เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ReviewPumpui
Minimalism (มินิมอลิซึม): สารคดีค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต
  • ชีวิตของคนเราเปรียบเสมือนขั้นบันไดที่ไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อก้าวขึ้นไปถึงขั้นหนึ่งแล้ว เราก็ต้องการที่จะก้าวขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ โดยหวังว่าวันหนึ่งเมื่อเราถึงจุดยอดสุดของบันไดเราจะไม่ต้องการสิ่งใด ๆ อีกต่อไป ความว่างเปล่าในจิตใจของเราและการโหยหาความสุขที่มาเติมเต็มความว่างเปล่านั้นจะมะลายหายไปในทันที ดังนั้นเราจึงต้องพยายามฝักใฝ่เรียนให้ได้เกรดสูงๆ ทำงานที่มีเงินเดือนดี ซื้อของมีราคาและตามกระแส ใช้ชีวิตอยู่ในวงเวียนนี้ เพื่อหวังว่าวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีความสุขได้

    อย่างไรก็ตาม เหตุใดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราจึงรู้สึกเคว้งคว้าง ว่างเปล่าและไร้ความหมาย ถึงแม้เราจะอยู่บนขั้นบันไดที่สูงกว่าตอนที่เราเริ่มต้นและอาจอยู่สูงกว่าใคร ๆ ก็ตาม

    สารคดี Minimalism: A Documentary About the Important Things ของ Netflix พยายามตอบคำถามเหล่านี้ให้แก่ผู้คนในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่ต้องเผชิญกับโฆษณาและสิ่งยั่วยวนใจในทุกย่างก้าวของชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เข้ามากำหนดแบบแผนชีวิตของเราว่าความสำเร็จของชีวิตควรจะเป็นในรูปแบบใดไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินเดือนเยอะ ๆ การซื้อของตามแฟชั่นและมีราคาเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าเรามีความสำเร็จมากเพียงใดโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าเราใช้ชีวิตอยู่เพื่อเงิน และสิ่งของอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเสื้อผ้ามากมายที่เราซื้อมา กองเต็มเกลื่อนในตู้เสื้อผ้า แต่เราก็ต้องการซื้อเพิ่มอีกทั้งที่ไม่จำเป็นเครื่องสำอางจำนวนมากที่กระจายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ทั้งที่มีหลายชิ้นที่เราไม่จำเป็นต้องใช้และบ้านหลังใหญ่ ๆ ที่เราต้องซื้อมาให้ได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเราใช้พื้นที่เพียง 40% ของบ้านเราเท่านั้นแต่เราก็พยายามขวานขวายสิ่งเหล่านี้ ทั้งที่มันมอบเพียงแค่ความสุขจอมปลอมให้แก่เรา

    แล้วความสุขที่แท้จริงคืออะไร? 

    คำตอบที่สารคดีชิ้นนี้มอบให้แก่เราคือ Minimalism ซึ่งสารคดีชิ้นนี้ได้ขยายความว่า มินิมอลิซึม คือการใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่สำคัญและมีความหมายกับเราอย่างแท้จริงไม่ใช่เพียงเพราะสังคมเป็นผู้ชี้บอกเรา เป็นการสร้างเสรีภาพในการเลือกให้กับชีวิต และพึ่งพาสิ่งของรอบกายที่เป็นเพียงวัตถุให้น้อยลงแต่ให้คุณค่าทางจิตใจ และความหมายมากกว่าซึ่งเป็นความคิดที่ตรงกับวลีที่เราคุ้นหูกันคือ Less is more โดยมินิมอลิซึมในสารคดีชิ้นนี้มุ่งให้ความสนใจกับความสุขทางจิตใจมากกว่าสิ่งของรอบกายซึ่งรวมถึงการออกจากงานที่ไร้ความหมาย การมีเวลาให้แก่คนรอบข้างมากขึ้น และการทำลายขั้นบันไดที่สังคมหวังจากตัวเรา

    จากความคิดดังกล่าวจะเห็นได้ว่า มินิมอลิซึม มีความใกล้เคียงกับความคิดในทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก โดยพระพุทธศาสนาได้แบ่งความสุขออกเป็นสองประเภท คือ ความสุขที่แท้จริงและความสุขจอมปลอม ความสุขที่แท้จริงคือ ความผาสุก (Well-being) ในระดับจิตใจของตัวปัจเจกบุคคล ที่จะเกิดขึ้นได้หากมีปัจจัยสี่ในชีวิตที่ครบครันหลังจากนั้นแล้วความสุขของมนุษย์จะอยู่ที่การบำเพ็ญเพียรจิตใจ ดูแลทุกข์สุขของจิตใจและคำนึงถึงความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงความผาสุกของปัจเจกกับความผาสุกของผู้คนรอบข้าง สัตว์ และธรรมชาติ ดังจะเห็นได้ว่าหากดิน น้ำสะอาดระบบนิเวศน์ดี ผู้คนมีความกินดีอยู่ดี เราก็จะมีความผาสุกไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับความคิดของมินิมอลลิซึมที่ให้คุณค่ากับการพัฒนาของจิตใจ ใช้ชีวิตกับคนรอบข้างและให้คุณค่ากับสิ่งรอบกายให้มากขึ้นบริโภคแต่พอดี คำนึงถึงแต่สิ่งที่จำเป็น ทำให้สามารถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ ในขณะที่ความสุขจอมปลอมในทางพระพุทธศาสนาคือ ความปรารถนา(Desire) ทางด้านวัตถุทรัพย์สินเงินทอง และสิ่งของรอบกาย ที่ตรงกับความคิดที่ว่า More is more ที่ไม่อาจนำมาซึ่งความสุขและความหมายที่แท้จริงของชีวิตได้แต่กลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และชีวิตที่ไร้ความหมาย การแก่งแย่งชิงดีการบริโภคที่เกินพอดีทำให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย และผู้คนเอาเปรียบกันดังนั้นหากมองในแง่นี้แล้ว มินิมอลิซึม ไม่ใช่เพียงแค่การหาความสุขใส่ตัวเองแต่ยังคำนึงถึงความผาสุก และความกินดีอยู่ดีของสรรพสิ่งรอบกายที่จะเข้ามาส่งเสริมยกระดับจิตใจของตัวเราด้วย

    อย่างไรก็ตามถ้าหากพิจารณาสังคมในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามินิมอลิซึมถูกทำให้กลายเป็นกระแสแฟชั่นอย่างหนึ่ง มากกว่าการเข้าใจถึงความคิดนี้อย่างแท้จริงเสื้อผ้าต่าง ๆ ถูกทำให้อยู่ในกระแสนี้ ไม่ว่าจะเป็นโทนสี รูปแบบการแต่งกายหรือการสร้าง และการจัดแต่งบ้านเพียงเพื่อต้องการตามกระแสนี้เท่านั้น ทำให้ในท้ายที่สุดแล้วชีวิตของเราก็ต้องวนอยู่ในวัฏจักรดังเดิม ทำงานที่ไร้ความหมาย และบริโภคสินค้าที่ไม่จำเป็นเราจะยังคงใช้ชีวิตอยู่เพื่อเงิน และสิ่งของ โดยนำเงินที่หามาได้นั้นมาซื้อของที่ ดูเหมือน” มินิมอลิซึม โดยปราศจากการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของความคิดนี้ ทำให้แทนที่มินิมอลิซึม จะเป็นพลังที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงสังคมบริโภคนิยมอย่างรุนแรง แต่กลับถูกกระแสบริโภคนิยมกลืนกินและถูกทำให้กลายเป็นความคิดที่สามารถหาผลกำไรได้

    ดังนั้นแล้วสารคดี Minimalism: A Documentary About the Important Things ของ Netflix จึงเป็นสารคดีที่ควรค่าแก่การดูสำหรับยุคสมัยปัจจุบันที่ผู้คนกำลังไต่บันไดที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพียงเพื่อค้นหาความสุขจอมปลอมเท่านั้นโดยมินิมอลิซึมจะเป็นทางออกเพื่อหาความสุข และความหมายที่แท้จริงของชีวิตไม่มากก็น้อยถ้าหากเราตระหนักถึงความหมายและความสำคัญที่แท้จริงของความคิดนี้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in