เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I Know It's Real, I Can Feel It | TXT Fan Fictionsa week before valentine
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน I Know Where I Should Stay | #beomjun
  •  Rating: Explicit

    Archive Warning (s) : None

    Fandom (s) : TOMORROW X TOGETHER

    Categories: M/M

    Relationship: BEOMGYU/YEONJUN

    Characters: BEOMGYU, YEONJUN

     

     

    Work Title: I Know Where I Should Stay

     

     

    Notes:

    • PWP
    • จะว่าต่อกับเรื่องก่อนหน้านี้ก็ได้ หรือไม่ต่อก็ได้ แยกอ่านได้ค่า

     

     

    Warning:

    • กล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างชัดเจน (explicit content)
    • พูดถึงเพศสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมา
    • กล่าวถึง kink (คำกว้าง ๆ ที่ปกติหมายรวมถึงกิจกรรมทางเพศที่ถูกมองว่า อยู่นอกเหนือจากบรรทัดฐาน [1] )

     

     

    Disclaimer: บทความนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงแต่อย่างใด และไม่มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียแก่บุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงที่ถูกกล่าวถึงใด ๆ ทั้งสิ้น

     

     


     

     

     

    I Know Where I Should Stay

    BEOMGYU/YEONJUN

     

     

     

     

     

     

    เสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่า ชเวยอนจุนแห่งคณะศิลปกรรมศาสตร์เป็นชายหนุ่มที่มีทั้งหน้าตาและความสามารถ ชเวบอมกยูมองโปสเตอร์โปรโมตละครคณะที่ติดอยู่แล้วก็รู้สึกว่าคำกล่าวพวกนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด ภาพของชายหนุ่มเสื้อสีขาวแขนกุดสวมกางเกงขายาวสีดำทรงตรงเน้นช่วงขาเรียวยาว กำลังวาดแขนอยู่ใต้สปอตไลต์ดูงดงามราวกับประติมากรรมชั้นเลิศ โปสเตอร์เป็นภาพแบบถ่ายย้อนแสงทำให้เห็นรูปร่างเพรียวบางเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั้นชัดเจน

    บอมกยูอดผิวปากกับตัวเองไม่ได้ ชเวยอนจุนในแบบนี้ดูราวกับคนละคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาเลย

    “ทำไม” ตัวจริงของคนในโปสเตอร์ชะโงกหน้ามาหาเขา ตาเรียวเหมือนแมวมองเขาสลับกับโปสเตอร์อย่างสงสัย “มีอะไรหรือไง”

    “เปล่าครับ” บอมกยูหัวเราะในคอ “เห็นพี่ในโปสเตอร์แล้วแปลกตาดี”

    ยอนจุนขมวดคิ้ว “แปลกยังไง”

    “ก็ดูแตกต่างจากเวลาปกติไง”

    “ดีหรือไม่ดีล่ะ”

    “ดีสิ” บอมกยูว่า “พี่เป็นแบบไหนก็ดีทั้งนั้น”

    คนฟังยักไหล่ “ไปกันเถอะ หิวแล้ว”

    แล้วคนพูดก็เดินนำหนีเขาไปอีกทาง ทำให้บอมกยูต้องรีบสาวเท้าตามคนขายาวไป

     

     

     

     

    บอมกยูรู้จักยอนจุนมาได้ราวสามเดือนแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาหากมองผิวเผินคือรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบัน แต่หากถามว่าเจอกันครั้งแรกจากอะไร บอมกยูรู้สึกว่าเป็นคำถามที่ตอบยากและเป็นส่วนตัวไปหน่อย

    ในกลุ่มนักศึกษา มีธุรกิจที่รู้กันเฉพาะกลุ่มแบบที่พวกเขาชอบเรียกกันว่า ‘เพื่อนนอน’ หรือถ้าใช้คำแบบที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักก็คืออะไรคล้าย ๆ FWB

    บอมกยูได้คอนแทคต์ยอนจุนมาจากรุ่นพี่อีกต่อหนึ่ง รุ่นพี่คนนั้นน่าจะเป็นอะไรคล้าย ๆ พวกนายหน้าคอยติดต่อหาคนให้ระหว่างคนซื้อกับคนขาย หลังจากบอก ‘สเปค’ ไป เขาก็ได้ช่องทางติดต่อและพบยอนจุนหลังจากนั้นในอีกสามวันถัดมา

    มันเป็นวันเสาร์ที่เขาไม่มีงานของมหาวิทยาลัยต้องทำ บอมกยูไม่ได้ทำงานพิเศษเหมือนเพื่อนบางคนเพราะฐานะที่บ้านไม่ได้ลำบากอะไร เหตุผลหนึ่งที่เขาเข้าคณะศิลปะได้ก็เพราะแบบนี้เช่นกัน ถ้าฐานะทางบ้านไม่ส่งเสริมขนาดนี้เขาคงต้องดิ้นรนเอาเรื่อง แต่ถ้าสามารถใช้เงินไปกับการหาความสุขให้ตัวเองแบบนี้ได้ ที่เพื่อนสนิทชอบแซวเขาว่าเป็นคุณหนูก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงสักเท่าไหร่

    เขานัดเจอกับยอนจุนที่ร้านกาแฟใกล้กับโรงแรมที่เขาจองไว้ แม้จะเคยเห็นหน้าในแอปแชตมาแล้ว แต่พอได้เห็นตัวจริงก็พบว่าน่าประทับใจกว่าเห็นผ่านจอมากอยู่ดี

    ชเวยอนจุนเป็นชายหนุ่มตัวสูง น่าจะสูงกว่าบอมกยูนิดหน่อย เจ้าตัวแต่งตัวสบาย ๆ แต่ดูมีสไตล์สมกับเป็นเด็กคณะศิลปกรรม เสื้อคลุมตัวนอกสั้นเหนือเอวทับเสื้อยืดสกรีนลายเอาเข้าในกางเกงขายาวทรงตรงสีดำที่คาดเข็มขัดเน้นช่วงเอว ทำให้ช่วงขายาวโดดเด่นขึ้นมาอีกเท่าตัว รวมกับรองเท้าบู๊ตสีดำยาวครึ่งแข้งยิ่งทำให้บอมกยูรู้สึกว่า คนคนนี้ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวมากทีเดียว

    ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือยิ้มให้เขา ผมสีดำเซ็ตลวก ๆ พอให้เปิดหน้าผาก ที่หูมีต่างหูสีเงินหลายอัน

    เป็นคนแฟชั่นจ๋ามากจริง ๆ แฮะ

    “ไง”

    “…สวัสดีครับ”

    ยอนจุนทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงข้ามเขา ขาตวัดไขว่ห้างทันที แก้วอเมริกาโน่ในมือวางลงบนโต๊ะ

    “ชเวบอมกยู...ใช่ไหม ผมออกเสียงถูกหรือเปล่า”

    “ใช่ครับ” บอมกยูตอบกลับ พยายามรักษาท่าทางไม่ให้ดูตื่นเต้นมากเกินไป “คุณยอนจุน”

    เจ้าของชื่อยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ใบหน้าดูดีชวนมองจนบอมกยูต้องดึงสติตัวเองด้วยการเสไปยกกาแฟของตัวเองมาจิบบ้าง

    “คุยกันก่อนไหมครับว่ายังไงบ้าง”

    ยอนจุนถาม บอมกยูพยักหน้ารับ

    “ผมเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ ๆ ไว้ คงใช้ที่นั่น”

    “อือฮึ”

    “แล้วก็ ผมไม่ได้มี kink อะไรเป็นพิเศษ ปกติก็เรียบ ๆ ...”

    ยอนจุนเลิกคิ้ว ช้อนสายตาจากแก้วกาแฟมามองเขา

    “จริงเหรอ”

    “…”

    “อาจจะได้เจอวันนี้ก็ได้นะ”

    บอมกยูหลบสายตาอีกคน ยกกาแฟขึ้นจิบแก้เก้ออีกรอบ

    “แล้วก็ผมรุก...”

    ยอนจุนชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วตัวเอง กะพริบตาปริบ ๆ “น่าสนใจ”

    “ครับ?”

    “ก็แค่” ยอนจุนยิ้มนิด ๆ “อยากรู้เหมือนกันว่าเวลาคุณทำแล้วมันจะเป็นยังไงน่ะ คุณดูหน้าตาน่ารักมาก แบบที่น่าจะโดนเข้าใจว่าเป็นฝ่ายรับตลอด”

    บอมกยูหัวเราะเบา ๆ “เดี๋ยวก็รู้ครับ”

    “งั้นไปเลยไหมครับ” ยอนจุนว่า “หรืออยากให้ค่ำกว่านี้หน่อย ยังไงก็จ่ายให้ผมแบบเหมาชั่วโมงอยู่แล้ว”

    คนเป็นลูกค้าพยักหน้ารับ “เอาสิครับ”

     

     

     

     

    ชเวยอนจุนเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย เจ้าตัวบอกบอมกยูเองว่า ปกติเป็นคนทำมากกว่าเป็นฝ่ายโดนกระทำ

    “แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย” เจ้าตัวว่าขณะถอดเสื้อนอกออกโยนไว้ส่ง ๆ ที่โซฟา “นาน ๆ เปลี่ยนบทบาทบ้างก็ดี”

    นั่นเป็นครั้งแรกที่บอมกยูได้ทดลองเป็นลูกค้าของชเวยอนจุนเป็นครั้งแรก

    เสียงกระซิบแผ่วเบา เสียงหอบหายใจ กล้ามเนื้อที่เต้นเร่าอยู่ใต้ร่างของเขา สัมผัสต่าง ๆ ประทับลึกลงในใจของบอมกยูจนเขาแทบถอนตัวไม่ขึ้น

    หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์เขาก็จองเวลายอนจุนอีก

    “ติดใจอะไรหรือไง”

    ชเวยอนจุนวันนั้นสวมโค้ตยาวสีเบจ มองเขาด้วยสีหน้ากึ่งขำกึ่งเอ็นดู

    “ปกติก็น่าจะมีคนขอจองเวลาพี่ซ้ำไม่ใช่หรือไง”

    หลังจากร่วมเตียงกันไปครั้งเดียว สรรพนามและท่าทางระหว่างกันก็เปลี่ยนไป

    “ก็ใช่ แต่ไม่มีใครลงเงินเยอะเท่านาย” ยอนจุนหัวเราะ “ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ รอคิวหน่อยจะเป็นอะไร”

    “ก็ผมอยากเจอ”

    คนฟังเลิกคิ้ว “ไม่ต้องคิดจะเดินหน้าอะไรเลยนะ เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว ถือว่าเตือนในฐานะรุ่นพี่”

    โดนขีดเส้นตั้งแต่แรกเสียขนาดนั้น บอมกยูจะไปทำอะไรได้

    ครั้งที่สองของพวกเขาเปลี่ยนมาเป็นคอนโดของบอมกยูแทน มันกว้างใหญ่จนยอนจุนผิวปากด้วยความประทับใจ

    “ลูกเศรษฐีหรือไง”

    “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

    “ห้องสตูดิโอกลางเมือง ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก” เจ้าตัวว่า “แค่เห็นว่านายไม่ลำบากฉันก็โอเคแล้ว”

    “ทำไมครับ ถ้าผมลำบากพี่จะเป็นยังไงเหรอ”

    ยอนจุนถอนหายใจ “ฉันเป็นคนขี้สงสารน่ะ”

    “แล้วผมไม่น่าสงสารเหรอ”

    “ยังไง”

    “คนมันเหงาจนต้องซื้อกินเนี่ย”

    ยอนจุนหัวเราะลั่น “ก็ยังใช้เงินแก้ปัญหาได้นี่นา บางคนเขาทำไม่ได้เหมือนนายหรอกนะ”

    บอมกยูมุ่ยหน้า ยอนจุนเลยยื่นมือมาลูบศีรษะเหมือนลูบหัวลูกหมา

    “เริ่มเถอะ เดี๋ยวหมดเวลาก่อนนะ”

    ก่อนใบหน้าของเขาจะถูกอีกฝ่ายรั้งขึ้นไปจูบ

     

     

     

     

    เขาเคยบอกยอนจุนไปตอนครั้งแรกที่เจอกันว่า ตัวเขาเป็นคนไม่ได้มี kink อะไรเป็นพิเศษ ตลอดมาก็มีเซ็กซ์แบบเรียบง่าย แต่ดูเหมือนว่ายอนจุนจะมองออกตั้งแต่แรกถึงได้มีท่าทีแบบนั้น

    หลังจากเจอยอนจุน บอมกยูจึงได้รู้ตัวว่า เขาชอบคอของยอนจุนมาก

    ไม่ได้ชอบทำอะไรรุนแรง แต่แค่...เวลาเห็นยอนจุนใส่อะไรที่คอแล้วมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกว่าปกติ

    ยอนจุนหัวเราะเมื่อเขากดจูบลงที่คอของอีกฝ่ายซึ่งมีผ้าสีดำพันไว้รอบ ๆ อีกฝ่ายลูบหลังศีรษะเขาไปมาเหมือนปลอบเด็กน้อยขณะพึมพำข้างใบหู

    “เหมือนเคยบอกไปหรือเปล่านะว่าจะเจอ kink ของตัวเอง”

    “ก็เพราะพี่นั่นแหละ”

    คนฟังหัวเราะเบา ๆ “ฉันรู้น่า”

    การใช้เงินกับชเวยอนจุนเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสิ่งหนึ่งเท่าที่บอมกยูเคยใช้มา ยอนจุนเป็นประเภทที่ให้ทำอะไรก็ทำถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง และบอมกยูก็ไม่เคยบังคับอะไรอีกฝ่ายมากไปกว่าขอให้ใส่นู่นใส่นี่ให้ดูหน่อย เช่น ปลอกคอ หูแมว--

    ใช่ สารภาพก็ได้ ตอนแรกเขาไม่เคยคิดอะไรแบบนี้หรอก แต่หลังจากได้อยู่กับยอนจุนบ่อย ๆ ก็รู้สึกอยากให้อีกฝ่ายลองอะไรหลาย ๆ อย่างตอนอยู่กับเขา

    แล้วมันก็ดีมาก...

    “ผมไม่ได้ดูโรคจิตใช่ไหม ที่ให้พี่ทำอะไรแบบนี้”

    ชเวบอมกยูเอ่ยถามขึ้นมา ขณะที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง หลังพิงหมอน และมีชเวยอนจุนนั่งคร่อมเขาอยู่อีกที อีกฝ่ายเลิกคิ้วกับคำพูดนั้น ยกมือขึ้นจับสิ่งที่คาดศีรษะอยู่ก่อนจะยิ้มขำ

    ขำตลอดแหละ เขาตลกอะไรนักหนาก็ไม่รู้ อยู่ด้วยกันทีไรพี่เขาขำตลอด

    “นี่น่ะเหรอ” หูแมวบนศีรษะของยอนจุนดึงดูดสายตาเขาเหลือเกิน “ไม่หรอก ใคร ๆ ก็มีความชอบของตัวเองทั้งนั้น อีกอย่างพี่ก็เต็มใจ ไม่ได้ว่าอะไรนี่”

    ไม่ว่าเปล่า สะโพกยังขยับไปมาราวกับจะออดอ้อนแถมมือยังไล้กรอบหน้าเขาเบา ๆ อย่างเอาใจอีกต่างหาก

    บอมกยูพรูลมหายใจ

    ก็แสนดีเสียขนาดนี้

    แต่ก็ขีดเส้นชัดมากเหมือนกันว่าจะไม่เป็นอะไรมากกว่าคู่นอน

     

     

     

     

    ชเวยอนจุนนอนเหม่อมองเพดานอยู่ข้างเขา ขณะที่บอมกยูนอนตะแคงมองเสี้ยวหน้าด้านข้างอีกฝ่ายอย่างหลงใหล ยอนจุนเป็นคนจมูกสวยมาก ริมฝีปากอิ่มชัด บอมกยูชอบที่อีกฝ่ายไม่ค่อยหวงเรื่องสัมผัสใบหน้า เขาได้ยินมาว่าบางคนไม่ชอบจูบเพราะรู้สึกจะผูกพันกันเกินไป แต่ยอนจุนไม่เคยมีปัญหาแบบนั้นเลย

    เพราะขีดเส้นไว้ตั้งแต่แรกว่าจะไม่อะไรเกินเลยไปกว่านั้น

    ยื่นมือไปสัมผัสปลายจมูกนั้นเบา ๆ อีกฝ่ายย่นหน้า หดคอถอยหนีเหมือนแมว บอมกยูหลุดขำ

    “ปกติถ้าพี่เป็นคนทำก็จะมีอาฟเตอร์แคร์ใช่ไหม”

    ยอนจุนพยักหน้ารับ “ไม่ชอบทิ้งคู่นอนน่ะ”

    “แล้วผมอะ”

    คนฟังเหลือบตามามองเขา “ฉันควรจะเป็นคนพูดประโยคนั้นหรือเปล่า”

    บอมกยูหัวเราะ

    “ทำอีกรอบได้ไหม”

    “…เที่ยงคืนแล้วนะ”

    “แป๊บเดียวน่า” บอมกยูผุดลุกขึ้นนั่ง เปลี่ยนมาคร่อมคนที่นอนอยู่ “สัญญาว่าจะไม่นานแล้วก็ไม่ทำให้พี่เลอะเทอะด้วย”

    พูดจบก็กดจูบปลายจมูกนั้น

    บอมกยูชอบทุกครั้งที่ได้สัมผัสร่างของชายหนุ่มตรงหน้า ยอนจุนเป็นคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายและเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ รูปร่างผอมบางแต่แข็งแรงมากพอที่จะกระโดดโลดเต้นบนเวทีและร้องเพลงไปพร้อมกันได้โดยที่เสียงไม่ตก เขาชอบเสียงอีกฝ่าย และชอบเป็นพิเศษยามที่ลำคอเรียวนั้นเปล่งชื่อเขาออกมาผะแผ่วทุกครั้งที่เขาทำให้อีกฝ่ายหวามไหว บอมกยูชอบยามที่กล้ามเนื้อเหล่านั้นเกร็งจนเห็นชัดยามที่เขาขยับกาย ชอบที่ใบหน้าชวนมองขึ้นสีแดงก่ำและมีน้ำตาคลอหน่วงน้อย ๆ เมื่อเขาเน้นย้ำสัมผัส บอมกยูชอบทุกอย่างของยอนจุนมากเหลือเกิน

    แต่ทั้งที่ชอบมากขนาดนั้น

    เขาก็ไม่เคยก้าวผ่านเส้นที่ชเวยอนจุนขีดไว้ได้เลย

    และคิดว่าคงไม่มีใครทำได้หรอก

    ทุกอย่างเสร็จเร็วอย่างที่บอมกยูบอก ชายหนุ่มจัดการถุงยางลงถังขยะแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างอีกคนอีกครั้ง ยอนจุนหันมามองหน้าเขาก่อนจะยิ้มบาง

    “ตัดใจแล้วเหรอ”

    “…รู้ด้วยเหรอครับ”

    “ก็ดูออกนะ” นิ้วเรียวเลื่อนมาแตะหางตาเขา “สายตาน่ะ”

    บอมกยูเลื่อนมือไปแตะหางตาอีกฝ่ายบ้าง รอยแผลเป็นเล็ก ๆ ตรงข้างตาขวาอีกฝ่ายทำให้เขาอดลูบเบา ๆ ไม่ได้

    “มันเริ่มมาแบบที่ไม่น่าจะสานต่อได้นี่นา ก็คิดว่าคงสถานะแบบนี้ไว้ต่อไปดีกว่า ผมไม่คิดจะก้าวข้ามไปหรอก”

    “ดีแล้ว” คนอายุมากกว่าพึมพำ “สำหรับฉัน นายก็เหมือนน้องชายคนหนึ่ง”

    “น้องที่ไหนเอาพี่ตัวเองอะ”

    ยอนจุนยื่นมือหยิกหูเขา “ดูทำพูด”

    “เป็นเพื่อนแหละ” บอมกยูว่า มือเลื่อนไปหยิกแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ “ผมว่าเป็นเพื่อนนั่นแหละ ดีที่สุดแล้ว”

    “เพื่อนเอากันได้?”

    “ก็ดีกว่าพี่น้องแน่ ๆ”

    ยอนจุนแกล้งเบะปากใส่เขา

    “งั้นพักหน่อยไหม คราวหน้าเจอกันแบบ กินข้าวเฉย ๆ”

    “ชวนผมเดตเหรอ”

    “ไม่ชวนแล้วงั้น”

    “ล้อเล่น ๆๆๆ” บอมกยูรีบคว้ามืออีกคนไว้ “ได้ ๆ คุยกันแบบเพื่อนทั่ว ๆ ไปนะ”

    “อืม” ยอนจุนยิ้มให้เขา “ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับนายนะ บอมกยู”

    ถึงจะไม่ได้ดีใจขนาดนั้นก็เถอะ

    บอมกยูยิ้มตอบอีกคน

    “เช่นกันครับ”

    แต่อย่างน้อยมียอนจุนอยู่ในชีวิตต่อไปก็ยังดีกว่าแหละนะ

     

    FIN

     


     

    220526

    ไม่รุจาพูดอะไร 555555555555555 แต่ที่เคยบอกว่า ชิปทุกคู่ ทุกโพ คือไม่ได้โกหกค่า ?

    ชอบกดหัวใจหรือคอมเมนต์กันได้นะคับ ขอบคุณล่วงหน้าค่า

     

    ป.ล. ไปสำรวจตลาดมา มีแต่คนเขียนบอมจุนแบบบอมเป็นหมา แล้วฉันก็ร่วมลงตลาดนี้ด้วยเช่นกัน ก็บอมมานเปนหมา แง้ อยาก pat pat หัว

    #wirunfic

     

    เชิงอรรถ

     

    1. ^ ที่มา: https://www.bbc.com/thai/international-44140482

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in