เอาไปบอกใครเขาจะเชื่อว่าจะได้รับข้อความผ่านอีเมลนอกจากเรื่องงาน กับอีเมลที่ไปกดสมัครนู้นนี้ไว้ ก็ไม่เห็นจะมีอีเมลอะไรมาเลย
เเละตอนนี้ก็พยายามขับรถไปจอดในลานจอดรถของห้างหน้าซอย สุขุมวิท 21 ที่มันไม่ได้ขับนานรู้สึกกลัวๆตอนหันพวงมาลัยเลี้ยวเข้าซอง ท่องไว้ในใจเมื่อเคยฝึกขับรถว่าถอยอย่าไปชนหัวใครเขานะ ถ้างั้นต้องเอาเงินไปจ่ายไรเเบบนี้อีก
เมื่อตอนอายุ 17 ครั้งเเรกของการขับรถ
ใครจะไปเชื่อว่าการขับรถมันยาก คงเหมือนจักรยานสี่ล้อที่เราปั่นมันได้ง่ายๆ เราเริ่มเรียนขับรถทั้งๆที่ขับมอเอตร์ไซต์ไม่เป็นด้วยซ้ำ อย่าถามถึงจักรยานปั่นเป็นเเค่สี่ล้อด้วย เเต่ก็กล้าหาญไปขับรถเว้ย เป็นไงละ ขับรถครั้งเเรกมันมีรอยเเผลจากคนนั่ง คือพ่อเรานั้นเอง พ่อสอนขับรถไปก็ด่าไป ตะคอกไปตอนนั้นไม่เข้าใจเลยนะว่าเราทำไรผิด เราก็ว่าเราขับดีเเล้ว เเต่สำหรับคนนั่งมันยังดีไม่พอไม่ว่าจะ
เราจะเลี้ยว เราจะกลับรถ เราจะเปลี่ยนเลนส์
ก็จะมีเสียงมาทำให้เราตกใจจากคนในรถเสมอซึ่งเราก็มารู้เหตุผลก็ตอนได้มานั่งรถคนที่ยังขับไม่เป็นกับตอนนั้นที่เราขับเป็นเเล้วว่ามันน่ากลัวเเค่ไหน มันน่ากลัวมากจริงๆนะ เพราะไอ่คนขับที่มันขับอยู่มันไม่ได้มองได้ทั่วคันเหมือนคนที่เขาขับรถเป็นเเละนั่งมันก็จะขับไปตรงๆของมันเเต่กูนี้เห็นหมดเลยทั้งคันจ้าไม่ว่ารถจะเบียด จะเหยียบเส้น จะมีมอเตอไซต์มา มันก็จะตกใจไปหมดจนอยากจะไปขับเอง เเละตอนนั้นทำให้รู้ว่าเราก็โวยวายเหมือนกันนั้นเเหละ
เเละสุดท้ายเเล้วเราก็ได้จอดรถในห้างเเห่งนี้สำเร็จ!!
ในวินาทีนั้นเราก็ยังไม่ได้สนใจอะไรกับอีเมลที่เข้ามาเพราะเวลาโทรศัพท์เเจ้งเตือนจะมาเป็นเเค่ข้อความสั้นๆ เป็นตัวอย่างให้อ่าน ตอนนั้นโฟกัสการรีบเดินขึ้นไปหาเพื่อนก่อนจะโดนด่า เพราะนี้ก็เลทมาเกือบจะชม.เเล้ว
เพื่อน : มึงไปขับรถรอบกรุงเทพเล่นมาหรอ
เรา : เออ กูขอโทษ ไปเสียเวลากับจอดรถมานานไปหน่อย
เเละก็ได้เลือกร้านอาหารที่เข้าไปกินกันตอนนั้นก็เข้าไปกิน ปิ้งย่างร้านนนึงที่คงเป็นร้านโปรดสุดๆเเล้วเเละเพราะไม่ว่าจะนัดกันกี่ครั้ง ก็จะต้องร้านนี้ ร้านที่ยังสงสัยในการตัดหมูของเขาว่าทำไมถึงกลมได้ขนาดนี้ สงสัยจริงๆ 5555555555 ในตอนนั้นก็กินกันเเละก็หัวเราะกันในหลายๆเรื่องเออ ลืมบอก ว่าเรานัดกัน 8 คน เเต่โผล่กันมา 6 คนเองเด้อ
เพื่อน1 : มึงจะเเต่งงานเเละใช่ไหมวะ
เรา : เเต่งงานก่อนคนอื่นเลยได้ยังไง
เพื่อน2 : ตอนนั้นมึงยังเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่มีเเฟนเลย
เพื่อนที่จะเเต่งงานเป็นคนเเบบเด็กเรียนนิ่งๆเรียบร้อยเเต่น่าอิจฉามาก เพราะเเฟนมันคนดีมากกกกก ยังกับเก้งกวาง สะอาด สะอ้าน ผู้ดี พูดจาเรียนบร้อย ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ เเม่งไปหาคนเเบบนี้ได้มาจากไหนกันนะ สงสัยจริงๆ
เรา : เเฟนมึงเป็นตุ้ดป่าวว่ะ
เพื่อนที่จะเเต่งงาน : มึงจะบ้าหรอ เขาเป็นคนดี
เพื่อน 2 : เเหม คนดีเกิ๊น
เพื่อน 3 : อย่าไปล้อมัน หน้ามันเเดงกว่าหมูตรงนี้เเล้วเนี่ย
เพื่อน 4 : กูว่าหันมาถามเพื่อนเราดีกว่า
เพื่อน 1 : ใครว่ะ
เพื่อน 4 : อีนี้ไง Do you believe in love at first sight ?
เรา : โอ้ยพอออ ไม่ต้องมาถึงกตรงนี้เลย
ทุกคน : ไหนเล่ามาเลย !
เราก็โดนล้อมไว้หมดเเล้วก็เลือกที่จะต้องเล่าออกไป เล่าตั้งเเต่เเรกจนเพลินๆมา่จนถึงอีเมลเมื่อกี้พอจะเล่าถึงตอนอีเมลก้หยุดชะงัก เเละหยิบมือถือขึ้นมา ก่อนจะกดดู เเละเพื่อนๆทุกคนก็หยุดมองเเละ ก็เหมือนจะมีคำถามเเต่ก็รอจนเราเล่นโทรศัพท์จนเสร็จ เเละเราก็กดอ่านอีเมลนั้นทำให้เรารู้ว่านั้นไม่ใช่อีเมลธรรมดา เเต่เป็นอีเมลที่ทักมาถามว่า
'น้องเป็นคนส่งดอกไม้มาใช่ไหม'
นาทีนั้นมันไม่ได้ดีใจจนอยากจะกระโดดขึ้นมา เเต่ มันก็ไม่ได้เศร้าจนอยากจะร้องไห้ เเค่รู้สึกหน่วงๆ เเละก็ไม่ได้ทำอะไรกับข้อความนั้นไป เเละเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเพื่อนก็ถามว่า
' มีอะไรหรือเปล่า'
' ไม่อ่ะ ไม่มีอะไร '
เเละเมื่อสิ้นเสียง เราก็เปลี่ยนเรื่องที่จะคุยกันจนกินกันจนหมดโตะ เเละตัดสินใจเเยกย้ายกันกลับบ้านไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in