ทุกอย่างในนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
read at your own risk and enjoy reading kaaaa
*The Heart Killers Spoilers*
"ความรักมันก็อย่างนี้แหละ บางทีมันก็เริ่มต้นด้วยความหลอกลวง สุดท้ายมันก็หาทางซิกแซกจนลงเอยกันได้อยู่ดี" — ป็อปคอร์น (EP8)
ประโยคนี้ดูเป็นการรวบยอดเส้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง 'ฟาเดล' และ 'สไตล์' ได้เป็นอย่างดี จากความรักที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ฉาบฉวย เริ่มต้นด้วยคำลวง สัญญาปากเปล่าโดยมีรถเป็นเดิมพัน ไหว้วานโดยเพื่อนรักช่างสักสายตำรวจให้ไปช่วยจีบหนุ่มนักฆ่าหน้าเดียว เพื่อให้ตนเองทำภารกิจลับสำเร็จ ซึ่งหนุ่มเจ้าสำราญสายแฟชั่นวาทศิลป์เป็นเลิศคนนี้ รับรู้เพียงแค่ว่าอยากจะช่วยให้เพื่อนสำเร็จในรักครั้งใหม่ หาได้รู้ว่าจะนำพาตนเองมาพบกับรักครั้งแรกและรักเดียว ซึ่งเป็นความรักที่ผู้เขียนกล้าพูดได้ว่า เขาสองคน perfect for each other และ meant to be together.
การพบปะลับฝีปากระหว่างทั้งสองคนเริ่มต้นจากที่ สไตล์ไปชนท้ายรถฟาเดลก่อน ทำให้เกิดความประทับใจแรกที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก จากที่นิสัยส่วนตัวทั้งสองคนเหมือนจะอยู่คนละด้าน
ฝั่งนึงเยือกเย็น เข้มงวดไปซะหมด (โดยเฉพาะกับน้องชาย) พูดน้อยคำ ไม่แสดงความรู้สึกทางสีหน้า
ส่วนอีกฝั่งก็ช่างร้อนแรง เสียงดัง แสดงออกอย่างสุดโต่ง ทั้งทางด้านร่างกายและคำพูด
ถ้าจะเปรียบเทียบกับอะไรสักอย่างนึง ก็คงจะเป็นแม่เหล็กคนละขั้ว ที่ต่างฝ่ายต่างดูดดึงเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
Challenging the challengers
การที่ฟาเดลพยายามปฏิเสธที่จะได้รับความช่วยเหลือจากสไตล์ หรือการใช้คำพูดที่ใจร้ายต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มันได้ไปกระตุ้นสิ่งเร้าในตัวสไตล์ เพราะสไตล์ชอบทำมิชชั่น (EP11) ฟาเดลถูกจัดไปเป็นตัวประหลาดในระบบ ก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่า สไตล์เป็นคนชอบเช็คเรตติ้งตัวเอง ชอบได้รับการสนใจจากคนรอบข้าง ไปไหนใครก็รัก เป็น neighborhood sweetheart ของคนในตลาด มีความมั่นใจในตัวเองสูง(เกิน) การถูกใครสักคนพูดไม่ดีใส่ หรือการกระทำใจร้ายอย่างเอาเข็มกลัดจิ้มหัวนม และโดนลากออกจากร้าน ทำให้อีโก้สูงลิ่วของสไตล์สั่นคลอน พอมีมิชชั่นของเพื่อนเสนอมา เป็นคน ๆ นี้ และมีรถที่สไตล์หมายตาไว้อยู่แล้ว เขาก็พร้อมที่จะสนองดีลนี้ มีแต่ได้กับได้ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า คนอย่างสไตล์ไม่มีทางแพ้ แม้กระทั่งตอนที่ได้รู้ความจริงว่า ฟาเดลเป็นนักฆ่า (EP4) ถึงรักตัวกลัวตาย และมีความลังเลอยากจะออกจากมิชชั่นนี้ ทิ้งดีลนี้ไปซะ แต่การแสดงออกของฟาเดล ที่บอกว่า 'กูยังไม่ได้ชอบมึงขนาดนั้น' ในซาวน่า (EP5) ก็เป็นทริกเกอร์เล็ก ๆ ให้ตัวสไตล์กลับเข้าเกมส์ต่อ ซึ่งเกมส์ครั้งใหม่นี้ คือ การอยากที่จะช่วยให้ฟาเดลออกจากการเป็นนักฆ่า หรือยอมรับตัวตนของสไตล์ อย่างแท้จริง
Enemies to lovers lusters
ด้วยความที่ฟาเดลห่างหายจากการใกล้ชิด และถูกสัมผัสเป็นเวลานาน หลังจากแฟนเก่าหายไป เขาก็ใช้ชีวิตดั่งเงาไม่ได้มีใครมองเห็น หรือให้ความสนใจ การถูกสปอตไลท์ใส่ครอปท็อปวิ่งเข้ามาสาดแสงใส่ ด้วยวิธีการจีบที่แปลกประหลาด สตอล์กกิ้งสอดแทรกตัวไปอยู่ในสถานที่ประจำของเขา ไปถึงขั้นถึงเนื้อถึงตัวกันในห้องซาวน่า ทั้งสัมผัสร่างกายและจูบ (EP2) เป็นอะไรที่สั่นคลอนโลกของฟาเดลพอสมควร การที่เก็บเอาภาพสไตล์ไปช่วยตัวเองกลายเป็นความรู้สึกผิด ที่แม้กระทั่งเจ้าตัวเองก็ไม่อยากยอมรับสิ่งนี้ ว่า เขาชอบร่างกายของสไตล์ ทางฝั่งของสไตล์ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อน ในบาร์โฮสต์หลังที่ได้เห็นการแสดงอันเร่าร้อนของฟาเดล (EP3) สไตล์เองก็ fantasize ตัวเองไปแทนที่เจ๊เพ็ญ เขาอยากได้รับการเซอร์วิสจากฟาเดล และยิ่งถลำลึกไปมากกว่าเดิม เมื่อทั้งสองคนได้มีอะไรกันครั้งแรกที่ RISE UP ต่อให้ฟาเดลจะพูดว่า สิ่งที่ทำไปจะเป็นการสนองสิ่งที่สไตล์อยากได้ แต่ก็เป็นการเติมเต็มสิ่งที่ร่างกายฟาเดลเองต้องการด้วยเหมือนกัน การพรมจูบอย่างอ่อนโยนไปทั่วร่างกายของคนที่ตัวเองบอกว่าไม่ต้องการ และผลักไล่ไสส่งจนถึงขั้นลงไม้ลงมือหลังจากเสร็จกิจ ผลกระทบที่ตามมากลับสร้างปัญหามากกว่าเดิม แทนที่สไตล์จะหยุด หรือตัวฟาเดลเองจะเลิกนึกถึง กลายเป็นสไตล์เก็บสิ่งนี้ไปฝันเปียก และตัวฟาเดลก็พะว้าพะวงที่สไตล์หายไปเช่นกัน ถึงขั้นระเบิดอารมณ์สารภาพความในใจว่า เขาคิดถึงการมีอยู่ของสไตล์ ทั้งสองคนต่างพ่ายแพ้กับความต้องการด้านร่างกายที่มีต่อกันและกัน
Sharing the same traumas
"พ่อแม่กูตาย"
"(...)แม่กูก็ตายเพราะมะเร็งเหมือนกัน"
บทสนทนาในอู่ซ่อมรถหลังจาก roleplay quicky ที่เกิดขึ้น มันคือการดีพทอล์กแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของทั้งสองคน ฟาเดลได้เผยความอ่อนแอออกมาเป็นครั้งแรก สไตล์ได้ฉุกคิดว่า คนอย่างฟาเดลก็มีอดีตที่เจ็บปวด มีความรู้สึก เพราะเขาเองก็ผ่านเรื่องราวใกล้เคียงกัน และการที่สไตล์ย่างก้าวไปแตะพื้นที่ความอ่อนแอของฟาเดล ทำให้เกิดความเห็นใจขึ้น เห็นใจจนอนุมานว่า การที่ฟาเดลเป็นนักฆ่าอาจจะไม่ใช่ตัวเลือก? แต่เป็นการถูกบีบบังคับให้จำยอม ถึงขั้นยอมรับกับกานต์ ว่าตอนนี้สไตล์ก็เป็นห่วงฟาเดล และใจก็คิดเลยเถิดว่า ถ้าจับหัวหน้าใหญ่ของเรื่องนี้ได้ ฟาเดลเองก็รอดพ้นไปมีชีวิตของตัวเอง ได้ทำอะไรที่อยากทำ และใน RISE UP (EP11) ฟาเดลกับสไตล์เปิดใจต่อกันว่าทั้งคู่มีวิธีรับมือกับความเจ็บปวดไม่เหมือนกัน สไตล์ใช้ความร่าเริงกลบเกลื่อนความเจ็บปวด ทุกครั้งที่เผยความเศร้าจะเป็นตอนที่ฟาเดลไม่ได้เห็นทั้งนั้น การหันหลังหนีหลบเลี่ยงไปร้องไห้ หลังจากฝากฝังเรื่องพ่อในเตียงรถ (EP8) เมื่อรับรู้ว่าสุดท้ายแล้วฟาเดลจะต้องเข้าคุก สีหน้าที่เศร้าสร้อยจะแสดงออกตอนกอดกัน หรือแม้การร้องไห้ที่แทบจะขาดใจ ก็เป็นตอนที่รถตำรวจพาคนรักของเขาลับตาไปแล้วเท่านั้น (EP11) ส่วนฟาเดล ตลอดมาความเจ็บปวดถูกเก็บไว้ภายใต้สิ่งหน้าอันเรียบเฉย ซึ่งสิ่งนี้ยอมพังทลาย ให้สไตล์ได้เห็นแต่เพียงผู้เดียว ร้องไห้ให้คนที่ปลอดภัยสำหรับเขาที่สุด เพราะฟาเดลรู้ว่า เมื่อเขาร่วงหล่น ตรงนั้นจะมีสไตล์คอยรองรับเขาไว้อย่างดี
Scars to your beautiful
"ขอให้มึงไม่เป็นแผลอีกนะ"
คำพูดอบอุ่นปลอบประโลมใจจากสไตล์ให้ฟาเดล รอยแผลเป็นบนอก รอยแผลจากอดีตของฟาเดลล้วนเป็นสิ่งสวยงามในสายตาของสไตล์ เป็นนักฆ่า? แล้วยังไงล่ะ ฟาเดลก็เลือกที่จะเข้ามาช่วยเหลือสไตล์ในยามคับขัน หรือเข้าไปเสี่ยงชีวิตช่วยคนที่ไม่รู้จักในลานโบว์ลิ่ง สไตล์มองหาด้านดีในนั้น เลือกที่จะมองลึกลงไปกว่านั้น ภายใต้กำแพงน้ำแข็งสูง กำลังโอบล้อมชายคนหนึ่งที่เจ็บปวดจากความรัก เข้าใจว่าโดนแฟนเก่าทิ้งไป เพราะตัวเองไม่ได้มีค่าพอให้ใครมารักหรือฝากชีวิตไว้ได้ การโดนกรูมมิ่งหรือหลอกใช้ จากคนที่เชื่อว่ามีพระคุณอย่างลิลลี่มาเป็นสิบ ๆ ปี (EP10) และให้ทำงานที่ใช้ชีวิตแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาโดยตลอด การที่จะปักใจเชื่อว่า ชีวิตนี้จะมีใครพร้อมสู้ไปด้วยกัน พร้อมจะรักเขาอย่างเต็มใจ ดูไม่ใช่อะไรที่คนอย่างฟาเดล จะกล้าหวัง แต่สไตล์พร้อม และสไตล์มั่นใจว่า เขาทำได้ เขาเป็น 100% ให้กับฟาเดลได้
Man on the mission to earn his trust back
เมื่อความจริงที่สไตล์เข้ามาจีบฟาเดลอย่างไม่บริสุทธิ์ใจถูกเปิดโปง (EP7) สิ่งที่สไตล์คิดอย่างเดียว คือจะทำยังไงให้ฟาเดลกลับมาเชื่อใจกันได้อีก ความรักที่เขามอบให้ไป ไม่เคยหลอกลวง เป็นความรู้สึกที่แท้จริง โดยพยายามพูดซ้ำไปมา ว่าตัวเองสมควรได้รับโทษ สมควรตาย ทำหน้าที่ไปล่อมือปืนถ่วงเวลา ทั้งที่ตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์ใกล้ความตายเฉียดเพียงปลายลูกกระสุน (EP8) แต่สไตล์ก็ทำอย่างเต็มใจไม่มีอาการลังเลแม้แต่น้อย เพราะสไตล์รู้ว่าการถูกหักหลัง มันเจ็บปวดสำหรับฟาเดล เขาเป็นคนสร้างรอยแผลใหม่ในใจของฟาเดลด้วยตนเอง ชีวิตของสไตล์นับจากนี้อยู่ในกำมือของฟาเดล ถ้าได้โอกาส หลังจากนี้สไตล์ก็พร้อมจะชดใช้ให้ความรู้สึกฟาเดลที่เสียไป และเพื่อให้ได้ความเชื่อใจของฟาเดลกลับมา จะไม่ทำอะไรที่ฟาเดลไม่ต้องการ อย่างเข้าไปจูบก่อน (EP2) เขาจะเป็นฝ่ายรอให้ฟาเดล เป็นคนที่อยากจะจูบเขาเอง และถ้าฟาเดลต้องการ ทั้งตัว ทั้งหัวใจ ทั้งรถที่อู่ (หรือรายชื่อญาติทั้งตระกูล) ทั้งหมดนี้สไตล์ ก็มอบให้ฟาเดลได้ ฟาเดลเป็นเจ้าของมัน แต่เพียงผู้เดียว
For better, for worse, I got you
"มึงรู้สึกอะไร มาลงที่กูได้เลย (...) ทุกอารมณ์"
รักครั้งนี้ที่สไตล์มอบให้ฟาเดล เป็นการตั้งใจรักอย่างดี มันอบอุ่น หอมหวาน ปลอดภัย ฟาเดลอยากจะทิ้งตัวลงมาขนาดไหนก็ทิ้งตัวลงมาได้เลย สไตล์ทะนุถนอมรักครั้งนี้ด้วยความเชื่อใจ ความอดทน ทำทุกอย่างที่คนรักที่ดีคนนึงจะทำได้ สไตล์รู้วิธีการรับมือกับฟาเดลได้ทุกรูปแบบ ทุกสถานการณ์ ตอนที่ถามถึงเรื่องแฟนเก่า สไตล์เข้าหาฟาเดลด้วยความใจเย็น เข้าใจความรู้สึก และไม่อยากให้ฟาเดลรู้สึกไม่ดี พอยิ่งรู้ว่าฟาเดลมีปมในใจเรื่องการถูกทิ้ง ก็พร้อมเอื้อนเอ่ยคำปลอบโยนให้มั่นใจในตัวเขาว่า
' ไม่กลัวแล้วนะ (...)เลือกรักถูกคนแล้ว ' เพราะการรักฟาเดล เป็นทางเลือกที่ไม่ใช่เรื่องง่าย จะมีสักกี่คนบนโลกที่โดนขับไล่ไสส่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังพร้อมจะอยู่ ฟาเดลจะลดทอนคุณค่าในตัวเองอีกกี่ครั้ง สไตล์ก็พร้อมจะย้ำให้ฟังทุกครั้งเองว่า ฟาเดล คือ คนที่สไตล์ต้องการ สไตล์เห็นอนาคตของเขาทั้งสองคน จะสร้างมันด้วยมือของเขาเอง ไปอยู่ในคุก 5 ปีแล้วมันยังไงล่ะ? รอได้อยู่แล้ว วางแพลนอนาคตเตรียมไว้ให้ด้วย ที่ RISE UP (EP11) เป็นเหมือนดั่ง symbolic wedding vows ที่สไตล์มอบให้ฟาเดล เศร้าก็จะคอยปลอบ สุขก็จะหัวเราะไปด้วย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่มีทางไปไหน จูบอันดูดดื่มหอมหวานครั้งนี้เป็นดั่งคำสัญญา ที่เราจะรักกันไปจนนิรันดร์
I'm gonna marry him anyway
"กูยังไม่รักตัวเองเท่าที่มึงรักกูเลย"
"(...)ทำเลวมาทั้งชีวิต ดันได้แฟนดี"
สไตล์เป็นเหมือนของขวัญจากพระเจ้าที่มอบให้ฟาเดล เจ้าลูกรักพระเจ้าที่เกิดในวันคริสมาสต์คนนี้ ได้รับความรักที่ดีโดยไม่ได้ออกตามหา ไม่ได้ร้องขอ แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นเหมือนพระเจ้ารับรู้ได้ว่า ชีวิตของฟาเดลที่ผ่านมา มันช่างเจ็บปวด รวดร้าว และแตกสลายมาเกินพอแล้ว ฟาเดลก็อยากจะตอบแทนสไตล์ ด้วยการเป็นคนที่ดีขึ้น พาไปสร้างความทรงจำที่ดีในที่เดิมทับรอยเก่า ต่อให้ฟาเดลจะไม่มั่นใจในตัวเอง หรือพยายามผลักสไตล์ออกไปจากชีวิตให้ไปเจอสิ่งที่ดีกว่า แต่ เมื่อสไตล์เลือกเขาแล้ว ฟาเดลก็อยากจะรักและมอบสิ่งที่ผูกมัดใจเขาทั้งคนไว้ ทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย การที่บอกว่าจะเข้าไปคุยกับพ่อของสไตล์หลัง 5 ปี จะทำสัญญาที่เคยให้ไว้เป็นจริงให้ได้ ของขวัญที่ฟาเดลจะตอบแทนสไตล์หลังจากที่เขาได้สไตล์มาครอบครอง คือ สิ่งที่ยึดโยงเขาไว้ทั้งคู่ ที่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่จะพรากเขาทั้งสองคนออกจากกันได้ คือ ความตายเท่านั้น
"สุดท้ายเราก็จะตายมึง แต่เราจะแก่ตายไปด้วยกัน"
They bring out the best of each other
จากทั้งหมดที่กล่าวมา ฟาเดลกับสไตล์เหมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดหาย เข้ามาเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ฟาเดลต้องการใครสักคนที่จะถวายหัวใจ เวลา ร่างกาย พร้อมที่จะอยู่เคียงข้าง คอยย้ำเตือนให้เขารับรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง คนที่มาแต่งแต้มสีสันให้ฟาเดลได้รู้จักสนุกกับการใช้ชีวิต และการมีชีวิตอยู่ มันช่างสวยงาม ในวันที่เขาอ่อนแอที่สุด ก็พร้อมที่จะโอบกอดเขา ลูบหัวเขา คอยเช็ดน้ำตา รักเขาจนกว่าเขาจะรู้ตัวว่าคู่ควรกับความรักที่ดี และสไตล์ได้เข้ามาสอนให้รู้ว่า ความรักที่แท้จริง มันคือการที่หวังให้คนที่เรารักได้พบเจอกับสิ่งที่ดีที่สุด สไตล์อยากให้ฟาเดลมีชีวิตที่ดี รับความรักครั้งนี้จากเขาไป เลิกเป็นนักฆ่า อย่างที่เจ้าตัวบอกว่า ' ในชีวิตนี้ไม่มีใครหวังดีกับฟาเดล ไปมากกว่าสไตล์อีกแล้ว ' และในทางกลับกัน ฟาเดลก็หวังว่า สไตล์จะได้ใช้ชีวิตที่ดี ถึงจะเป็นชีวิตที่ไม่มีฟาเดลอยู่ด้วยก็ตาม ได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของทั้งคู่ ก็คือการมีกันและกัน คือคนที่อยู่ข้าง ๆ กันตอนนี้นี่เอง
ส่วนสไตล์ เขาต้องการใครสักคนมาทำให้อะดรีนาลีนหลั่ง โรแมนติกแบบโหด ๆ ความสัมพันธ์อันตราย วาบหวาม ที่ให้เขาได้ชาเล้นจ์ตัวเอง ได้ทำมิชชั่น ผลลัพธ์ทางทฤษฎีหน้าตาคมเข้มเป็นเครื่องพิสูจน์สิ่งที่ คนบูชาความรักอย่างเขาเชื่อมาโดยตลอดว่า ความรักชนะได้ทุกอย่าง ความรักเปลี่ยนคน ๆ นึงได้ และได้ทำเพื่อใครอย่างไม่มีข้อแม้ คอยมองหาข้อดีในตัวอีกคน ต่อให้เขามีอดีตที่เลวร้ายแบบไหนก็ตาม สไตล์พร้อมจะเรียนรู้ ปรับเปลี่ยน ร่วมหัวจมท้ายไปกับมัน สไตล์มีความรักที่พร้อมจะมอบให้อย่างเต็มเปี่ยม และก็เป็นครั้งแรกที่สไตล์ได้มองเห็นความรักในใครอื่น นอกจากการหลงตัวเอง-รักตัวเอง
(และครอปท็อปอีกร้อยตัวในตู้เสื้อผ้า)
แถม!
Matching each other freaks
พี่โจ้เคยบอกว่า เรื่องนี้ตัวละครบอกรักกันทางร่างกายเยอะ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึง kinks และความชอบส่วนตัวของทั้งสองคนกันนะคะ ไดนามิกความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ที่อยากพูดถึง คือ
น้อยครั้งนัก ที่จะเห็นนายเคะ หรือ bottom ในสื่อวายของไทยที่ sexually forward แสดงความต้องการของตัวเอง มี sex drive ที่สูง หรือ ชอบที่จะเป็นคนมอบความสุขให้แก่คนรัก
- Nipple play ดูเป็นหนึ่งใน kinks ที่ฟาเดลชอบ และหลายครั้งที่สไตล์จะชอบแกล้งเย้าแหย่สะกิดเล่น
- ซอกคอของสไตล์ ในการเมกเอ้าท์ระหว่างกันหลาย ๆ ครั้งจะจบลงด้วยการที่ฟาเดลซุกหน้าเขาที่คอของสไตล์ หรือจูบต้นคอซ้ำ ๆ รวมถึงการ choking เล็กน้อยที่มือของฟาเดลจะไกด์ให้สไตล์มาจูบ หรือมือของสไตล์ที่จะไปหยุดอยู่ที่คอของฟาเดลเสมอ ๆ
- Roleplay ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทั้งสองคนชอบ ทั้งที่อู่ซ่อมรถ หรือแม้กระทั่งบทสนทนาในคุกตอนสไตล์เข้ามาเป็นอาสา ยังสอดแทรกโรลเพลย์ไว้เล็ก ๆ ' สนใจมาเรียนด้วยกันมั้ย (...) เดี๋ยวผมจะสอนให้รู้ทุกซอกทุกมุม '
Dominant และ Submissive ดูยังเป็นสิ่งที่ controversial
แต่ส่วนตัวของเราแล้ว เราให้สไตล์เป็นดอม ฟาเดลเป็นซับ
สิ่งนี้ไม่ได้จำเป็นว่า ใครจะเป็นโพสิชั่นไหนบนเตียง นั่นเป็นเรื่องของการตกลงของทั้งสองคน
ฟาเดลจากคนที่ทั้งชีวิต คอนโทรลทุกอย่าง มีแบบแผน ชอบจัดแจง ใจลึก ๆ แล้ว อยากให้มีคนใครมาคอนสั่ง คอยไกด์ สไตล์บอกอยากได้อะไรก็จะทำให้ อยากให้ทำตัวหวาน กดหัวให้ไซ้ซอกคอก็จะทำ หรืออย่างแค่สไตล์พูดลอย ๆ ว่าโดนพ่อจับคู่ให้ก็ไม่เอา ตัวเองเป็นคนเลือกเองได้ ฟาเดลก็กระโดดเข้าไปรับว่า พรีวิลเลจของการถูกเลือกครั้งนี้ สไตล์มอบให้ตัวเอง อยู่ใต้อาณัติคนคนนี้อย่างเต็มใจ ส่วนของสไตล์ ภาษากายหลาย ๆ ครั้งจะเป็นคอยไกด์มือให้ฟาเดลมากอดตัวเอง หรือจะเป็นคนนำในช่วงเวลาแสดงความรักกัน และ words of affirmation (การพูดชมเชย) ดูเป็นสิ่งที่ดอมคนนี้จะมอบให้ซับของตัวอย่างสม่ำเสมอ 'ทำเบอร์เกอร์อร่อยมาก ทำอาหารเก่งมาก เก่งมาก'
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
ไปให้กำลังใจน้องจุงน้องดังใน The Heart Killers ใน IQIYI ได้นะคะ บทนี้น้องสองคนแสดงออกมาได้ดีมาก ประทับใจในตัวทั้งคู่มาก ขอบคุณสำหรับตัวละครที่จะอยู่ในใจเราไปอีกเนิ่นนาน จะคิดถึงฟาเดลสไตล์ทุกวัน พี่รักพวกแกมากน้า เก่งกันมาก
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ
chèri 🍒
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in