คืนวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565
เธอลดไมค์ลงและกลับมาอยู่ในความตื่นตระหนกอีกครั้งหลังจากที่ได้รับแจ้งข้อมูล ทีมข่าวก็รุดมายังที่เกิดเหตุ
"เฮ้อเป็นนักข่าวภาคสนามนี่ไม่มีคำว่าเหนื่อยน้อยลง มีแต่เหนื่อยกว่าเดิมจริง ๆ "เธอบ่นพลางกอบไรผมที่หล่นลงจากมวยเพราะความเร่งรีบ
"เอาหน่าทำมาตั้งนานแล้ว อย่าท้อสิ พี่ท้อทีไรก็ชอบคิดจะทิ้งคู่หูอย่างผมอยู่เรื่อย"
"นี่ฉันจะบ่นบ้างไม่ได้เลยว่างั้น หรือจะบอกว่าแกไม่เหนื่อย"
เขานั่งพักและเริ่มสังเกตสิ่งรอบตัวความกระวนกระวายใจของผู้ที่อยู่บนโป๊ะเรือนี้ดูเป็นอารมณ์เดียวกันที่สามัคคีที่สุดแต่สิ่งที่สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด คือผู้ที่โทรแจ้งเหตุ พวกเขาดูกังวลใจอยู่ภายในตรงข้ามกับสีหน้าที่เรียบเฉย
"พี่นั่นเพื่อนเขาเหรอ"
"หืม"บุศรามองกวาดไปตามสายตาของธัน "อือใช่ ทำไมหรอ"
"เขาดูไม่ค่อยร้อนใจเลยเนอะเพื่อนตกน้ำทั้งคน" เพี๊ยะ บุศราตีแขนธันเสียงดัง
"โอ๊ยตีผมทำไมเนี่ย เจ็บนะ" ธันลูบแขนคลายความแสบร้อน
"แกอย่าไปสุ่มสี่สุ่มห้าพูดนะมันมีผลต่อรูปคดี บางทีถ้าแกสงสัยมั่ว ๆ แล้วใครมาได้ยินเข้าคงแย่เลย"เธอย่นคิ้วใส่
"พี่ก็แล้วมันจริงไหมล่ะ ดูเพื่อนเขาสิทำท่าจะกลับบ้านแล้วนั่นชาวบ้านแถวนี้เขายังมายืนรอดูเจ้าหน้าที่หาร่างเลย แปลก"ประโยคที่ธันพูดทำให้บุศราหยุดคิด เธอเริ่มเพ่งจุดสนใจไปที่เพื่อนของผู้ประสบเหตุเธอมองอยู่พักใหญ่และเกิดความคิดที่ว่า ที่ธันพูดมันก็จริง
นาฬิกาเบนเข็มมาที่เวลาแปดโมงตรงแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบดาราสาวท่านนี้เลย พอนกออกหากินฝูงไทยมุงต่างทยอยกันมาทึ้งดู คล้ายว่าจะเอาใจช่วย แต่ก็มีบ้างตามประสาที่ต้องการโต้คลื่นด้วยการไลฟ์สดลงช่องทางต่างๆ ไม่นานนักพระอาทิตย์ก็ส่องตรงลงที่หัว เดาตามหลักทางวิทยาศาสตร์ด้วยเวลาที่ล่วงเลยมาขนาดนี้ หากจมน้ำจริงเจ้าตัวก็น่าจะดิ่งลงไปใต้ท้องน้ำพร้อมที่จะสูบลมเพื่อพองขึ้นมาแต่ผู้คนก็มักจะหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยความหวังเสมอ ทั้งทวิตเตอร์เฟสบุ๊คและอินสตราแกรม ทุกพื้นที่ถูกสอดแทรกด้วยประโยคที่อธิษฐานให้เธอปลอดภัยทีมนักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งหาอย่างเต็มที่แทบจะทั้งความกว้างของแม่น้ำเหยียบสายจนคล้อยบ่ายก็ยังไม่พบ ผู้คนเริ่มหมดหวังและหาที่ยึดเหนี่ยวใหม่อีกครั้งมีผู้จุดประเด็นเรื่องน่าสงสัยในอุบัติเหตุของดาราสาวนางนี้
"มีพิรุธนะ""แก มันไม่แปลกไปหน่อยหรอเพื่อนหายไปทั้งคนแต่ขอกลับบ้านก่อน" ท่ามกลางไอร้อนที่ถูกเรียกให้ระอุขึ้นมาข้อมูลก็เริ่มปรากฎขึ้นทีละนิด ราวกับว่าพิรุธเหล่านั้นเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญแม่ดาราชื่อดังขึ้นเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัวไปกับเพื่อนสาวที่สนิทและชายแปลกหน้าอีกสามคนแม้ว่าจะฟังดูเป็นความสำราญทั่วไปที่ผู้มีอันจะกินพึงทำเป็นปรกติแต่นั่นคือความไม่ปรกติเพราะชายแปลกหน้าที่ว่านั้นถูกสืบสาวว่าเป็นถึงลูกหลานผู้มีอิทธิพลไม่ทันที่จะมีคำประกอบการใด ๆ ชาว 4G ทั้งหลายก็คบคิดร่วมกันราวกับเป็นยอดนักสืบโคนัน
"ฉันว่าเขาอาจจะเอาไปซ่อนหรือเปล่า"
"หรือที่จริงจะถูกฆาตกรรมแล้วเอาเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการโทรแจ้งว่าจมน้ำ"
"ฉันว่าอาจจะกลับมาพร้อมกับแผลเต็มตัวก็ได้""ถ้าเป็นห่วงจริงก็ต้องรีบมาให้การกับตำรวจเพื่อเร่งคดีมั้ย"คำพิพากษาและขานเล่าถูกแพร่ไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งติดเทรนด์อันดับหนึ่งของแอปทวิตเตอร์
"ใช่ว่าโชคชะตาที่จะเล่นตลกกับเราเสมอแต่กลับเป็นผู้คนรอบตัวเรา หรือตัวเราเองต่างหาก"
"
"คุณเชื่อในคำวิจารณ์หรืออะไรที่เขาคาดเดากันไหมคะ"
"ค..ครับ"ชายหนุ่มเอียงคอสงสัยและเกาหัวแกรก ๆ เพราะเต็มไปด้วยความไม่รู้ไม่รู้ว่าเธอคือใคร ไม่รู้ว่าเธอพูดถึงอะไร
"ฉันพึ่งได้จะมายืนมองอยู่บนท่าเรือวุ่นวายเหมือนกันนะคะ" เธอยังคงพูดต่อไป
"ถ้าเป็นคนธรรมดาจะมีผู้คนเอาใจช่วยกันตามหาขนาดนี้หรือเปล่านะ"ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจว่าเธอกำลังขับเข้าประเด็นของดาราสาว แหงสินะยืนอยู่ที่เกิดเหตุแท้ ๆ ก็คงพอเดาได้ไม่ยาก
"ครับผมก็ว่าอย่างนั้น" ชายหนุ่มสังเกตรูปร่างของเธอ พยายามมองใบหน้าให้ชัดเจนแต่แสงแดดก็จ้าเสียจนไม่เห็นแม้กระทั่งเงาหัวของเธอมันถูกเปล่งด้วยลำขาวของดวงอาทิตย์
"ผมว่าคนเราไว้ใจไม่ได้หรอกแม้จะดูสนิทกันแค่ไหน เราทุกคนก็รักแต่ตัวเอง" เขาพูดตามความเข้าใจหลังจากได้ฟังเสียงของผู้คนที่วิจารณ์หัวข้อดาราสาวอย่างสนุกปาก
"แต่เราก็ควรมีความหวังนะคะความหวังที่จะหล่อเลี้ยงเรา แม้ว่าเราจะผิดหวัง"
"มันคงทำให้หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น"ชายหนุ่มพูดเสริม
"หรือไม่ก็เลวลง"เธอพูดแผ่วพร้อมถอยฝีเท้าคล้ายกำลังจะจากไป
"คุณชื่ออะไรหรือครับ"เขาโพล่งถาม พร้อมกับลมที่พัดกระโปรงของเธอเบา ๆ เป็นริ้วระยับและรองเท้าแตะหูหนีบสีขาวคู่นั้น ก่อนเธอเดินคล้อยหลัง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in