ภาษาของผู้เขียนทำให้หนังสือเล่มนี้อ่านง่าย และอินค่อนข้างง่าย ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่ผู้เขียนเล่าถึงการเปิดบริษัทวันแรก ความวุ่นวายในวันนั้นถูกถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี จนทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยตาม เหมือนกับว่าผมได้วิ่งไล่แก้ปัญหากับเขาด้วยจริงๆ ส่วนตอนที่เขานั่งคุยกับเพื่อนชิวๆ ผมก็รู้สึกเหมือนได้นั่งร่วมโต๊ะสนทนากับเขาด้วย เรื่องราวในเล่มนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์ผมอยู่เยอะมาก โดยเฉพาะนักลงทุน และลูกค้า ซึ่งผู้อ่านที่ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อนอย่างผม ไม่มีทางคาดเดาคนสองประเภทนี้ได้ถูกเลย แม้ก่อนหน้านี้ผมคิดว่า ผมรู้จักคนสองกลุ่มนี้ก็ตาม โดยรวมแล้วผมคิดว่า เรื่องราวในเล่มค่อนข้างครบรส เข้มข้น สนุก และแอบตลก

เนื้อหาที่ไล่เรียงมาทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ทำให้ผมได้เข้าใจวิธีการคร่าวๆ ของการเริ่มต้นทำธุรกิจ จะว่าไปการอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ผมได้เห็นมุมมองเจ๋งๆ ในการทำธุรกิจหลายอย่างอยู่เหมือนกัน เช่น การทำธุรกิจเมสเซนเจอร์ที่ไม่ต้องทำแอปพลิเคชันเอง มันเป็นอะไรที่แปลกดี ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย นอกจากนั้นหนังสือเล่มนี้ยังทำให้ผมมีความเข้าใจคำว่า "ธุรกิจ" มากขึ้นด้วย เพราะผมแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการทำธุรกิจเลย ส่วนสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดจากหนังสือเล่มนี้ก็คือ กลยุทธ์การทำมาร์เก็ตติ้งต่างๆ ถึงแม้ว่าบางอันจะใช้ไม่ได้ผลก็ตาม ฮ่าๆๆ

ใครที่คิดจะทำธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นของตัวเอง ควรลองอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อเป็นแนวทางก่อนลงมือทำ เพราะหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมหลากหลายรสชาติที่คนทำสตาร์ทอัพต้องพบเจอ รวมถึงข้อผิดพลาดที่ผู้ทำสตาร์ทอัพรายใหม่ไม่ควรทำพลาดซ้ำอีก เราอาจจะใช้หนังสือเล่มนี้ตรวจสอบความพร้อมของเราก่อนก็ได้ เพื่อที่จะได้ลุยทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใครที่ไม่ได้อยากทำธุรกิจสตาร์ทอัพของตัวเอง แต่อยากรู้ถึงความรู้สึกของการเป็นเจ้าของกิจการดูสักครั้ง เล่มนี้เหมือนจะตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง เพราะผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่า ผมได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขก่อตั้งบริษัทกับเจ้าของหนังสือเล่มนี้จริงๆ

คำเตือน หนังสือเล่มนี้อาจทำให้มุมมองของคุณกับพนักงานเมสเซนเจอร์เปลี่ยนไป ???