" ถ้ามัวแต่กลัว จะสนุกได้อย่างไร ..."
วายุ เอ่ยขึ้นกับ ดารชา หญิงสาวผู้ที่ไม่เคยใช้ชีวิตนอกกรอบ ไม่ต่างกับมนุษย์เงินเดือนคนอื่นๆ มีงานประจำ มีวิถีชีวิตเดิมๆซ้ำๆเหมือนทุกๆวัน แถมต้องนอนเป็นเวลาและรีบตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปทำงาน หากสายแม้เพียง 15 นาทีก็หมายถึงต้องติดแหง็กบนท้องถนนนานเป็นชั่วโมงกันเลยทีเดียว
ผิดกับวายุ ชายหนุ่มที่เป็นดั่งสายลม ที่นึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มา เป็นผู้ชายที่เราเรียกได้ว่า 'ติสท์' มาก ไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง มีความเป็นตัวเองสูงมาก วายุไม่มีงานประจำเนื่องจากเรียนไม่จบปริญญาตรีทั้งที่เป็นคนเรียนเก่งมากๆและอีก 2 เดือนจะเรียนจบแล้ว แต่ทะเลาะกับอาจารย์เลยไปลาออกเฉยเลย(ติสท์ปะล่ะ ฉันไม่เข้าใจพระเอกเลยเจ้าค่ะ) ด้วยความที่เก่งมากๆ เพื่อนฝูงจึงส่งงานให้ไม่ขาดมือ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าตังค์ในมือวายุตอนนั้นมีหรือใกล้หมดแล้ว ถ้ายังมีอยู่ก็พัก ใกล้หมดค่อยรับงานใหม่
รักใหม่ๆ อะไรก็สดใส ความรักของดารชาและวายุก็เช่นกัน ด้วยความที่ทั้งสองคนต่างกันแทบคนละขั้ว คนละสังคม ทัศนคติก็ต่างกัน แรกๆเลยดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับดารชา แต่พอเวลาผ่านไปกลับยิ่งแย่ลงเพราะความแตกต่างที่เคยเห็นว่าดี
"สำหรับคนที่ผูกพันกันลึกซึ้งนั้น หาได้ก่อเกิดอารมณ์อย่างเดียวโดดๆไม่ แต่จะปะปนกันหลายอารมณ์ มีแม้แต่รักที่สุดมาจนถึงชังที่สุด..."
นอกเหนือจากอารมณ์รักแล้ว ยังมีอารมณ์โกรธ ไม่เข้าใจ หึง หวง พาลเกลียดที่เป็นคนที่ทำให้เราเสียใจได้มากที่สุดอีกด้วย ดารชาก็เป็นหญิงที่พึงจะมีอารมณ์เหล่านี้เมื่อเธอน้อยใจวายุในหลายๆเรื่อง ที่บางครั้งที่วายุต้องไปทำงานไกลๆก็มักจะไม่ติดต่ออะไรกับใครเลย ปิดเครื่องยาวสัก 2 สัปดาห์ หรือแม้กระทั่ง 2 เดือนก็ทำมาแล้ว (เป็นใครก็น้อยใจเฟ้ย) ทุกครั้งที่ทะเลาะกันแรงๆก็จบด้วยดารชาร้องไห้หนีไปหาเพื่อนสาวทั้งสอง และวายุไปไหนไม่มีใครทราบได้
" บางคนได้แฟนดี๊ดีก็อยู่กันไม่ได้ เบื่อซะงั้น บางคนซ้อมกันเช้าเย็นก็อยู่กันได้ ตายไปยังร้องไห้คิดถึงซะอีกแน่ะ หนูเลยไม่อยากตัดสินใคร ..."
คำพูดของไอวี่ เพื่อนสาวของดารชา ที่เธอมักจะบอกให้ดารชาไปปรับความเข้าใจกับวายุเสียให้รู้เรื่อง ผิดกับวาริน เพื่อนสาวที่โตมาด้วยกันกับดารชา ที่บอกให้ดารชาเลิกกับวายุทุกครั้งที่มีโอกาสพูด
" เพราะหนูยังเด็ก อะไรก็ใหญ่ไปหมด แต่พออายุมากขึ้น จะรู้ว่าอะไรที่เคยใหญ่ มาดูอีกครั้ง มันเล็กกว่าที่เคยเห็นตอนเด็ก เมื่อไหร่หนูอายุเท่าพ่อ หนูอาจจะพบว่าไม่มีอะไรใหญ่จนน่าตื่นเต้นอีกแล้ว ไม่ว่าสิ่งของ หรือว่าคน ..."
ดารชานึกถึงคำพูดพ่อเมื่อตอนที่เธอนึกถึงตอนเธอเป็นเด็กฝึกงานของบริษัทคุณเพริศคุณเพรา ที่ตอนนี้เมื่อเธอเลือกเส้นทางที่จะเดินกับวายุ และไปยกเลิกงานแต่งกับหลานชายคุณเพริศคุณเพรากะทันหัน จึงทำให้ความเอ็นดูที่มีให้สิบกว่าปีหายไปในพริบตา
ลมพัดผ่านดาว เป็นเรื่องราวของวายุที่ผ่านเข้ามาในชีวิตหนูดาว(ดารชา) ... มีเรื่องราวมากมายที่เล่าไม่หมดกับความติสท์ของพระเอกจริงๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in