เจอหน้า Brad Pitt บ่อยเหลือเกินครับช่วงนี้ ก็ตั้งแต่ Once Upon a Time in Hollywood (ที่ชอบมากๆ) ผมก็ได้มีโอกาสดู Moneyball (ซึ่งก็ชอบมากๆเช่นกัน) พอมาเรื่องนี้ ก็คิดว่าคงชอบมากๆอีกแน่เลย ทำแฮททริคไปเลย แต่ไม่เป็นแบบนั้นแฮะ...

Ad Astra พาเราไปติดตามชีวิตของ รอย แม็คไบรด์ (Brad Pitt) นักบินอวกาศที่ได้รับมอบหมายภารกิจให้เดินทางไปยังดาวอังคาร เพื่อติดต่อกับ คลิฟฟอร์ด (Tommy Lee Jones) ผู้เป็นพ่อที่เขาคิดว่าเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว และในขณะเดียวกันก็ต้องหาทางไขปริศนาการหายตัวไปของพ่ออีกด้วย

เอาแบบกระชับๆเลยนะครับ , หนังกำกับโดย James Gray ซึ่งผมไม่เคยดูหนังแกมาก่อนเลย แต่พอทราบสไตล์ว่าชอบทำหนังแนวดราม่า มาเรื่องนี้ก็ดราม่าจัดๆเลยครับ มีไซไฟเป็นธีมบังหน้า แต่ตัวหนังจริงๆโฟกัสไปที่การสำรวจจิตใจของตัวละคร แฝงด้วยปรัชญาว่าด้วยการดำรงอยู่ของมนุษย์แบบเบาๆ ส่วนนี้หนังทำออกมาได้ดี

แต่ปัญหาหลักๆเลยก็คือ หนังช้ามาก เนือยเนิบจนน่าเบื่อ ผมแทบหลับเลยพูดตรงๆ ยังดีที่ดีไซน์โลกในหนังมันน่าสนใจมาก ไฮเทคน้องๆ Blade Runner เลยแหละ คือเค้าเซ็ตโลกขึ้นมาในยุคอนาคต ที่ซึ่งการเดินทางไปอวกาศเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์ ตรงนี้ดีไซน์เจ๋งมากๆ แล้วก็มีการแสดงของพี่แบรดที่พอจะดึงความสนใจจากผมไปได้ในระดับนึง แต่พูดตรงๆเลยว่าหนังมันเข้าถึงยากใช้ได้เลยแหละ ทั้งการเล่าเรื่องที่น่าเบื่อ ไปจนถึงการแทรกสัญลักษณ์และนัยยะต่างๆในบทสนทนา

แต่หนังดูไม่ยากนะ เล่าเรื่องแบบ linear ตรงๆทื่อๆเลย เพียงแค่คุณอาจจะไม่เก็ตสิ่งที่มันต้องการจะสื่อเท่าไร แม้รวมๆหนังจะช้ามาก แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเขาพยายามแทรกฉากแอ็คชั่น (ที่ไม่ได้ตูมตามอะไร และมีน้อยมากๆ) และปมต่างๆที่น่าสนใจพอที่จะยึดสมาธิคนดูไว้ได้อยู่ เรื่องนี้ผมไม่รู้จะแนะนำยังไง เพราะหนังไม่เหมาะสำหรับทุกคน เอาเป็นว่า ถ้าไม่ชอบหนังน่าเบื่อๆ ข้ามไปได้เลยครับ ผมคิดว่าหลับแน่ๆ (ผมเองก็เกือบไป) แต่ถ้าชอบงานภาพสวยๆ ปรัชญาในการใช้ชีวิต หรือหนังอวกาศแบบ 2001: A Space Odyssey ควรลองดูครับ (ดู IMAX ภาพน่าจะออกมาสวยมากกกก) แต่สำหรับผม การได้ดูเรื่องนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกและท้าทายมากๆแล้วครับ

ปล. : ขออภัยด้วยครับหากเขียนงงๆ ผมมึนกับหนังตั้งแต่ออกจากโรงมาเลย 55555

Directed by: James Gray

Written by: James Gray & Ethan Gross

Genre: Drama, Sci-Fi

Runtime: 122 mins

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ^^