เจนไปกระบี่มาค่ะ ขาไปบินนก ขากลับบินเวียต ทริปนี้ดีหมดค่ะ มาไม่ดีก็ตอนขึ้นเครื่องกลับนี่แหละค่ะ นรกมากค่ะท่านผู้อ่าน -- แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า cabin crew บนไฟลท์ นางดีมาก บริการดี ยิ้มแย้ม น่ารัก มีผู้หญิงอยู่คนเดียว ที่เหลือผู้ชายล้วน (แอบรู้สึกแย่ที่ตอนออกไม่ได้ขอบคุณพวกนาง คือมันไม่ไหวแล้วอะจุดนั้น หวังว่าจะเข้าใจนะ) เครื่องก็ใหม่กว่านก แต่ก็นั่นแหละค่ะ ฝันร้ายยังไงก็เป็นฝันร้าย
เจนจองไฟลท์ตอน 21:20 ไว้ค่ะ กะเที่ยวยันเย็นแล้วค่อยกลับอะค่ะ แต่... เช็คอินออนไลน์ไม่ได้ค่ะ จริงๆ ทำได้ แต่เฉพาะบางไฟลท์เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็พวกไฟลท์ในเวียตนาม นี่ก็อ่านไม่หมดเพราะกดปิดหน้าจอไปด้วยความอารมณ์เสีย แทนที่เราจะได้ไม่ต้องรีบ สุดท้ายก็ต้องรีบมาเช็คอินอยู่ดี
เจนมาถึงสนามบินประมาณ 18:30 ถามตรงช่องขายตั๋วว่าไฟลท์นี้จะเปิดเช็คอินกี่โมง พนง.ในห้องขายตั๋วก็บอกว่า 19:30 ค่ะ ช่อง 6, 7, 8 นะคะ ก็นั่งรอไปค่ะ พอใกล้เวลา พนง.ของสายฯ ก็เข็นกระเป๋าใส่อุปกรณ์ไปตั้งๆ เรียงๆ ชาวต่างชาติผู้รีบร้อนทั้งหลายก็ไปยืนต่อแถวกันแล้ว ต่อแบบจริงจัง ซึ่งพวกนางก็ยืนรอกันอยู่นานมากกกก อันนี้ก็งง อยากนั่งด้านหน้าๆ หรอ คือไม่เข้าใจอะ แต่ก็ช่างเหอะ
พอเคานเตอร์เปิดเราก็ไปต่อแถว พอถึงคิว คำแรกที่พนง.บอกเราคือ "ไฟลท์นี้จะเลทประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ ไม่ทราบว่าผู้โดยสารมีนัดด่วนหรือว่ามีต้องต่อเครื่องไหมคะ" นี่ก็ปากไวไปตอบไปว่าไม่มี แล้วก็มานึกสงสัยว่า ถ้าตอบว่ามีนางจะทำยังไงกัน แฟนเราก็บอก ทำไมไม่บอกไปล่ะว่า มี ต้องนอนก่อนห้าทุ่มค่ะ ไม่งั้นผิวจะไม่สวย ร่างกายจะโทรม นั่นนี่ เขาคงเกลียดเราอะ ถ้าเราพูดไปแบบนั้น
เช็คอินเสร็จก็จะไปกินแซนวิชที่ร้านกาแฟแถวนั้น เสือกปิดแล้วอีก เลยต้องลงไปกินที่ร้านอาหารข้างล่าง ซึ่งก็มีอยู่ร้านเดียว ตกใจเล็กน้อยเอาจริงๆ คิดว่าจะเป็นแบบศูนย์อาหารไรงี้ แต่เปล่า เป็นร้านอาหาร 1 ร้านถ้วน ก็น่าจะเข้าใจได้เองตอนเห็นป้าย restaurant ที่ไม่มี s แล้วนะ ทำไมโง่ล่ะเจน ห๊ะ ทำไม??
กินเสร็จก็เข้าไปนั่งรอด้านใน ซึ่งก็มีแต่เพื่อนร่วมชะตากรรมค่ะ ไม่มีไฟลท์อื่นแล้ว ในใจก็คิดว่า เลท 1 ชม.ของนางคือการประมาณการไว้เฉยๆ จริงๆ อาจจะแค่ 30 นาที ไรงี้ สรุปคิดผิดจ้า พอนั่งกดดูไฟลท์เรดาร์ก็แบบอีห่า เลท 1 ชม. เป๊ะ อีสัส ส้นตีนสุด แบตโทสับก็จะหมด ก็ไปหาที่ชาร์จ ปลั๊กตามเสาตามกำแพงโดนจองเต็ม นี่เลยต้องไปชาร์จที่เคานเตอร์ชาร์จแบตของสนามบินที่มีแต่ช่อง USB ซึ่งแม่งก็ใช้เวลาชาร์จนานชิบหาย ไม่รู้มันจะนานอะไรขนาดนั้น เกือบ 45 นาที จากแบต 10% ได้มา 30% อห ชาร์จแบบประคับประคอง ชาร์จแบบประหยัดไฟ อยากชาร์จเต็มมึงไปชาร์จที่บ้านนะ บ๊ายยยย
พนง.สายการบินก็มานั่งจัดโต๊ะจัดของรอเพื่อเตรียมบอร์ดละ แต่เครื่องก็ยังไม่มา ต่างชาติทั้งหลายก็เดินมาส่องที่ริมกระจกทุกๆ 5 นาที นี่ก็นั่งชาร์จอยู่ตรงกระจกไง ก็รำคาญไง ไหนจะเด็กชุดสีชมพูที่มาเต้นๆๆๆๆ เป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าอยู่ตรงจอโฆษณาข้างๆ แล้วก็ร้องเพลงเสียงหลงๆ ไปด้วย ถัดไปตรงที่โล่งๆ ก่อนแถวเก้าอี้นั่งก็มีเด็กตี๋ประมาณ 3 คน วิ่งไล่กันไปมา ในใจนี่ก็คิดว่า ทำไมดึกแล้วเด็กมันยังไม่นอนกันวะ มันไม่ง่วงหรอ เหมือนยิ่งดึกมันยิ่งคึกอะ คนที่ง่วงน่าจะเป็นพ่อแม่ เพราะนางไม่ห้ามไม่ปรามอะไรแล้ว ปล่อยลูกวิ่งกรี๊ดๆๆๆๆ แบบไม่สนใจอะไรเลย พนง.สายการบินก็นั่งสางผมรอไป อธิบายชาวต่างชาติผู้เร่งรีบซ้ำๆ เป็นสิบๆ รอบ สงสารพวกนาง แต่นางควรย้ายไปทำงานสายฯ อื่นแล้วอะถ้าไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆ ทุกวัน สี่ทุ่มกว่าเครื่องก็มาค่ะ แล้วก็ลำใหญ่เนอะ กว่าคนจะลงกันหมด กว่าจะบอร์ด กว่าจะพร้อม ทุกคนหัวเสียในระดับเดียวกันแล้วอะตอนนั้น แต่พอเท้าเหยียบเครื่องเท่านั้น อีเพลงที่เปิดในเครื่องนี่แบบ fly for love ห่าไรไม่รู้ สวัสดีค่ะ ยัมมี่ๆ ฟู้ด วนไป อารมณ์เสียหนักกว่าเดิมเท่านึงเลยค่ะทีนี้ เครื่องขึ้นก็ไม่ได้นอนจ้า เข็น+ประกาศขายของ ขายนั่นขายนี่ ล้งเล้งๆ ปิ้งป่องๆ คือกูรำคาญญญญ กูไม่อยากได้เสื้อหรือหมวกหรือพวงกุญแจของสายการบินเมิงงงง กูอยากกลับไปนอนที่บ้าน ว้อยยยยยยยยยยยยยย
11:55 ก็แลนด์จ๊ะ แต่กว่าเครื่องจะวิ่งไปหาที่จอด (อันไกลแสนไกล) กว่าบันไดจะมา กว่าประตูเครื่องจะเปิด ซึ่งเพลงแม่งก็กลับมาอีก ทีนี้เจอสองเพลงเลยเพราะแม่งนานแสนนาน นานแบบไม่มีที่สิ้นสุด แถมมีเสียงเด็กร้องด้วยค่ะ ร้องตั้งแต่เครื่องเตรียมแลนด์จนออกมาจากเครื่องอะค่ะ ไม่รู้อะไรน่าทรมานกว่ากันระหว่างเสียงเด็กกับเสียงเพลง ตอนนั้นคือตาค้างแล้ว ไม่นอนแล้ว อยากฆ่าคนมากๆ เลยตอนนั้น
กว่าอีรถบัสจะไปถึงตึก กว่าจะเดินออกมา กว่าจะได้ขึ้นรถกลับบ้านก็ตอน 12:25 พอถึงบ้านก็ไม่ทำไรแล้วนอกจากกินยานอนหลับแล้วนอน แต่ก็เสือกนอนไม่หลับไง นอนจ้องเพดานวนไปจนกว่ายานอนหลับจะออกฤทธิ์ ทรมานชิบหายอะตอนนั้น เหนื่อยก็โคตรจะเหนื่อย แต่นอนไม่หลับ
Enjoy Flying! มากๆ จ้ะ ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายแล้วจ๊ะ ลาก่อน
ปล อีกอย่างที่ทำให้อารมณ์เสียก็คือตอนเช็คอิน เราเช็คพร้อมกับแฟน (นางเป็นฝรั่ง) เรายื่นบัตรประชาชนไปก่อน แล้วแฟนก็ยื่นพาสปอร์ต นางก็เช็คอินแฟนก่อน แล้วค่อยทำให้เราทีหลัง พอเสร็จนางก็ชี้บอกว่า เกทนี้นะคะ นี่นั่งอยู่นี่นะคะ ถ้าเปลี่ยนเกทจะมีประกาศนะคะ บลาบลาบลา นี่ก็โอเคค่ะๆ แล้วก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้นเพราะคิวมันยาว แต่พอมาอ่านชื่อตัวเองอีกทีก็หัวร้อนค่ะ นางใช้ "DOE / JANE MRS" -- MRS!!!!!! มึงบ้าป่ะ ไปด้วยกันไม่ได้หมายความว่าผัวเมียกันนะ พฤตินัยอะใช่ แต่ไม่นิตินัยไง ดูบัตรประชาชนชั้นสิ แหกตาดู แล้วอย่ามาโบ้ยว่าผิดตอนที่ชั้นจองตั๋วนะ เพราะของนกก็ MISS นะคะ หน้าบัตรประชาชนก็ น.ส. อะค่ะ นามสกุลก็คนละนามสกุลนะ ทำไมสาระแนอะ ห๊ะ ทำไม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in