พวกเขาเข้าเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนอาโอบะโจไซ
วันแรกที่ได้สวมชุดนักเรียนมัธยมปลาย โออิคาวะ โทรุมายืนรอเขาตรงหน้าบ้าน ยิ้มแฉ่ง ชูสองนิ้ว มืออีกข้างจับจีบกระโปรง ถามเสียงใส “คุณโออิคาวะน่ารักใช่ไหมล่ะ!”
ถ้าไม่ติดว่าจะโดนมารดาดุเรื่องทำตัวเสียมารยาท อิวะอิสึมิ ฮาจิเมะคงปิดประตูบ้านดังปังแทนคำตอบไปแล้ว
แต่เพราะยังเกรงใจบุพการีอยู่ เขาจึงแค่ตีหน้ายุ่ง ก้าวออกนอกบ้าน แล้วปิดประตูเบาๆ “อะไรของเธอ”
“ชุดนักเรียนใหม่ไง! น่ารักออก นี่ฉันอุตส่าห์รีบมาให้อิวะจังดูก่อนใครเลยนะ” โออิคาวะว่า ก่อนจะหมุนตัวหนึ่งรอบถ้วนเป็นการโชว์
เขาขยี้ผมเธอเข้าให้หนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ ทำกลุ่มผมสีน้ำตาลที่รวบตึงกลางศีรษะเป็นทรงสวยยุ่งเหยิง เรียกเสียงร้องโอดโอยจากเด็กสาว
“อิวะจัง! อย่าทำแบบนั้นซี่ ผมยุ่งหมด” เธอปัดมือเขาวุ่นวาย สองข้างแก้มพองออกด้วยความไม่พอใจ
“เธอก็ไม่ต้องไปเที่ยวหมุนตัวให้ใครดูเลย กระโปรงก็สั้น”
“เอ๋ อิวะจังหึงเหรอ”
ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงวาบ ลามไปจนถึงใบหู “หึงเหิงอะไร! มันดูไม่ดีต่างหาก!”
“จ้า จ้า คุณพ่อ” เธอว่า ก่อนจะหมุนตัวเดินนำหน้า และเรียกให้เขาเดินตามไปโรงเรียนก่อนจะสายตั้งแต่วันเปิดเทอมแรก
อิวะอิสึมิเดินตามหลังเธอไป หัวคิ้วขมวดมุ่น ฟังเจ้าตัวดีชวนคุยเจื้อยแจ้วเสียงใส โดยไม่สนใจสักนิดว่าเขาจะตอบหรือไม่
เขามองด้านหลังของเธอ ไล่จากหัวจรดเท้า ผมของโออิคาวะยาวขึ้นมากในช่วงหลายปีมานี้ ปัจจุบันยาวไปจนถึงกลางหลังแล้ว เด็กสาวยังสูงพอกันกับเขา แต่ก็เริ่มมีระยะห่างเพิ่มขึ้นทีละน้อย
อิวะอิสึมิถอนหายใจ
ถ้าเธอไม่เซ้าซี้ถามแถมหลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง เขาก็คงยอมรับดีๆ หรอกว่าเธอน่ะเหมาะกับชุดนั่นดีจริงๆ
โออิคาวะ โทรุมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง
ไม่รู้ว่ารสนิยมของพวกเด็กผู้หญิงเป็นยังไง เจ้าเพื่อนสมัยเด็กจอมเอาแต่ใจของอิวะอิสึมิจึงได้มีภาพลักษณ์เป็นเหมือนพี่สาวสุดเท่ห์ในสายตาของพวกหล่อน
จริงอยู่ว่าเธอเป็นคนสวย สูง และเก่ง ยิ่งเวลาที่เล่นวอลเล่ย์บอลจะเปล่งประกายเป็นพิเศษ มีออร่านักกีฬาอาชีพแผ่กระจายทั่วสนาม นับเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง
แต่โออิคาวะก็ยังเป็นแค่เด็กสาวเจ้าอารมณ์ในความคิดของเขาอยู่ดี
บางทีก็นึกสงสัยว่าเธอสำเร็จวิชาล้างสมองมาหรือเปล่า จึงบงการคนทั้งในและนอกทีมได้ชำนาญเหลือเกิน
รู้อยู่หรอกว่าที่คิดน่ะไร้สาระ แต่อดไม่ได้จริงๆ
เธอยังคงมุ่งมั่นจริงจังกับการเล่นวอลเล่ย์บอล จึงสมัครเข้าชมรมทันทีที่ขึ้นชั้นมัธยมปลาย ส่วนอิวะอิสึมิเองก็ยังเล่นต่อเช่นกัน แต่เขาตั้งใจแต่แรกแล้วว่าคงจะเล่นจนจบชั้นมัธยมปลายเท่านั้น เมื่อจบการศึกษาไปแล้วก็คงไม่ได้เล่นเป็นอาชีพจริงจังอีก
เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปลายปีสาม โออิคาวะก็ได้ตำแหน่งกัปตันทีมวอลเล่ย์บอลหญิงไปครองอย่างไร้ซึ่งข้อกังขา ส่วนเขาได้เป็นรองกัปตีนทีมวอลเล่ย์บอลชาย... ทั้งที่ใจบอกว่าไม่ได้จริงจัง แต่รู้อีกทีก็ได้ตำแหน่งมาเสียแล้ว
“เพราะอิวะจังหน้าดุ คุมคนอื่นอยู่หมัด ถึงได้ตำแหน่งมาน่ะสิ” คือคำวิจารณ์ที่โออิคาวะมอบให้เขาเมื่อบอกข่าวแก่สาวเจ้า
อิวะอิสึมิเลยขยี้ผมหล่อนเข้าให้ทีเป็นการเอาคืน
พอได้ตำแหน่งใหญ่โต ผนวกกับความเป็นรุ่นพี่ ก็ดูเหมือนจะมีเสียงซุบซิบดังตามหลังมากขึ้นทุกวัน
พอหันไปตามที่มา ก็จะเจอสาวน้อยนางสองนางแอบมองเขา ใบหน้าขึ้นสีเรื่อเมื่อสบสายตา ก่อนที่พวกเธอจะรีบจากไป
ใช่ อิวะอิสึมิเองก็มีกลุ่มนักเรียนหญิงที่ชื่นชอบเขาอยู่พอตัวเช่นกัน
ตอนแรกก็ไม่รู้เรื่อง กระทั่งกัปตันทีมชี้ชวนให้หัดสังเกตรอบตัวบ้างนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่ามีอยู่
แม้จะไม่เอิกเกริกก็ตาม
ถ้าเทียบกับกัปตันทีม หรือนักกีฬาชายประเภทอื่นๆ ก็นับว่าเป็นกลุ่มเล็กมาก
...และยิ่งถ้าเทียบกับโออิคาวะ ยิ่งดูเล็กลงไปถนัดตา
เธอมักมีกลุ่มเด็กหญิงเดินเข้าหาเช้าเย็น ตอนซ้อมก็มีคนคอยเฝ้าดู โออิคาวะก็ดูไม่ได้มีท่าทีรำคาญพวกหล่อนนัก ซ้ำยังดูจะชอบใจเสียด้วยซ้ำ
ก็ชอบให้มีคนสนอกสนใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นะ“โลกนี้มันวิปริตไปแล้วหรือไง” ฮานามากิ ทาคาฮิโระ เพื่อนร่วมทีมของเขาบ่นขรม เมื่อเดินผ่านโรงฝึกของทีมวอลเล่ย์บอลหญิง และได้ยินเสียงกรี๊ดดังออกมา
“หา อะไรวิปริต” เขาถาม ใช้เสียงดังเล็กน้อยเพื่อแข่งกับเสียง
กรี๊ดดดดดดดดด แหลมยาวที่ดังต่อเนื่อง
“ก็ดูสิ พวกเด็กผู้หญิงไปกรี๊ดควีนกันหมด แล้วพวกเราล่ะ” เพื่อนตาตี่ชี้ตัวเองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้า “พวกเราแพ้เด็กผู้หญิงงั้นเหรอ”
“ก็ตอนนี้เราไม่ได้ซ้อมไม่ใช่หรือไง เขาจะไม่มาตามกรี๊ดก็ไม่เห็นแปลก”
“ถึงงั้นก็เหอะ!” ฮานามากิฮึดฮัด “กัปตันยังมีเด็กผู้หญิงเดินตามต้อยๆ นายเองเป็นถึงรองกัปตันแต่ไม่เห็นมีใครมากรี๊ด ไม่น้อยใจบ้างหรือไง”
“แล้วจะน้อยใจไปทำไม”
“เอ้า! ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายไง”
ไร้สาระ อิวะอิสึมิส่ายศีรษะแล้วตบหัวเพื่อนเข้าให้ทีหนึ่ง เปลี่ยนเรื่องคุยเสร็จสรรพ แล้วเดินผ่านหน้าโรงยิมไป
คิดว่าพ้นสายตาโออิคาวะแน่แล้ว แต่เธอกลับสังเกตเห็นเข้าจนได้ เสียงตะโกนข้ามฟากโรงยิมจึงถูกส่งมาถึงเขาจนได้
“อิวะจัง! ตั้งใจซ้อม อย่าอู้น้า!!”
นั่นมันควรจะเป็นคำพูดของเขามากกว่าไม่ใช่หรือไง
สำหรับอิวะอิสึมิ ฮาจิเมะ เสียงกรีดร้องของบรรดาเด็กผู้หญิงไม่ใช่สิ่งที่น่าพิศมัยสำหรับเขานัก
...แค่มีเสียงของเธอคอยเรียกเขาอยู่แบบนี้ แค่คนเดียวก็พอแล้ว
—...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in