เราไม่มีทางรู้อนาคตของตัวเองได้หรอก
เอาจริง ขนาดวันที่เราจะป่วยเรายังไม่รู้กันเลย
ก็เหมือนอย่างเมื่อวาน จู่ ๆ ตื่นขึ้นมาเราก็รู้สึกเจ็บคอซะงั้น
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นอะไรเลยนะ กิน นอน เล่น เฮี้ยวฮ้าวได้ตามปกติทุกอย่าง
แต่คำจำกัดความเหล่านั้นมันใช้ไม่ได้กับเมื่อวาน..
เราฝืนร่างกายของตัวเอง ลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า
แบกสังขารที่ดูเหมือนจะวูบได้ทุกเวลาไปทำงาน
พอถึงที่ทำงานเราก็เจอกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในสภาพไม่ต่างจากเรา
เธอสวมหน้ากากอนามัย ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากอนามัยนั้นจะสดใสแค่ไหน
แต่ถ้าเธอคนนั้นเลือกได้ เธอก็คงไม่อยากสวมมันเอาไว้อย่างงั้นหรอก
เอาจริง เราไม่รู้หรอกว่าวันไหนเราจะป่วย
สามวันดีสี่วันไข้ หลายคนคงจะเคยได้ยินคำกล่าวนี้มาหลายต่อหลายครั้ง
ไม่ได้มาเจอกับตัว เราคงไม่เข้าใจ
อย่างเช่นวันนี้ หลังจากผ่านเมื่อวานที่เป็นเหมือนคลื่นลูกที่หนึ่งไป
คลื่นลูกที่สองก็ค่อย ๆ เคลื่อนไหวเข้ามา
วันนี้เราจึงตัดสินใจขอลางาน ด้วยสภาพที่ย่ำแย่กว่าเมื่อวาน
จะกลืนน้ำลายทีอย่างทรมาน ปวดหัวไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บคอมากนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
กำลังสงสัยอยู่ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร
ทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่าก่อนหน้านี้ฉันสบายดีทุกอย่าง
แต่ก็อย่างว่าอะเนอะ บทมันจะป่วย มันก็ป่วยได้ทุกเมื่อนั่นแหละ
ดังนั้นการที่ฉันป่วย มันได้สอนตัวฉันเอาไว้ว่า
อนาคตมันไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
อย่าประมาทในการใช้ชีวิตก็แล้วกัน
ไม่งั้นคุณอาจจะตกอยู่ในสภาพแบบฉันเข้าก็ได้.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in