เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fanfiction HaiKyuu!!หมูยิ้มยาก DaiyMizNight
เหงา [HQ!! อุชิสึกกี้]
  • เหงา

    Pair : Ushijima x Tsukishima

    By : หมูยิ้มยาก (DaiyMizNight)

    Warning : ต่อจาก ฝนพรำ Sprinkle จ้ะ
    (มันก็ต่อกันเรื่อย ๆ นี่แหละ)
    เนื้อหาค่อนข้างมโนเอาแล้วนะจ้ะ

    สารบัญตั้งแต่ตอนแรก >>>> อุชิสึกกี้

    Spoil ss3 นิสนึงจ้ะ 
    (นิดจริง ๆ แบบแทบไม่อิงเลยด้วยซ้ำ ฮา)






















    เหงา






















    หลังจากที่ทั้งสองได้เดินเที่ยวดูหนังกินข้าวกันเรียบร้อยตอนนี้ก็ถึงเวลาจากลา สึกิชิมะกล่าวอำลาเสร็จสรรพและก้าวเท้าเดินออกมาหมายจะมุ่งกลับบ้าน แต่อุชิจิมะไม่รู้ว่าเพราะตนเองยังอยากอยู่กับคนตรงหน้าให้นานขึ้นอีกหรืออะไรกันแน่ถึงได้เอ่ยชวนแบบนั้นไป


    "ให้ฉันไปส่งไหม" สึกิชิมะหยุดเดิน


    "ครับ?" สึกิชิมะอยู่ห่างไปหน่อยคงจะไม่ได้ยินจึงเอ่ยเชิงถามออกไป


    "ฉันถามว่าให้ไปส่งไหม" อุชิจิมะถามอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปใกล้


    "เอ่อ.." สึกิชิมะครุ่นคิดอยู่พอสมควรเหมือนจะลังเลว่าจะเอายังไงดี นั่นยิ่งทำให้อุชิจิมะรู้สึกเหมือนทำไม่ดีต่ออีกฝ่ายที่ทำให้ต้องลำบากใจ อุชิจิมะไม่ต้องการ


    "ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร กลับดี ๆ ล่ะ สึกิชิมะ เคย์" อุชิจิมะยิ้มบางให้ก่อนจะออกเดินไปยังรถของตนเอง


    "คือว่า!" จังหวะนั้นเองสึกิชิมะก็ส่งเสียงพูดขึ้น ทำให้อุชิจิมะต้องเหลียวหลังไปมอง


    "..ขอรบกวนด้วยครับ"


    "..ถ้างั้นก็ตามมาเลย" อุชิจิมะรู้สึกได้เลยว่าตนเองดีใจและอารมณ์ดีขนาดไหน แค่สึกิชิมะตกลงให้เขาไปส่งแต่เขาก็หุบยิ้มไม่ลงแล้ว ถึงมันจะดูเหมือนไม่ยิ้มสำหรับคนอื่นก็เถอะ เพราะอุชิจิมะเป็นคนยิ้มยากและน้อยคนที่จะดูออกว่าเขายิ้ม

    ที่แน่ ๆ มีอยู่คนหนึ่งที่ดูออกได้อย่างง่ายดายว่าเขายิ้มอยู่ คนที่กำลังเดินเคียงข้างเขาตอนนี้ยังไงล่ะ

    ทั้งสองเดินมาถึงรถของอุชิจิมะซึ่งจอดอยู่ที่จอดรถของจักรยานยนต์ อุชิจิมะเดินมาหยุดที่รถสปอร์ตไบก์สีดำล้วนโดยที่เบาะเป็นสีเลือดหมู ขนาดรถที่ดูเป็นรถคันใหญ่นั้นดูเข้าทีกับรูปร่างสูงใหญ่สมส่วนของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดี


    "เป็นมอเตอร์ไซด์เหรอครับ" สึกิชิมะเลิกคิ้วแปลกใจ


    "สปอร์ตไบก์น่ะ ไม่ชอบเหรอ" อุชิจิมะหันไปถามแล้วล้วงหยิบกุญแจรถออกมา


    "เปล่าครับ แค่นึกว่าจะเป็นรถยนต์เพราะพูดแค่ว่ามีรถ"


    "ฉันคงพูดไม่ชัดเจนเองสินะ ต้องขอโทษด้วย"


    "ไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอโทษสักหน่อยครับ" สึกิชิมะยกมือปัดไปมาเชิงบอกว่าไม่เป็นไร


    "ว่าแต่ซ้อนได้สินะครับ มีหมวกกันน็อกไหมครับ" อุชิจิมะสอดกุญแจปลดล็อกเบาะนั่งแล้วยกเบาะขึ้นเพื่อหยิบหมวกกันน็อกอีกใบและเสื้อแจ็กเก็ตให้สึกิชิมะ


    "เสื้อ ? นี่น่าจะใช้สำหรับคนขับมากกว่านะครับ" สึกิชิมะยื่นมันคืนให้กับอุชิจิมะ แต่เขาส่ายหน้า


    "ไม่ล่ะ ตอนขี่รถลมมันแรงนายใส่กันลมเถอะ ฉันชินแล้ว ไม่เป็นไร"


    "งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากครับคุณอุชิจิมะ"


    "อื้ม" สึกิชิมะวางหมวกลงที่เบาะแล้วใส่เสื้อแจ็กเก็ต จากนั้นทั้งสองก็จัดแจงสวมหมวกกันน็อก สึกิชิมะล็อกหมวกไม่เป็นอุชิจิมะจึงช่วยล็อกให้


    "ขอบคุณครับ" สึกิชิมะมองท่าทางที่ดูชำนาญในการใช้รถจักรยานยนต์คันนี้ของอุชิจิมะอย่างลืมตัว 

    เท่จังเลย

    จนเผลอใจลอยไม่ได้ยินเสียงเรียก


    "สึกิชิมะ เคย์"


    "ฮะ..ครับ!" เหมือนจะหลุดจากภวังแล้ว


    "พร้อมแล้ว ขึ้นมาซ้อนได้เลย"


    "ครับ" 


    เมื่อขึ้นไปซ้อนสึกิชิมะก็บอกเส้นทางไปที่บ้าน อุชิจิมะรู้สึกคุ้น ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนจะบิดกุญแจสตาร์ตรถและออกแรงบิดจนรถทะยานเข้าสู่ถนน 

    เพราะด้วยแรงของรถที่ค่อนข้างมากจึงทำให้สึกิชิมะต้องโน้มตัวเข้าไปกอดที่เอวของอุชิจิมะอย่างเสียไม่ได้ ด้วยท่าที่ต้องโน้มตัวเข้าไปกอดจึงทำให้ตัวเขานั้นชิดกับแผ่นหลังของอีกฝ่ายจนได้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อลอยมาอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นหอมสดชื่นจาง ๆ ที่น่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของอุชิจิมะ ถึงสึกิชิมะจะรู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกสงบใจและทำให้อกด้านซ้ายเต้นผิดจังหวะ แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็รู้สึกดีที่ได้กอดคนตรงหน้าอยู่เหมือนกัน

    ใช้เวลาไม่นานสปอร์ตไบก์คันหรูก็มาจอดที่ด้านหน้าบ้านของสึกิชิมะอย่างนิ่มนวล สึกิชิมะถอดหมวกยื่นให้อุชิจิมะแล้วจึงถอดเสื้อแจ็กเก็ตส่งให้คืน


    "ขอบคุณที่มาส่งนะครับ" สึกิชิมะโค้งให้น้อย ๆ


    "ไม่เป็นไร นี่บ้านนายเหรอ สวยจังนะ" อุชิจิมะเปิดกระจกกันลมขึ้นมองบ้านของคนตรงหน้า


    "ครับ เข้ามาดื่มน้ำชาข้างในก่อนไหมครับ"


    "ขอโทษที่ต้องปฏิเสธเพราะต้องรีบกลับแล้วล่ะ แต่ถ้าครั้งหน้าไม่ปฏิเสธแน่" สึกิชิมะเห็นแค่ตาสองข้างจากหมวกกันน็อกที่ตอนนี้ทำตาหยี

    ยิ้มอยู่ด้วย หรือเปล่านะ ? 

    เขาจึงยิ้มตอบให้


    "ขี่กลับดี ๆ นะครับ"


    "ขอบใจนะ ไว้เจอกันใหม่" อุชิจิมะจับกระจกกันลมของหมวกลงแล้วยกขาตั้งขึ้นสตาร์ตรถอีกครั้ง


    ขณะที่อุชิจิมะกำลังจัดแจงรถให้เข้าที่แล้วมองถนนว่ามีรถหรือเปล่า สึกิชิมะก็พูดขึ้น


    "ไว้ไลน์มาบอกทีนะครับถ้าถึงแล้ว" ปากไปไวกว่าความคิด รู้สึกตัวอีกทีสึกิชิมะก็พูดออกไปโดยที่ไม่ทันจะได้คิดเสียแล้วปากนี่มักจะไวกว่าความคิดอยู่แล้ว


    "แน่นอน"


    "บ๊ายบายครับ" สึกิชิมะโบกมือลา


    "บ๊ายบาย"


    แล้วสปอร์ตไบก์สีดำก็ทะยานออกจากหน้าบ้านไปและไม่นานก็ไกลจนลับสายตา

    สึกิชิมะมองไม่เห็นรถแล้วจึงเดินกลับเข้าบ้านไป ทักทายแม่และพูดคุยนิดหน่อยจากนั้นขอตัวไปอาบน้ำและแน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะถอดกำไลข้อมือที่พึ่งได้มาออกก่อนจะอาบน้ำ สึกิชิมะเป็นคนใช้เวลาอาบน้ำไม่ได้นานอะไรแต่วันนี้กลับรู้สึกว่าใช้เวลานานกว่าปกติ ไม่ใช่เพราะขัดสีฉวีวรรณแต่เป็นเพราะเหม่อลอยคอยคิดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นวันนี้มากกว่า 

    คิดไปเรื่อย ๆ ก็มาถึงตอนที่อุชิจิมะเข้ามาบังเขาจากน้ำที่สาดเข้ามาเพราะรถคันนั้น ตอนนั้นมันกะทันหันมากจนสึกิชิมะไม่ทันคิดอะไรนอกจากตกใจและคนตรงหน้าเปียกน้ำอะไรหรือเปล่า 

    จู่ ๆ สึกิชิมะก็รู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้นหน่อย ๆ ตอนที่สึกิชิมะคิดย้อนถึง  ตอนนั้นพวกเขาก็ตัวใกล้ชิดกันมากเลย

    ชอบช่วงเวลาตอนนั้นเหมือนกันนะ

    สึกิชิมะคิดว่าใช้เวลานานเกินไปแล้วจึงลุกออกจากอ่างน้ำ เช็ดตัว ใส่เสื้อผ้า หยิบกำไลผ้าที่เหลืองนวลขึ้นมาสวมและคว้าผ้าเช็ดผมมาเช็ดผมปอย ๆ เดินขึ้นห้องนอนไปแล้วนั่งลงที่เตียงพลางเช็ดผมไปด้วย



    ตึ๊ดึง ~



    เหมือนเป็นเสียงที่เฝ้ารอคอยมาตลอด สึกิชิมะรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูว่าจะใช่ข้อความจากคนที่ตนรออยู่หรือเปล่า


    Ushijimaa : ฉันถึงบ้านแล้ว

    Ushijimaa : นะ


    สึกิชิมะแอบขำน้อย ๆ ให้กับการใช้คำที่ดูเหมือนกับอีกฝ่ายไม่รู้จะใช้คำยังไงดี แบบว่าจะเติมนะต่อท้ายดีไหม คิดว่าไม่ดีกว่าแต่สุดท้ายคิดว่าใส่ดีกว่าทั้ง ๆ ที่กดส่งไปแล้วเลยส่งมาอีกที แค่สึกิชิมะลองคิดก็รู้สึกว่าอีกคนนั้นน่ารักมาก ๆ เลย


    Tsukki.T-rex : ดีแล้วล่ะครับ

    Ushijimaa : กินข้าวหรือยัง


    เมื่ออ่านข้อความสึกิชิมะถึงนึกขึ้นได้ว่าหลังจากกลับบ้านมาเขายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย ถึงตอนปกติจะไม่ค่อยกินอยู่แล้วก็เถอะแต่พอคน ๆ นั้นพูดถึงก็ทำให้รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาหน่อย ๆ อยู่เหมือนกัน


    Tsukki.T-rex : ลืมไปเลยครับ


    สึกิชิมะส่งสติกเกอร์ไดโนเสาร์หัวเราะแห้ง ๆ


    Tsukki.T-rex : งั้นผมขอไปกินข้าวก่อนนะครับ

    Ushijimaa : งั้นเหรอ 

    Ushijimaa : อย่าลืมกินสิ ยิ่งตัวผอมขนาดนั้นด้วย

    Tsukki.T-rex : ครับบ

    Ushijimaa : เป็นนักกีฬาก็ต้องดูแลสุภาพด้วยนะ อีกไม่นานก็จะแข่งแล้วนี่

    Ushijimaa : อย่าทำให้เป็นห่วงนักสิห่วง 


    คุณอุชิจิมะเป็นห่วงเราด้วย


    สึกิชิมะยกมือทั้งสองข้างมากุมหน้าทั้ง ๆ ที่ถือโทรศัพท์อยู่


    นี่คือเขินเหรอ นี่เราเขินใช่มั้ย

    รับมือไม่เคยได้เลยจริง ๆ คน ๆ นี้


    Tsukki.T-rex : ขอโทษนะครับ

    Tsukki.T-rex : แล้วก็ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

    Tsukki.T-rex : แต่นี่ผมก็ยังไม่ได้กินข้าวสักทีเลย

    Ushijimaa : โอ๊ะ ขอโทษที่รั้งไว้


    อุชิจิมะส่งสติกเกอร์ไดโนเสาร์โค้งขอโทษ สึกิชิมะส่งคืนให้เป็นไดโนเสาร์พร้อมข้อความ 'ไม่เป็นไร' แล้วจึงลงไปกินข้าว

    วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ ทั้งสองคนต่างก็ส่งข้อความพูดคุยกันเกือบจะทุกวัน วันไหนคุยน้อยก็จะเป็นเพราะต้องซ้อมวอลเลย์กันทั้งคู่ ผลัดเปลี่ยนกันพูดคุยระบายความเหนื่อยล้าจากการซ้อมที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้เรื่อยมา


    จนวันนี้ 

    วันที่ไม่คิดว่าจะมันเกิดขึ้น


    Ushijimaa : สึกิชิมะ เคย์ ฉันมีเรื่องต้องบอก

    Ushijimaa : หลังจากวันนี้ไปฉันต้องเข้าค่ายฝึกของเยาชนทีมชาติ

    Ushijimaa : ทางโคชมีกฎห้ามใช้โทรศัพท์ นั่นแปลว่าฉันจะต้องหยุดคุยกับนานไประยะหนึ่ง

    Ushijimaa : ฉันขอโทษนะ


    สึกิชิมะพึ่งได้กดเข้าแอปพลิเคชันเพื่อมาอ่านข้อความก็ตอนเช้าของอีกวันที่ข้อความนี้ถูกส่งมาแล้ว หรือก็คือข้อความนี้ถูกส่งมาเมื่อวานนั่นเอง และถ้าหากเป็นอย่างที่อุชิจิมะบอก นับตั้งแต่วันนี้พวกเขาจะถูกตัดขาดจากกันชั่วคราว

    สึกิชิมะเข้าใจ เข้าใจดีเลยว่าอุชิจิมะจะต้องทำตามกฎอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ตัวเขาน่ะสิกลับทำใจให้สงบลงไม่ได้เลย คอยแต่คิดว่ารู้อย่างนี้น่าจะขอเบอร์โทรติดต่อหรืออะไรก็ได้ รู้อย่างนี้ถ่างตามาอ่านข้อความตั้งแต่เมื่อคืนก็ดี


    รู้อย่างนี้...

    ไม่ได้ ตัวเราเองก็จะต้องฝึกซ้อมหนักเหมือน ๆ กับคุณอุชิจิมะ จะมามัวทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี่ไม่ได้


    คิดได้อย่างนั้นสึกิชิมะก็ตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจฝึกซ้อมมาก มากเสียจนทุกคนตกใจว่าเขาไปโดนอะไรกระแทกหัวมาหรืออะไรถึงได้มีแรงฮึดซ้อมได้ขนาดนี้

    เปล่าเลย เรื่องนี้ตัวสึกิชิมะเองก็รู้ดี เพราะเขาต้องการที่ลืม ลืมความเหงานี้ จะได้ไม่ทำให้คุณอุชิจิมะต้องเป็นห่วงหรือลำบาก เขาจะต้องซ้อม ซ้อม และซ้อม ขอแค่ให้ในหัวมีแต่เรื่องวอลเลย์บอลก็พอ

    เรื่องที่สึกิชิมะต้องหยุดการติดต่อกับอุชิจิมะนั้นยามากุจินั้นก็รู้ เพราะไปคาดคั้นเอามาจากเจ้าตัวโดยตรง ยามากุจินึกสงสัยว่าทำไมสึกิชิมะเพื่อนของเขาถึงได้คึกซ้อมเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนคู่บ้าคาเงยามะฮินาตะขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่นิสัยเลยสักนิด พอรู้เหตุผลจากความสงสัยก็แปรเปลี่ยนเป็นความเป็นห่วง


    จะไหวมั้ยนะสึกกี้ โหมซ้อมขนาดนี้


    แล้วยามากุจิก็นึกไอเดียออก จะเป็นเรื่องดีหรือเปล่านี่ก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เชื่อเถอะว่าต้องดีสำหรับสึกิชิมะแน่ ๆ

    สึกิชิมะที่ตอนนี้ดวงตาสีเฮเซลคู่สวยนั้นสะท้อนให้เห็นแต่เพียงลูกวอลเลย์ที่อยู่ตรงหน้าของตนเองเท่านั้น ถึงแม้จะพยายามตั้งใจซ้อมแค่ไหน ความคิดนั้นก็จะแวบเข้ามาในหัวเสียทุกทีไป








    คิดถึง... คุณอุชิจิมะ











    TBC.









    --------------------------------------------------
    สวัสดีค่า ( ´ ▽ ` )ノ❤
    กลับมาพบกันอีกกับอุชิสึกกี้น่อ 
    ตอนนี้มีความพิเศษอย่างคืออะไรรู้มั้ยเอ่ย ไม่ปล่อยให้งงนานก็เฉลยเลยดีกว่า
    จะมีตอนต่อไปแน่นอน !~ เพราะไม่ได้ใส่ TBC ? แต่เป็น TBC. ไงล่าาา (ตัวเอียงซะด้วย)

    อีกอย่างคือเราจะปิดซีรีส์นี้แล้วนะคะ กำลังคิดอยู่ว่าให้จบตอนหน้าหรืออีกสองตอนถึงจบดี ลังเลว่าจะเอาอีกตอนเป็นตอนพิเศษดีมั้ย ฮาาา

    แต่ก็ยังอยากให้ติดตามต่อไปนะคะ ❤

    ( ปล.เรื่องที่หงุดหงิดต่อนี้คือสปีดในการแต่งค่ะ ฮือ มันช้าไม่ทันใจเลย)




    ถ้าอ่านแล้วรู้สึกสนุกสักนิดก็จะดีใจมาก ๆ เลยค่า

    มาพูดคุยกันที่แท็กได้น่อ






    #อุชิสึกกี้

    @Peerada323



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
mollusk_chan (@mollusk_chan)
โอยยยย?? เป็นฟิคที่ดีต่อใจมาากกกค่ะ ช๊อบชอบบบบบ ให้สึกกี้ไปหาอุชิจิมะที่ค่ายฝึกเลยได้มั๊ยยย5555 // จะรออ่านตอนต่อไปนะคะะ >____<
@mollusk_chan ตอนใหม่มาแล้วนะคะ เป็นตอนสุดท้ายด้วยค่าาา <3