"สวัสดีค่ะคุณแม่"
"สวัสดีจ๊ะลูก มาเยี่ยมพี่กันต์เหรอ" แม่กล่าวด้วยใบหน้าที่พยายามยิ้มแย้มที่เต็มไปด้วยความอิดโรยจากการอดนอน
"พี่กันต์เป็นยังไงบ้างคะ"
"พี่กันต์เก่งมากนะ พี่กันต์ต่อสู้ฝ่าฟันกับมันมาตลอด ตั้งแต่เทอมที่แล้ว เมื่อวานก็เพิ่งเข้าห้องผ่าตัดไป ตอนนี้ก็กลับมาพักฟื้นแล้ว ทุกอย่างก็ดีขึ้น อีกหน่อยก็กลับไปพักทีี่บ้านได้แล้วล่ะ" แม่กล่าวด้วยความภูมิใจ และเอามือไปลูบหัวของพี่กันต์
"......" ฉันไม่กล่าวอะไรออกไป ได้แต่ยืนมองแม่ที่ใช้สายตามองด้วยความเป็นห่วง แม่พี่กันต์เอาหลังมือแตะหน้าผาก จับเนื้อต้องไหล่ และลูบแขนพี่กันต์
"เออนี่ลูก...เดี๋ยวยังไงแม่ขอฝากลูกดูแลพี่กันต์แทนแม่สักครู่นะ แม่เองก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่ตอนเย็นของเมื่อวานแล้ว ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินก็กดปุ่มตรงนั้นนะ"
"ได้ค่ะ...แม่"
***********
"เป็นไงบ้างค่ะพี่" ฉันเอามือแตะทีี่มืือของพี่กันต์ มือของพี่กันต์เย็นมาก พี่กันต์มองดูฉัน แล้วก็ยิ้มให้กับฉัน
"ดีขึ้นแล้วแหละ....พี่ทนกับโรคมะเร็งนี่มานานเหลือเกิน ผ่าตัดมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่เจอต้นตอสาเหตุที่แน่ชัดสักทีี พี่ขอภาวนาให้ครั้งนี้มันหายขาดได้สักที จะได้มีชีวิตเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง"
"ทำไมพี่กันต์ต้องปิดบังเรื่องนี้เป็นไว้เป็นความลับ ทำไมพี่กันต์ไม่บอกกับหนู หนูจะได้หาทางแก้"
"พี่ไม่อยากบอกไป เพราะพี่กลัว กลัวว่าน้องอาจจะรังเกียจคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งอย่างพี่"
"แล้วหนูจะไปรังเกียจพี่ได้ยังไง ก็ในเมื่อใจทั้งใจมันชอบพี่อยู่แล้ว!!!!"
".........."
"พีีี่กันต์ไม่รู้บ้างเลยหรือไง ว่าหนูชอบพี่ ไม่ว่าพี่กันต์จะเป็นยังไง พี่กันต์จะเป็นอะไรไป แต่พี่กันต์ของหนูก็คือคนที่หนูชอบอยู่วันยังค่ำ หนูชอบพีี่ หนูอยากอยู่ข้างๆ พี่ ไม่อยากให้พี่ไปไหน" ฉันเอามือไปจับพี่กันต์ และก้มหน้าปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาหยดลงบนพื้น
"น้องชอบพี่จริงๆ ใช่ไหมเนี่ย" พี่กันต์พูดขึ้นมาอย่างลอยๆ ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมา "โหว....พี่ดีใจทีี่น้องรู้สึกกับพี่เช่นเดียวกันกับพี่ที่รู้สึกกับน้อง พี่คงไม่ได้คิดเพ้อฝันไปว่าพี่ชอบน้องอยู่ฝ่ายเดียวใช่ไหมเนี่ย"
"พี่ อะไรยังไง นะ" ฉันมองหน้าพี่กันต์ด้วยความงง พี่กันต์เริ่มยิ้มแย้มให้กับฉัน พี่กันต์พยักหน้าตกลงตอบรับฉัน " โธ่ พี่กันต์ บ้า ทำไมพี่ต้องให้ปล่อยให้น้องเป็นฝ่ายบอกล่ะ ถ้าพี่ชอบหนู พี่ก็บอกตรงๆ กับหนูสิ หนูก็คงไม่ต้องแบกความรู้สึกที่มันเอ่อล้น แล้วต้องมาบอกกับพี่อย่างนี้"
"พี่ขอโทษนะ......พี่ไม่อยากจะผูกพันกับน้องไปมากกว่านี้ น้องยังมีเวลาในช่วงวัยมัธยมอีกตั้งเยอะ และพบเจอใครต่อใครได้อีกตั้งมากมาย แต่พี่เองก็ต้องไปเรียนต่อมหาลัยฯ พี่ไม่อยากเรื่องของสองเราผูกพันไปมากกว่านีี้ พี่ไม่อยากให้ความห่างไกลมาทำร้ายความสัมพันธ์กันและกัน พี่อยากดูแลน้องให้ดีที่สุดเท่าที่พี่จะทำได้ พี่ขอโทษจริงๆ พี่จำเป็นต้องทำแบบนี้กับน้องจริงๆ"
"โธ่พีี่....อย่ากังวลถึงอนาคตเลย แค่ตอนนี้ได้บอกว่าชอบก็พอแล้วใช่ไหมพี่ ถึงวันนั้นทั้งหนูและพี่ต้องห่างไกลกัน ก็จะเป็นสิ่งทีี่ให้คิดถึงว่า ในครั้งหนึ่งก็เคยมีคนชอบนะ "
"พี่ก็เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าน้องเองก็มีมุมแบบนี้เหมือนกัน" พี่กันต์ขำเล็กน้อย
หลังจากพี่กันต์พูดจบ พี่กันต์ส่งสายตามาให้ฉัน ฉันสบตากับพี่เขา เราทั้งสองคนมองหน้ากัน มือทั้งสองของฉันจับมือพี่กันต์ไว้อย่างเหนียวแน่น หัวใจของฉันเต้นเร็วจนแทบจะหลุดจากขั้ว ความนุ่มนวลของใบหน้า ความหล่อของพี่มันช่างเย้ายวนใจ แต่เสียดายทีี่ผู้ชายแปลกประหลาดคนนั้นยังคงยืนเกะกะขวางตาของฉัน ฉันอยากจะไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปเสียเหลือเกิน
*************
หลังจากที่แม่ของพี่กันต์กลับเข้ามาในห้อง ฉันเห็นพี่กันต์กับแม่พูดคุยกับพี่กันต์สักครู่หนึ่ง แล้วหลังจากนั้นบทสนทนาก็เงียบลง พี่กันต์หลับตาและนอนหลับไป แม่ดึงผ้าห่มห่มพี่กันต์แล้วหลังจากนั้นคุยกับฉันสักครู่หนึ่ง จนหมดเรื่องจะคุย ฉันก็เป็นฝ่ายบอกลาแม่ เพื่อให้แม่กับลูกอยู่ใกล้ชิดมากขึ้น
หลังจากที่ฉันปิดประตูห้องพี่กันต์ เมื่อฉันเดินมาถึึงจุดหนึึึ่ง ฉันเห็นชายประหลาดที่ฉันเคยเห็นในห้อง ยืนบนทางเดินอาคารห้องพักผู้ป่วย เขาเดินมาหาฉัน สวนทางกับฉัน แล้วมุ่งหน้าไปห้องพี่กันต์นอนพักผ่อน ฉันเดินตามเขาไป ฉันเห็นเขาเดินทะลุกำแพงห้องพี่กันต์ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เขาเดินทะลุกำแพงออกมาจากห้อง พร้อมกับมีชายอีกคนเดินตามหลังมา
"พี่กันต์"
ฉันอยู่ในความตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทำไมพี่กันต์เดินออกมาจากห้องในขณะที่นอนบนเตียงรักษาภายในห้องพักฟื้น ชายทั้งสองเดินตัดหน้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว พี่กันต์เดินก้มหน้าตามชายแปลกประหลาดคนนั้นไป
"แก แกจะเอาพี่กันต์ไปไหน แกเอาพี่กันต์คืนมานะ"
"ขอโทษด้วยนะ แต่นี่เป็นหน้าที่ของผมที่ผมต้องทำ มันถึงเวลาของเขาแล้ว" เขาหยุดเดิน แล้วตอบฉัน โดยที่ไม่หันหน้ามามองกลับมา
"นี่แก แกเป็นผู้นำทางวิญญาณใช่ไหม แกจะเอาของรักของฉันไปถึึงไหน แกเอาครอบครัวของฉันไปแล้ว แกยังเอาคนทีี่ฉันรักไปอีก จะไม่พอใจอีกหรือไง"
"........."
"ผมเสียใจนะ....แต่ความจริงก็คือความจริง" ผู้นำทางคนนั้นตอบ "ไม่ข้าไม่เร็ว วันหนึ่ง ผมต้องเอาสิ่งที่คุณรักไปอยู่ดีี"
หลังจากผู้นำทางวิญญาณตอบ ความรู้สึกของฉันเหมือนดิ่งลงเหว ฉันทรุดตัวลงกับพื้นราวกับคนไม่มีเรี่ยวแรง ฉันก้มหน้า น้ำตาไหลหยดลงบนพื้นไม่ขาดสาย
ฉันเงยหน้าขึ้นมา ผู้นำทางวิญญาณก้าวขา เดินออกไปห่างจากฉันเรื่อยๆ
"เดีี๋ยว!!!!" ฉันสั่งเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน "แกตอบฉันสิ....แกรู้ใช่ไหมว่าฉันเห็นแก และคนวิญญาณคนอื่นที่ร่อนเร่พเนจรได้นั้น ตอบฉันสิ ฉันจะให้เห็นวิญญาณแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ฉันจะปิดมันยังไง ฉันไม่เอาแล้ว ย่ิ่งฉันมองเห็นมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งเห็นความตายมากขึึ้นเท่านั้น ฉันไม่อยากเห็นใครตายอีกต่อไปแล้ว"
"คุณจำไม่ได้เหรอ คุณนั่นแหละที่ขออยากเห็นหน้าพ่อ แม่ และน้องของคุณที่จากไป" ผู้นำทางคนนั้นตอบ "ผมทำตามคำขอร้องไม่ได้ แต่มีวิธีนี้ที่ทำให้คุณมีโอกาสเจอพวกเขาได้ แล้วคุณเจอพวกเขาแล้วหรือยังล่ะ???"
คำพูดของผู้นำทางคนนั้นทำให้ฉันตกตะลึง ดำดิ่งสู่ก้นบึึงของความคิด ความทรงจำของฉันค่อยๆ เริ่มย้อนกลับมา มันย้อนไปจนถึงตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก นอนบนเตียงพักฟื้น ฉันกำลังขอบางอย่างจากคนๆ หนึ่งที่แหวกม่านเข้ามา ฉันขอพลังจากเขาคนนั้น แล้วหลังจากนั้นคนๆ นั้นก็หายจากไป
************
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in