วันนี้เป็นวันเครมบูเล่
วันจันทร์ทีรามิสุ วันอังคารบานอฟฟี่ วันพุธเครมบูเล่ วันพฤหัสชูครีม วันศุกร์เครปเค้ก วันเสาร์สโคน (วันอาทิตย์หยุด)
รายการขนมพิเศษในแต่ละวันนอกจากเค้กที่ยืนพื้นอยู่มักจะวนไปตามนี้ ยกเว้นโอกาสพิเศษอย่างเช่นฮาโลวีนที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวาน ทำให้วันบานอฟฟี่ถูกเปลี่ยนเป็นชีสเค้กฟักทอง สภาพของร้านยังคงมีร่องรอยจากเทศกาลหลงเหลืออยู่ ตะเกียงฟักทองแกะ Jack O’ lantern ลูกเล็กๆ ถูกเก็บเข้ามากองไว้ในร้านแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ตุ๊กตาแจ็คและแซลลี่จากเรื่อง Nightmare before Christmas รวมถึงฟิกเกอร์จากเรื่องCorpse bride และตุ๊กตาจากเรื่องเอ็ดเวิร์ดมือกรรไกรยังคงวางไว้อยู่ เธอคิดว่าคงจะเก็บขึ้นแต่ฟักทอง นอกนั้นวางเอาไว้ก่อนเผื่อดึงดูดลูกค้าที่อยากถ่ายรูปด้วย ไว้เย็นนี้หลังปิดร้านค่อยเก็บคืนหุ้นส่วนผู้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของทิม เบอร์ตันที่เป็นเจ้าของของสะสมเหล่านี้ทั้งหมด
เธออยู่ในครัวหลังร้าน กำลังจดจ่ออยู่กับการค่อยๆเทส่วนผสมครีมลงในอ่างผสมไข่พร้อมกับคนอยู่ตลอดเวลาไม่ให้ส่วนผสมจับตัวเป็นก้อน ปกติแล้วเธอจะเตรียมคัสตาร์ดไว้ล่วงหน้าคืนหนึ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นก็เพียงแต่โรยน้ำตาลแล้วใช้โพรเพนพ่นไฟก่อนเสิร์ฟ แต่เพราะเมื่อคืนร้านเปิดจนดึกเป็นพิเศษเนื่องจากเทศกาล ทำให้เธอต้องตื่นเช้าขึ้นในวันนี้เพื่อมาเตรียมขนมแทน โทรทัศน์เครื่องเล็กๆที่วางไว้ตรงซอกหลืบข้างครัวถูกเปิดไว้เป็นเพื่อน รีโมทคอนโทรลใส่อยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนเผื่อจะหยิบมาเร่งเสียง
เธอก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่มีความฝันจะเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆของตัวเองจากการลองผิดลองถูกในครัวที่บ้าน หลังจากทำงานบัญชีตามสาขาที่เรียนมาได้ห้าหกปี เริ่มรู้สึกเครียดกับงานประจำ พอมีเงินเก็บสะสมเป็นก้อนอยู่บ้าง ก็ตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิทผู้ตระเวนไปกินขนมแก้เครียดด้วยกันบ่อยๆ เปิดร้านเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งบัดนี้ก็ดำเนินกิจการมาได้จะครบสองปีแล้ว มีกำไรพอควร สร้างความสบายใจให้กับพ่อแม่พี่น้องที่ดูจะเครียดกว่าเธอเสียอีกเมื่อเธอตัดสินใจลาออกจากงานประจำ
เธอกรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง เสียงจากโทรทัศน์เป็นรายการพยากรณ์อากาศแจ้งให้ทราบถึงลมหนาวแรกของปีหลังจากเผชิญพายุฝนมาร่วมเดือนราวฟ้าร่ำไห้ไม่รู้จบสิ้น เธอรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เธอชอบที่สุด เสียแต่มีแค่ปีละสองสามวันเท่านั้นในกรุงเทพฯ
ส่วนผสมคัสตาร์ดเนื้อเนียนดีแล้ว เธอจัดแจงเทแบ่งใส่ถ้วยกระเบื้องก่อนจะนำเข้าเตาอบ ต่อจากนี้ก็เพียงแต่รอเวลา เธอตั้งนาฬิกาจับเวลา เหลือบมองเวลาในมือถือ ยังอีกพักใหญ่กว่าจะถึงเวลาเปิดร้าน ทันเวลาสำหรับการเก็บกวาดครัวและนั่งพักจิบกาแฟสักครู่ เธอกำลังจะหันไปล้างอุปกรณ์ในอ่าง ก็พอดีรู้สึกถึงลมเย็นวูบหนึ่งกระทบกาย เธอหันไปมองตามทิศของสัมผัสดังกล่าวก็พบกับชายต่างชาติแปลกหน้าที่ยืนเก้ๆกังๆ อยู่ตรงทางเข้าครัว สภาพสะโหลสะเหล หน้าซีด คิ้วขมวดยู่ยี่ เอ่ยปากขอน้ำดื่มด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งหู อารามตกใจด้วยเขาเข้ามาโดยไม่ให้สุ้มเสียง เธอคว้าหม้อใกล้มือมาเป็นอาวุธป้องกันตัวไว้ก่อนจะร้องขู่ไม่ให้เข้ามาใกล้เป็นภาษาอังกฤษ
“ Who are you? How did you get in? Don’t you dare move an inch!”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in