ดินเป็นคนติดหมอนข้าง
ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
จะผ่านไปกี่ปี มันก็ยังคงเป็นแบบนี้
ตั้งแต่วันที่เขาเลือกที่จะทิ้งหมอนข้างใบโปรดลงไปไว้ที่พื้น ให้พื้นที่ของเตียงชั้นสองแคบๆนั่นมันเยอะพอสำหรับสองคนนอน
เพราะต้องเปลี่ยนจากหมอนใบที่เพิ่งปามันทิ้งไปเมื่อครู่ เป็นร่างผอมๆของเพื่อนสนิท เพื่อที่เขาจะได้นอนหลับก่อนเที่ยงคืนเสียที
และใช่ มันได้ผล
จนถึงตอนนี้ เตียงกว้างกว่าเดิมเพราะย้ายหอมาตั้งแต่เข้ามหาลัย พฤติกรรมก็ยังไม่เปลี่ยน
.
.
หรือแค่ไม่คิดจะเปลี่ยนมันกันแน่?
.
.
“ไปไหน”
ผมเอ่ยถาม ท่ามกลางความมืด ทั้งที่ยังหลับตาอยู่นั่นแหละ
จริงๆก็รู้สึกถึงแรงขยุกขยิกมาซักพักแล้ว จนมั่นใจว่าเพื่อน ที่ตอนนี้มีสถานะเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างเป็นหมอนข้างทำท่าจะลุกออกไป
“ก็กลับไปนอนที่เราไง”
ผมขมวดคิ้ว จนใจลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ส่งมือมาขยี้ตานิดหน่อย
กำลังจะหลับแล้วแท้ๆ
“ไม่ต้องไป”
“อ้าว”
“กลับมา ไม่ต้องไปแล้ว”
“แต่ดิน—“
มันยากนิดหน่อยที่จะพูดให้รู้เรื่องในตอนที่รู้สึกง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
“ไม่ต้องลุกกลับไปนอนที่เดิมแล้ว อยู่แบบนี้แหละ”
ผมไม่มั่นใจว่าพูดออกไปถูกไวยากรณ์ หรือใช้คำศัพท์ถูกต้องหรือเปล่า
จะเผลอพูดอะไรชวนเข้าใจผิดไปหรือเปล่า
แต่ตอนนั้นใครมันสนกัน
.
.
ไม่รู้ไม่ชี้แล้ว
เตือนแล้วนะ
มาทำให้ติดเอง
อยู่รับผิดชอบไปเลยทั้งคืน
.
.
(ข้ออ้างทั้งนั้นแหละ จริงๆกอดหมอนข้างใบเก่าก็ได้)
((ไม่รู้ไม่ชี้แระ))
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in