(กดที่นี่เพื่อย้อนกลับไปอ่านบทที่ 9)
เสีียงเพลงลูกทุ่งดัังขึ้นจากลำโพงซ้ายขวาของรถยนต์กระบะคันหนึ่ง ชายวัยกลางคนกำลังขับรถยนต์บนถนน สายตามองถนนด้านหน้าอย่างไม่ลดละ ทีี่นั่งด้านข้างของคนขับ มีสาววัยไล่เลี่ยกับผู้ชายคนนั้นกำลังสนทนาคุยกัันอย่างเพลิดเพลิน เบาะที่นั่งด้านหลังเด็กชายวัยประถมตอนปลายกำลังนั่งเล่นเกมบอยอย่างสนุกสนาน ส่วนฉัันกำลังฟังเพลงจากเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ท แต่สายตามองชมวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างของรถ
วันนีี้เป็นวันหยุดเทศกาล ผู้คนต่างทยอยเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวตนเอง เช่นเดียวกับครอบครัวของฉัน พ่อและแม่ตั้งใจพาฉันและน้องชายไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าที่อยู่ต่างจังหวัด ฉันต้องตื่นนอนตอนเช้าและออกเดินทางช่วงตอนสาย กว่าจะถึงบ้านของคุณปู่คุณย่าก็เป็นเวลาช่วงบ่าย การเดินทางบนท้องถนนที่แสนยาวนานมันน่าเบื่อจริงๆ ฉันไม่ชอบการเดินทางนี่เลย ฉันอยากให้ถึงที่หมายโดยเร็วๆ
อุณหภูมิเย็นภายในห้องโดยสาร ทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลงทีี่กระทุ้งโสตประสาทเกิดเป็นทำนองไพเราะ จนฉันเผลอผล่อยหลับไป
"กรีี๊ดดดดดดด!!!!!!"
เสียงผู้หญิงกรีดร้องยาวๆ ดังขึ้น พร้อมกับเสียงแตรดังลั่นรถ เมื่อฉันตกใจและรีบลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ภาพที่ปรากฎบนกระจกด้านหน้าของรถ แสดงให้เห็นว่ารถกำลังพุ่งออกนอกเส้นทาง เสียงเบรกดังชัดเจน รถส่ายไถลโคลงเคลงไปมา เสียงของกระทบกระแทกจากทั้งด้านซ้ายและขวาของตัวรถ และภาพสุดท้ายที่ฉันจำได้คือ รถทะยานพุ่งสู่แม่น้ำในคลองแห่งหนึ่ง
ภายในห้องโดยสารค่อยๆ มืดลง น้ำไหลทะลักเข้ามาภายในห้องโดยสาร ฉันรีบปลดเข็มขัดนิรภัย ร้องเรียกพ่อ แต่พ่อไม่ตอบรับกลับมา ฉันเห็นพ่อนอนแนบกับพวงมาลัยอย่างแน่นิ่งพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจากหู ฉันตกใจเป็นอย่างมาก มองซ้ายมองขวา น้องชายของฉัันหายไปจากที่นั่ง ส่วนแม่กำลังดิ้นรนกระสับกระส่าย เอี้ยวตัว พยายามดึงพนักพิงศีรษะ ฉันจึงช่วยแม่ดึงจนมันหลุดออกมา
"เอามันทุบกระจกรถสิ!! เร็วๆ!!! " แม่ตะโกนสั่งฉันด้วยน้ำเสียงดุดัน ฉันรีีบทำตามทีี่แม่บอก จนกระจกรถทะลุ น้ำเริ่มไหลเข้ามาในรถจนเกือบท่วมที่นั่ง "ออกไป....ไป!! เร็วสิ..รีบไป!! เดี๋ยวแม่กับพ่อจะตามไป"
ระดัับน้ำภายในรถท่วมถึงเบาะที่นั่ง ฉัันใช้พนักพิงทุบกระจกจนมันเกิดเป็นรอยร้าว และทุบอีกครั้งจนกระจกแตก ฉันใช้มือสองมือจับประตูรถด้านนอก ลอดออกจากช่องกระจกรถ และพยุงตัวเองให้ลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำ ฉันมองดูรถตัวเองอีกครั้ง รถค่อยๆ จมหายไปกับตาสองข้างของฉัน ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่โผล่ออกมาให้ฉันเห็นเลย
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมานั่งตอนกลางดึก
"ฝันหรอกเหรอเนี่ย"
เหงื่อท่วมใบหน้า หัวใจเต้นเร็ว ฉันสูดลมหายใจลึกๆ ตั้งสติและพลิกตัวหันไปมองดูรอบๆ เตียง มองทะลุผ่านมุ้ง เห็นมุ้งทรงสี่เหลี่ยมสีขาวของคุณป้าจึงเกิดความรู้สึกสบายใจ ฉันพลิกตัวกลับ พลางคิดถึงเรื่องในความฝันเป็นเวลาหลายนาที แล้วพยายามข่มตาตัวเองให้นอนหลับอีกครั้ง
**************
ผมเดินลงบันไดจากอาคารเรียน 4 เพื่อกลับไปยัังอาคารเรียน 1 ตามเดิม แต่ในระหว่างทีี่ผมกำลังเดินลงบันไดจนถึงชั้น 1 นั่นเอง ที่มุมเลี้ยวของระหว่างทางเดินอาคารชั้น 1 กับบันได ผมเห็นร่างวิญญาณของมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่งกำลัังมองมาที่ผม เขาสบตากับผมชั่ววินาทีแล้วหลังจากนัั้นก็วิ่งไปตามทางเดินอาคารเรียนหนึ่ง
"หลานเห็นเขาใช่ไหม" ลุงบุญส่งเอ่ยถามขึ้นมา
"อะ อะ...อืมครับ" ผมตอบด้วยเสีียงสั่นครืน เพราะผมยังไม่เคยชินต่อการปรากฏกายของสิ่งเร้นลับเหล่านี้เลย
"ไปเยี่ยมเขาหน่อยไหม บางทีเขาคงอยากจะคุยกับลุงนะ" ลุงบุญส่งพูดขึ้นมา โดยที่ผมก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจแล้วว่า ผมไม่พร้อมจะเจอกัับวิญญาณอะไรทั้งนั้น เพราะจิตใจของผมยังไม่แข็งแรงพอ "ก็คงเป็นเรื่องนั้นมั้ง เขาคงทำใจไม่ได้ที่เขาต้องจากไปก่อนวัยอันควร"
"กะ กอ.. ก็ได้ครับ" ผมตอบตกลงไป
ผมกับลุงบุญส่งเดินไปตามทางเดินจนถึงกลางอาคารเรียน แล้วหลังจากนั้นผมก็พบกับวิญญาณชายคนนั้นอีกครั้ง เขายืนอยู่หน้าห้องแห่งหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นเขาก็ก้าวเดินทะลุผ่านประตู ผมยืนมองด้วยความตื่นตะลึง ลุงบุญส่งรีบเดินแล้วไปไขกุญแจห้องทีี่วิญญาณชายคนนั้นเดินเข้าไปในห้อง
วิญญาณชายคนนั้นยืนมองดูรูปภาพของตัวเองที่อยู่เหนือกระดานด้านหน้าของห้อง เหนือรูปภาพของเขามีป้ายข้อความเขียนไว้ว่า "ชมรมอาสาพััฒนาชนบท" ภายในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำแข็ง ถ้วยแก้ว หมวก ร่ม กล่องปฐมพยาบาล กลองสันทนาการ ผ้าคลุม ป้ายไวนิล และของต่างๆ อีกมากมายที่วางกระจัดจายตามแนวผนังของห้อง
ลุงบุญส่งเดินไปพูดคุยทักทายกับวิญญาณชายคนนั้นทันทีี ส่วนตัวผมยืนนิ่งอยู่ที่ประตูของห้อง มองบริเวณไปรอบห้อง จนชั่วอึดใจหนึ่ง ผมดันไปสบตากับวิญญาณทีี่คุยกับลุงบุญส่ง เขายกแขนและชีี้ไปยังทีี่มุมด้านหลังของห้อง และเขาพยักหน้าให้กับผม ผมเดินไปตามทีี่วิญญาณคนนี้ชีี้ไป ก็พบกับชั้นวางหนังสือทีี่เต็มไปด้วยสมุดมากมาย
ผมหันหน้าสบตากับวิญญาณอีกครั้ง แต่แล้วเขาไม่ได้อยู่ที่เดิม เขาอยู่ทีี่ข้างๆ ผม เขาทำผมตกใจเป็นอย่างมาก
"ทะ ทำไมเธอถึงวนเวียนอยู่ที่นี่" ผมถามวิญญาณไปด้วยน้ำเสียงสั่น
"ผมคิดถึงคนหนึ่งครับ....คนทีี่อยู่ในความทรงจำของผม"
เขาพูดพลางชี้นิ้วไปยังที่วางชั้นวางหนังสือ ผมเห็นสมุดโน้ตเล่มหนึ่งวางอยู่ข้างหน้า หน้าปกของหนังสือไม่มีข้อความอะไรเขียนไว้เลย และแล้วสมุดโน้ตถูกเปิดออกมาอย่างอัตโนมัติ ข้างในเป็นข้อความที่เขียนด้วยปากกาลูกลื่นที่มีลายมือสวยงาม และมีรูปถ่ายหญิงสาววัยมัธยมต้นกับชายมััธยมปลาย
ผมมองรูปภาพชายมัธยมสักครู่ และหันหน้าไปเทียบกัับวิญญาณชายคนนั้น ปรากฏว่าวิญญาณชายคนนั้นมีหน้าตาที่คล้ายกับคนในรูป
"ใช่แล้วครับ.....ผมคือคนที่อยู่ในรูปนั้นเอง"
**************
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in