5
เราต้องให้ยาเคมีบำบัดทั้งหมดเจ็ดวันโดยที่ไอ้ยาเนี่ยจะไปล้างเม็ดเลือดขาวของเราทั้งหมด พอเม็ดเลือดขาวเราเหลือหลักร้อยช่วงนี้จะต้องระวังสุดๆเพราะว่าเราจะติดเชื้อง่ายมากกกกกกกกกกก เพราะเม็ดเลือดขาวตัวดีที่ปกติทำหน้าที่ปกป้องและต่อสู้ก็จะหายไปด้วย
ช่วงนั้นเราเหนื่อยง่ายมากๆ คืออยู่ในจุดที่แค่ด่าฟ้าด่าเหวเราจะหอบแห่กๆเป็นหมา คุณพยาบาลจะฉีดยาแก้แพ้ให้ทุกครั้งก่อนที่จะให้ยา ผลข้างเคียงของยานี่มันร้อยแปดจริงๆนะ เช่น เบื่ออาหาร ขมปากขมคอ คลื่นไส้อาเจียน ปากเป็นแผล เป็นไข้ และอาจจะติดเชื้อราได้ เป็นต้น ซึ่งคุณหมอให้เรากินยาตัวนึงเพื่อป้องกันเชื้อรา อียาตัวนี้มันชื่อว่าโพซ่า คุณพยาบาลแนะนำให้เรากินกับโซดา(แบบโซดาชงเหล้าเลยอะ) น้ำอัดลมหรืออะไรก็ได้ที่มันมีกรด(เหมือนกับว่ามันจะแตกตัวได้ดีในกรดมั้งถ้าจำไม่ผิด) ยาโพซ่าเนี่ย ขวดละ 18,xxx ตอนที่พี่เราไปซื้อมันมีโปรซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง อ้อหอ ก็คือถ้ามีบัตรสะสมแสตมป์ซื้อครบสิบขวดได้ฟรีหนึ่งขวดนี่ก็ชาไข่มุกเลยเด้อ เรากินวันละสี่ครั้งครั้งละ 5 ซซ.ขวดนึงจะอยู่ได้ประมาณห้าวัน เอาเป็นว่าถ้ากินไปแล้วก็ห้ามอ้วก ต่อให้อ้วกก็ต้องกลืนเพราะมันแพงชิบหายเลยว้อยยยยยยยยยยยยยยยย
เราว่าเราโชคดีที่ได้รับผลข้างเคียงจากยาคีโมไม่เยอะ เราเบื่ออาหารแต่ก็ยังพอกินได้ ข้าวเย็นเป็นความทรมานทางใจและทางกายของเรา(หมอบอกว่าหมอเข้าใจ มันเป็นทุกขกรรมอย่างหนึ่ง..) ด้วยความที่อาหารรพ.อะเนอะ แบบ ฮือ เราเกลียดที่สุดคือหมูมะนาวจีนแดง ทำไมรสชาดต้องหลอกลวงกันขนาดนี้ ไม่เข้าใจ ยังมีหมูที่แปะด้วยใบกะเพรา(แค่นี้จริงๆ) กล้าเรียกตัวเองว่าผัดกระเพราหมูสับได้ไงวะ เรากินนมเสริมเอาเพราะต้องได้โปรตีนเยอะๆไปสร้างเม็ดเลือดขาว เคยอ้วกครั้งเดียว(ตอนกินโพซ่าด้วยละแกคิดว่าเราทำไง
55555555555555) ปากเราไม่เป็นแผลเลย(ยกเว้นที่โง่ไปกัดกระพุ้งแก้มเอง) แต่เราเป็นไข้ซึ่งเป็นกันทุกคนแหละ ถ้าเป็นไข้ก็จะต้องดูดเลือดไปเพาะเชื้อว่าติดเชื้ออะไรไหม ตรวจสี่แล้วก็เอ็กซเรย์ดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ส่วนมากจะดีขึ้นถ้าเม็ดเลือดขาวทำงานเอง เราเป็นตากุ้งยิงด้วยแต่ไม่ขึ้นเป็นหนองเพราะตอนนั้นเม็ดเลือดขาวเราต่ำ ที่รพ.ดีมากเลยนะ ถ้าเราเป็นอะไรก็จะมีหมอเฉพาะทางมาดูถึงที่ตรวจไปตรวจมาก็เจอว่ากระจกตาเป็นรูเพราะตัวโรคนี่แหละ ปกติถ้าเป็นที่อื่นก็เลเซอร์ปิดรูได้แต่เราดันเป็นตรงจุดรับภาพชัดพอดีเลเซอร์ไม่ได้ต้องผ่าเอา เรารีบยกมือปางค์ห้ามญาติถามหมอว่าถ้าไม่ผ่าจะเป็นอะไรไหม ซึ่งโชคดี(สำหรับเรา คนที่แม้แต่คอนแทคเลนส์ยังไม่กล้าใส่)มาก หมอบอกว่าถ้าเราโอเคกับมันและไม่ได้รบกวนชีวิตประจำวันก็ไม่เป็นไร รักษาอันนี้ให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากัน ท้ายสุดคือเราเป็นผื่นเพราะแพ้ยาฆ่าเชื้อ.. คือแดงไปหมด คันมากด้วย ถึงจะบอกว่าได้รับผลข้างเคียงน้อยแต่ไม่ต้องถามว่าเราด่าอีโรคนี้ไปกี่หน้า A4
จำรูมเมทเราจากตอน
คืนแรกในวอร์ดโรคเลือดได้ปะ เตียงหนึ่งได้กลับบ้านไปแล้วและมีคุณป้าที่ดูแลตัวเองไม่ได้มาแทน เตียงสองคือเรา เตียงสามเป็นคุณป้าสุที่หมอไม่ให้ลุกจากเตียงเอง และเตียงสี่พี่ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจและกดออดเรียกพยาบาลไม่ไหว เขาจะมีของเล่นเด็กที่เขย่าๆแล้วจะเกิดเสียงแทน ถ้าเขาเรียกพยาบาลแต่พยาบาลไม่ได้ยินเราจะกดออดเรียกให้ แล้วมีอยู่คืนนึงที่ท่อช่วยหายใจพี่เขาหลุดเราใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลย ออหอออ รีบเรียกพยาบาลใหญ่ หลังจากนั้นเราก็ไม่กล้าหลับเลย เพราะกลัวพี่เขาเรียกพยาบาลแล้วไม่มีใครได้ยิน คืนนั้นพี่เขาคงจะปวดมากเพราะนอนมานานแล้ว ถึงได้เคาะเรียกพยาบาลทั้งคืน เราอยากนอนถนอมสุขภาพนะแต่ก็ไม่กล้าทิ้งเขา กลัวเขาเป็นอะไร เขาเคาะเรากด เขาเคาะเราออกไปเรียกพยาบาล สรุปวันนั้นรางวัลของคนดีคือเราโดนสั่งให้ติดเตียงเพราะเกล็ดเลือดเหลือแค่ 5,000.... (คนปกติมี 150,000) หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น(และหลังจากที่เราเติมเกล็ดเลือดแล้ว)เราตัดสินใจเดินไปตกลงกับพี่เขาว่า "พี่คะ ถ้าจะเรียกพยาบาลเอาที่เคาะนี่เคาะกับที่กั้นเตียงเลยนะคะ เผื่อหนูเผลอหลับ เดี๋ยวหนูกดให้" เพราะเราแข็งแรงที่สุดในห้อง ช่วยใครได้เราก็จะช่วย ถ้าป้าสุเปิดขวดยาไม่ได้เราเปิดให้ ปิดม่านให้ ถ้าเครื่องจ่ายยาร้อง เราก็จะเรียกพยาบาลให้ ฮือออออออออออ ทำไมเป็นคนสวยและจิตใจดี(และหัวล้าน)ขนาดนี้วะ ไม่เข้าใจเลย เฮ้อ
งานพาร์ทไทม์เป็นยามนี่เราไม่ได้จับฉลากได้มานะ วันหนึ่ง หลังจากพี่เขาย้ายห้องไปเพราะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ก็มีคนที่พึ่งสงบจากอาการชักย้ายเข้ามาแทน พยาบาลคุยกันว่าจะมองเห็นไหม แต่มีน้อง**(เรา)นี่เนอะ...
tbc
นึกภาพตามที่น้องเขียนแล้วหากเกิดกับเราคงสิ้นหวังแล้วอะ น้องแข็งแกร่งมากจริงๆยอมเลย 555555555