เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Random postshashine_miharu
ป่า
  • Novelber 2017
    DAY 1 : ป่า

                หมู่บ้านของฉันอยู่ชายป่า ฉันเติบโตมาท่ามกลางเสียงนกร้องและเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันตามแรงลม หมู่บ้านของฉันมีบ้านไม่กี่หลังและทุกคนรู้จักกันหมด ครอบครัวที่อยู่บ้านข้าง ๆ บ้านฉันมีลูกชายคนหนึ่ง อายุมากกว่าฉันราว ๆ เจ็ดแปดปีได้ ด้วยความที่บ้านอยู่ข้างกัน เราจึงสนิทกันมาก เวลาที่ฉันเรียก พี่เขาก็จะหันมาพร้อมด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ตามด้วยสัมผัสอ่อนโยนจากมือของเขาที่ลูบบนเส้นผมของฉัน ฉันมักจะไปหาพี่บ่อย ๆ จนหลายครั้งแม่ก็ส่ายหน้าให้ฉันตอนที่ฉันบอกว่าจะไปหาพี่ แม่บ่นพึมพำทำนองว่า ตกลงแล้วฉันเป็นลูกบ้านไหนกันแน่

                พี่มักจะมีอะไรมาให้ฉันตื่นเต้นอยู่เสมอ อันที่จริง ชีวิตที่แสนราบเรียบของชาวบ้านในชนบทดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้น แต่พี่เป็นคนที่ค้นพบความพิเศษภายใต้ความธรรมดาเหล่านี้ ตัวฉันตามประสาเด็กน้อยก็ตื่นตาตื่นใจไปกับทุกอย่างที่พี่ทำ มีวันหนึ่งที่เราเดินเล่นอยู่ที่ชายป่า ลมพัดแรงจนพาเอาใบไม้หลุดปลิวจากต้น ใบไม้มากมายลอยคว้างอยู่รอบตัวเรา พี่ยื่นมือออกไปจับใบไม้ไว้ได้ใบหนึ่ง แม้ฉันจะไม่รู้ว่านั่นเป็นใบอะไร แต่รูปร่างและสีเขียวสดใสของมันยังชัดเจนในความทรงจำ พี่จรดริมฝีปากลงบนใบไม้และเป่าจนเกิดเป็นเสียงเพลง ฉันพยายามลองทำตามแต่กลับมีแค่เสียงลมพ่นออกมาที่ฟังแล้วดูตลก เสียงหัวเราะของพี่ดังขึ้นหลังจากเสียงนั้น

                แม่มักจะเล่านิทานให้ฉันฟังก่อนนอน ไม่รู้ว่าแม่เอาเรื่องราวจากไหนมาเล่า เรื่องราวนั้นมีมากมายและไม่ซ้ำกันเลย แต่ในทุก ๆ เรื่องราวจะต้องมีนางฟ้า หญิงสาวแสนสวยที่มีปีกสีขาวบริสุทธิ์ เสียงพูดอ่อนหวาน ร้องเพลงไพเราะ สถิตอยู่บนสวรรค์และลงมาที่โลกบ้างเป็นครั้งคราว แม่บอกว่าถ้าเป็นเด็กดีนางฟ้าจะให้พรและปกป้องคุ้มครอง ฉันฟังเรื่องเล่าแล้วก็คิดสงสัยในใจ นางฟ้ามีจริงไหม ฉันมีนางฟ้าคุ้มครองไหมนะ จะมีทางที่จะเจอนางฟ้าไหม อยากเห็นว่านางฟ้าจริง ๆ เป็นอย่างในเรื่องที่แม่เล่าหรือเปล่า วันหนึ่งที่ฉันออกไปเดินเล่นกับพี่ ฉันก็พูดเรื่องนางฟ้าให้เขาฟัง พี่ว่านางฟ้ามีจริงไหม ฉันในตอนนั้นถามด้วยความใสซื่อ พี่ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มบาง มีสิ 

                ฉันตื่นเต้นทันที พี่กวักมือให้ฉันแล้วก้าวเท้านำเข้าไปในป่า ฉันเดินตามไปไม่ไกลนักเราก็มาถึงลานโล่ง ๆ ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นตรงนี้เลย มีแค่พื้นหญ้าสีเขียวสด พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่เดียวในบริเวณนั้นที่แสงแดดได้มีโอกาสลงมาทักทายพื้นป่าได้อย่างเต็มที่ ที่พื้นมีวัตถุบางอย่างกลม ๆ สีขาวหลายอันเรียงตัวกันเป็นวงกลมวงใหญ่รอบลานโล่งนั้น ฉันมองภาพนั้นราวกับต้องมนตร์ พี่บอกว่านี่คือวงแหวนของนางฟ้า นางฟ้าจะมาเต้นรำและร้องเพลงรอบ ๆ ลานแห่งนี้ พอฉันมองดูใกล้ ๆ ก็พบว่าวัตถุที่เรียงกันเหล่านั้นคือเหล่าต้นไม้สีขาวเล็ก ๆ ดูน่ารัก พี่บอกว่านี่คือสิ่งที่เท้าของนางฟ้าฝากเอาไว้ยามเมื่อเหยียบย่ำลงบนพื้นดินขณะเต้นรำ ฉันถามพี่ว่าเมื่อไหร่นางฟ้าจะมาเต้นรำอีก พี่บอกว่าไม่มีใครรู้ ถึงนางฟ้าจะมาจริง ๆ เราก็ไม่สามารถมองเห็นได้ นางฟ้ามักไม่ปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นหากไม่จำเป็น

                ด้วยความเยาว์วัยฉันจึงเชื่อเรื่องราวนั้นอย่างไม่มีข้อสงสัย ถึงพี่จะบอกว่านางฟ้าจะไม่ปรากฏตัวให้เห็น แต่ฉันก็ยังหวังว่าจะได้พบนางฟ้า ฉันจึงไปที่ลานโล่งนั้นบ่อย ๆ ส่วนมากก็ไปกับพี่ บางครั้งฉันก็ไปคนเดียว แต่ฉันก็ไม่เคยพบนางฟ้าเลย หรือว่านางฟ้าจะแอบมาตอนกลางคืนกันนะ สารพัดคำเตือนต่าง ๆ ของผู้ใหญ่หลั่งไหลเข้ามาในหัว ป่าตอนกลางคืนนั้นอันตราย สัตว์ป่าที่ดุร้ายหลายชนิดจะออกมาหากิน ความมืดที่เข้าปกคลุมก็จะทำให้หลงทาง สรุปแล้วไม่ควรเข้าไปในป่าตอนกลางคืนไม่ว่าในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ลานเต้นรำของนางฟ้าที่พี่พาไปนั้นไม่ได้เข้าไปในเขตป่าลึก ฉันคิดในใจ แล้วฉันก็ไปบ่อยเสียจนจำทางได้แล้ว ไปแค่ครู่เดียวคงไม่เป็นไร

                ฉันค่อย ๆ ย่องออกจากบ้าน ตรงไปยังป่า มุ่งหน้าไปยังลานเต้นรำของนางฟ้า เสียงลมพัดผ่านใบไม้ในเวลานี้ฟังดูเหมือนเสียงคนกระซิบกระซาบกัน ฉันเริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะไปต่อ เมื่อฉันเห็นกลุ่มต้นไม้เล็ก ๆ สีขาวอยู่ลิบ ๆ ภายใต้แสงจันทร์ ฉันก็เร่งฝีเท้าจนเริ่มเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้พอที่จะมองเห็นใครบางคนยืนอยู่บริเวณนั้น ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่ฉันคาดหวัง แต่เป็นผู้ชายสี่คน ฉันชะงักฝีเท้าทันที คนพวกนั้นยังไม่เห็นฉัน ฉันจึงรีบเข้าไปแอบหลังต้นไม้แถว ๆ นั้น

                หนึ่งในนั้นคือร่างผอมเก้งก้างของเด็กที่กำลังโตเป็นหนุ่ม คนที่ฉันเห็นมาตั้งแต่จำความได้ พี่นั่นเอง ดูเหมือนพี่กำลังเถียงอะไรสักอย่างกับชายอีกสามคน การโต้เถียงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในสามคนนั้นเหวี่ยงหมัดใส่พี่จนล้ม ฉันเอามือปิดปากด้วยความตระหนก ก่อนที่พี่จะลุกขึ้นมาได้ อีกคนหนึ่งก็หยิบปืนขึ้นมาและเล็งไปที่พี่ เสียงดังกึกก้องราวกับฟ้าคำราม พี่ล้มลง เลือดของพี่ย้อมต้นไม้สีขาวของนางฟ้าให้กลายเป็นสีแดงฉาน

                ฉันจำเหตุการณ์ต่อจากนั้นไม่ค่อยได้ ทุกอย่างดูพร่ามัว ชิ้นส่วนของความทรงจำกระจัดกระจายจนไม่อาจรวมกันเป็นภาพที่ชัดเจนได้ บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่ฉันเห็นในป่าเป็นแค่ฝันร้าย เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่สิ่งที่เตือนให้ฉันตระหนักได้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริงคือการที่พี่ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว เหลือเพียงรูปขาวดำของพี่และโกศใส่เถ้ากระดูก แม้จะเป็นเพียงรูปขาวดำ แต่รอยยิ้มของพี่ก็ยังคงสว่างไสวดังเช่นที่ฉันเคยเห็น

                ชีวิตของพี่สำหรับคนพวกนั้นเป็นเหมือนผักปลา คนที่จ้องจะหาผลประโยชน์จากผืนป่าก็แค่กำจัดออกไปให้พ้นทางได้อย่างง่ายดาย ไม่สนใจอะไรนอกจากตักตวงสิ่งที่ตัวเองต้องการจนพึงพอใจแล้วก็จากไป

               เรื่องราวที่พี่เคยเล่าให้ฟังเป็นทั้งความทรงจำอันแสนสวยงามและความเจ็บปวดในคราเดียวกัน ฉันยืนอยู่ที่ลานกว้างที่เดิม แต่ไม่มีวงแหวนนางฟ้าอีกต่อไปแล้ว เมื่อความชุ่มชื้นของผืนป่าหายไป เห็ดก็ไม่อาจจะเจริญเติบโตต่อไปได้ ใช่ ต้นไม้สีขาวของนางฟ้าในความทรงจำวัยเด็กของฉัน จริง ๆ แล้วคือเห็ด วงแหวนนางฟ้าไม่ได้เกิดจากการย่ำเท้าของนางฟ้าที่ไหน หากแต่เป็นของขวัญที่ป่ามอบให้กับพื้นดิน

                ฉันยืนอยู่ที่ลานนั้นเป็นเวลานาน น่าแปลกที่มีลมพัดหอบเอาใบไม้มาจากที่ใดก็ไม่อาจทราบได้ ใบไม้ลอยเคว้งคว้างอยู่รอบตัวฉัน ฉันหลับตาลง ภาพจากความทรงจำปรากฏเด่นชัด ราวกับว่าได้ยินเสียงเพลงแบบเดียวกับที่พี่ใช้ใบไม้เป่า และเสียงหัวเราะของพี่ ฉันยื่นมือออกไปข้างหน้า เมื่อลืมตาอีกที ฉันก็มีใบไม้สีน้ำตาลแห้ง ๆ อยู่ในมือ ฉันกำมือ ใบไม้แห้งกรอบแตกสลายอยู่ในอุ้งมือของฉัน

              นางฟ้าไม่มีจริง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in