“ไม่เห็นมีอะไรน่าตลกเลยนะแก” เสียงหงุดหงิดปนน้อยใจของยิวาพึมพำขึ้น ท่ามกลางบรรดาเพื่อนในกลุ่มที่กำลังหัวเราะขบขันพร้อมเอามือป้องปากกันมุบมิบ
“อ้าว ก็ฉันนึกว่าแกชอบเห็นแกขำ” เตยแทรก
“จริงแก พวกผู้ชายอ่ะ เขาก็ชอบคนอวบ ๆ แบบแกทั้งนั้นแหละเลยพูดแซวกัน น่ารักดีออกนะ” “แซวหรอ ฉันว่ามันคือการดูถูกทางอ้อมมากกว่า ถ้าเขาพูดถึงรูปร่างฉันแล้วทำให้ฉันรู้สึกดีก็ว่าไปอย่าง” ยิวาเบ้ปาก
“แกเลิกคิดมากเหอะ ปล่อยให้เป็นเรื่องขำ ๆ ไปดีกว่า เห็นมั้ย พอแกซีเรียสทุกคนเขาก็ทำอะไรไม่ถูกกันไปหมด” โบว์ว่าพลางเก็บเครื่องเขียนใส่กระเป๋าใบหรู
“แก ไปเรียนกัน ถึงเวลาพอดี” แล้วบทสนทนาก็ถูกตัดฉับลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนสีขาวหม่นนั้น ทิ้งเป็นคำถามให้ยิวาไม่เข้าใจ ว่าทำไมการที่ตัวเองถูกหยิบยกขึ้นมาให้เป็นที่วิจารณ์โดยไม่ยินยอมถึงจะต้องกลายเป็นหัวข้อที่ใคร ๆ ก็หัวเราะไปกับมัน
อืม แต่ฉันเองก็หัวเราะกลบเกลื่อนกับประโยคนั้นเหมือนกันยิวาคิดในใจ
“ยิวา ดูอวบขึ้นนะไปทำอะไรมา หรือว่าเครียดป่าวเลยเอาแต่กิน” ประโยคทักทายของปอนด์ดังขึ้นทันทีที่ยิวาก้าวเข้าห้องเรียน
ไอนิสัยการพูดพวกนี้มันถูกฝังมาแต่เหง้าไหนกัน ฉันอยากจะกรีดร้อง แล้วตะโกนใส่หน้ามันว่าหุบปากไปซะ ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นยังไง ในเมื่อบ้านฉันก็มีกระจก
“สงสัยคงเครียดจริงๆ น่ะนะ” แต่สิ่งที่ฉันทำก็แค่หัวเราะกลบเกลื่อนแล้วพูดตื้นเขินไปอย่างเดิม
“มึงว่า ทำไมยิวาถึงอยู่กลุ่มนั้นได้วะ โคตรไม่เข้ากันอ่ะ” เสียงซุบซิบจากปอนด์พาให้เพื่อนๆ มาล้อมวงพูดด้วย
"ใครจะไปรู้ อาจจะอยากดังป่าวมึง”
“กูว่าไม่หรอกมั้ง ก็คงมีประโยชน์ไรสักอย่างกับเพื่อนอ่ะ อาจจะเรียนเก่ง คอยทำการบ้านให้งี้”
“มึงดูละครมากไปละ กูว่าเขาคบกันก็เพราะเป็นเพื่อนกันมานานน่ะแหละ”
“มึงก็มองแง่ดีจังวะ พวกมึงลองคิดตามกูนะ แต่ละคนในกลุ่มนั้นอ่ะ แม่งมีแต่คนสวย ๆ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ทั้งนั้น พอมารวมตัวกันนี่อย่างกับเราตายแล้วลืมตามาอยู่ในสวรรค์เลยนะเว้ย แต่กับอีกคน
ทั้งอ้วน ขาลาย แถมยังเป็นสิวอีก”
“ยึ๋ย ๆ” เพื่อนในกลุ่มต่างพากันทำท่าขนลุกขนพอง เสียงซุบซิบและเสียงหัวเราะเหล่านั้นอาจจะเบาเกินกว่าจะให้ได้ยินทั้งชั้นเรียน แต่สำหรับยิวาแล้ว เธอกลับได้ยินดังเต็มสองหูอย่างกับเรื่องเหล่านั้นมันกำลังถูกประกาศออกไมค์อยู่
เธอก้มหน้าลงช้า ๆ ค่อย ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่แม่ทะนุถนอมถักให้เป็นของขวัญ
วันเกิด เธอพับมุมผ้าแล้วใช้ซับน้ำตาที่เอ่ออยู่จนล้น เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอร้องไห้แม้แต่เพื่อนสาว
กลุ่มเดียวกันที่นั่งถัดจากเธอไปเพียงเก้าอี้เดียวก็ตาม
ยิวากลับถึงบ้านด้วยท่าทีอิดโรย เพราะตลอดทั้งวันนี้เธอต้องสูญเสียน้ำในร่างกายไป เธอทิ้งตัวลง
บนเตียงและถอนหายใจ
“เฮ้อ วันนี้มันแย่จัง” ยิวานอนมองเพดานว่างเปล่าอยู่พักใหญ่ เธอเหลือบไปเห็นกระจกที่วิบวับกว่าปกติเพราะแสงเย็นจากดวงอาทิตย์สาดส่อง ยิวาเดินไปที่กระจกและสำรวจตัวเอง เธอเริ่มเอาหน้าเข้าไปใกล้กระจกมากขึ้น มากขึ้น ใช้นิ้วมือละเลียดใบหน้าของตัวเองทีละน้อย หน้าผากที่มีแต่หลุมสิว ทั้งรอยแดง รอยดำประปรายปนกัน คิ้วที่หนาและดกดำ ยิวาลูบจมูกของตัวเองช้าๆ เธอแตะริมฝีปากที่แตกระแหง เพราะไม่เคยถูกบำรุงเลยแม้แต่ครั้งเดียว เธอไม่เคยอยากมีหน้าตาเหมือนกับโบว์หรือรูปร่างเหมือนอย่างเตย
เธอไม่เคยมีความรู้สึกอิจฉาเพื่อน ๆ และไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแตกต่าง จนกระทั่งวันนี้ วันที่มีคนมากมายมาบอกว่าเธอเป็นใคร ฉันเกลียด เกลียดที่ถูกตัดสินจากภายนอก ทั้งที่เราทุกคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบบไหนเรียกว่าสวยหรือน่าเกลียดจริง ๆ ฉันรู้สึกแย่และเสียใจ เกินกว่าจะบอกว่ามันมากมายเท่าไหร่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in