกมา แล้วกอดผมอย่างรักใคร่
“พี่รักเน..”
ผมร้องไห้ออกมา ตั้งแต่ได้ยินว่าไม่มีนาวินแล้วหัวสมองของผมก็ว่างเปล่า สุริยะเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างแผ่วเบา เขาในตอนนี้เหมือนปิศาจ.. ปิศาจที่ผมสร้างขึ้นมาจากความแค้นของตัวเอง
“เราจะอยู่ด้วยกัน..และตายไปด้วยกันนะครับ”
ตอนนี้ปิศาจตัวนั้นมันได้กลับมาเล่นงานผมแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in