จองเซอุนมองกระดาษแผ่นน้อยในมือที่อิมยองมินเป็นคนเขียนให้ ดวงตากลมโตของเขาละจากแผ่นกระดาษมามองรอบๆ ตัวที่เป็นพื้นที่หมู่บ้านชนบท แม้จะอยู่ในเมืองลอนดอน แต่เพราะอยู่ชายขอบ หมู่บ้านแห่งนี้เลยค่อนข้างเงียบสงบ บ้านแต่ละหลังนั้นจะค่อนข้างอยู่ห่างจากกัน หญ้าเขียวชอุ่ม มีต้นไม้ร่มรื่น ยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีด้วยแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้เลยไม่ต่างไปจากเมืองในฝัน
ในกระดาษเขียนเอาไว้ว่าให้หาบ้านหลังสีขาวชั้นเดียวที่มีสวนกุหลาบ และต้นแอปเปิ้ลที่ปลูกเรียงติดกันสามต้น
บ้านนั้นหรือเปล่านะ — จองเซอุนยืนชั่งใจ มองบ้านหลังหนึ่งที่มีลักษณะตรงตามที่บรรยาย พอรวบรวมความกล้าได้ เขาก็สาวเท้าตรงไปยังบ้านหลังนั้น เดินผ่านรั้วเตี้ยๆ ที่สูงเพียงแค่เอว เดินตัดผ่านกลางระหว่างสวนกุหลาบ จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านของลูกค้าที่ต้องการให้ร้านของอิมยองมินมาส่งของ
กิ๊งก๊อง
เสียงกริ่งดังขึ้นหลังจองเซอุนกดกริ๊งเรียกคนในบ้าน เพียงไม่นาน เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักก็วิ่งมาเปิดประตูให้
เธอแหงนหน้ามองจองเซอุนงงๆ ขณะที่กอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ไปด้วย
“ใช่บ้านของคุณเอ็ดเวิร์ดหรือเปล่าครับ” จองเซอุนถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นมิตรที่สุด ย่อตัวลงต่ำ เพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับเด็กน้อย
“คุณพ่อออกไปซื้อของข้างนอกค่ะ อยู่แค่คุณแม่กับแอนนา” เธอตอบ กอดตุ๊กตาหมีที่เป็นเพื่อนรักแน่นกว่าเดิม
“ไม่เป็นไร พี่ชายแค่มาส่งของ ยังไงแอนนาช่วยรับเอาไว้แทนได้ไหม” จองเซอุนบอก หยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลที่มีสัญลักษณ์โครเวอร์สี่กลีบบนถุงยื่นส่งให้อีกฝ่าย
“ว้าว! คุกกี้!” แอนนาตาโตทันทีเมื่อเห็นสัญลักษณ์บนถุง เธอร้องเสียงดีใจ รีบรับไปถือไว้ “ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่ชาย ไว้เจอกันใหม่นะคะ”
“ครับ ไว้เจอกัน” จองเซอุนโบกมือให้เด็กน้อยน้อยๆ
พอเธอปิดประตูลง เขาก็ถอนหายใจฟู่ด้วยความโล่งอกที่ทำภารกิจสำเร็จ
ตามปกติแล้ว วันนี้เขาควรอยู่บ้านเพื่อช่วยอันยูจินต้อนรับลูกค้าที่แวะเวียนมาร้าน แต่เพราะมีลูกค้าบางคนที่ใช้บริการส่งของทางบ้าน ในทุกช่วงบ่ายวันพุธ เลยต้องทยอยส่งของให้ และไม่รู้อิมยองมินนึกอยากเล่นสนุกหรือว่าเพราะอะไร แทนที่จะเดินมาส่งเองหรือให้อันยูจินมาส่ง ชายหนุ่มกลับไหว้วานให้เขามาส่งของแทน ทั้งบอกด้วยความหวังดีว่าจะได้รู้จักเส้นทางแถวๆ นี้
ตอนแรกก็แอบกลัวนิดหน่อย แต่พอได้เห็นรอยยิ้มของคนที่รับของ ก็อดคิดไม่ได้ว่า บางทีการได้ออกมาเดินส่งของแบบนี้ก็ไม่เลว ที่สำคัญ ถึงจะไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับอิมยองมินและร้านขายยานั้นเท่าไร แต่จากความรู้สึก เหมือนจะเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านแถวนี้อยู่พอตัว
“หืม?” จองเซอุนร้องเบาๆ เมื่อรับรู้ถึงแรงดึงบริเวณชายกางเกง
เมื่อก้มลงมองก็พบกับภูติหน้าตาน่ารัก ดูจากลักษณะภายนอกนั้นค่อนข้างคล้ายตัวตุ่นขนาดยักษ์ แต่เนื้อตัวสะอาดสะอ้านกว่ามาก ทั้งยังมีบางอย่างที่คล้ายกับผลึกคริสตัลเกาะอยู่ตามผิวหนัง ภูติตัวตุ่นทำจมูกฟุดฟิดเล็กน้อย ก่อนจะยื่นแอปเปิ้ลลูกโตสีแดงน่าทานให้
“ให้เหรอ” จองเซอุนถาม ภูติน้อยพยักหน้า เขาเลยยื่นมือไปรับ “ขอบคุณนะ”
ภูติตัวตุ่นทำจมูกฟุดฟิดอีกครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคลานสี่เท้ากลับเข้าไปในสวนกุหลาบ
สงสัยคงจะเป็นภูติประจำบ้านหลังนี้ จองเซอุนนึก เพราะจำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือเล่มหนึ่ง ว่าในสถานที่บางแห่ง จะมีภูติ แฟรี่ หรือวิญญาณวนเวียนอาศัยอยู่ ซึ่งในบรรดานั้น ก็มีทั้งพวกที่เจตนาดีและเจตนาร้ายปะปนกัน
จองเซอุนจ้องแอปเปิ้ลในมือนิ่งๆ เขาอ้าปากเตรียมงับเพื่อลิ้มรส แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของอันยูจินที่เคยบอกว่า อย่าทานของจากคนแปลกหน้าและพวกภูติ เขาก็หยุดความคิดลง หย่อนแอปเปิ้ลลูกโตลงในกระเป๋าสะพายข้าง เพื่อนำกลับไปให้เด็กสาววิเคราะห์ว่ากินได้หรือว่ากินไม่ได้
เด็กหนุ่มเดินกลับบ้านตามเส้นทางในความทรงจำ บรรยากาศที่เงียบสงบของชนบท ช่างแตกต่างจากเมืองใหญ่อย่างปูซานที่เขาเติบโตมาอย่างสิ้นเชิง และถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขารู้สึกว่า บ้าน ของที่นี่ มันคือบ้าน จริงๆ แตกต่างจาก บ้าน ที่เขาได้จากมา
หากอยู่ที่นี่ได้ตลอดก็คงดี ไม่สิ ขอแค่อยู่ได้นานเท่าที่นานได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าดีใจแล้ว
จองเซอุนแหงนหน้ามองฟ้า เหม่อมองนู่นมองนี่ ทักทายเหล่าภูติและแฟรี่ที่ผ่านไปมาอยู่เป็นระยะ จนในที่สุดก็มาถึงบ้านที่เขาพักอาศัยอยู่ บานหน้าต่างที่เปิดต้อนรับลูกค้าอยู่ตลอดตอนนี้ปิดลงแล้ว คาดว่าอันยูจินน่าจะกลับไปคลุกอยู่ในครัวเพื่อเตรียมมื้อค่ำ
พอลองมาคิดดูดีๆ เขายังไม่รู้เลยว่าอันยูจินนั้นเป็นอะไร จะบอกว่าเป็นลูกศิษย์ของอิมยองมินอีกคนก็ไม่น่าใช่ เพราะเขาไม่เคยเห็นเธอใช้เวทมนตร์เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะหยิบจับหรือทำอะไร เธอจะทำเหมือนอย่างที่มนุษย์ทั่วๆ ไปทำ แต่จะบอกว่าเธอเป็นมนุษย์ธรรมดาเสียทีเดียวก็ไม่น่าใช่อีก เพราะเท่าที่อิมยองมินเคยอธิบายให้ฟัง คนที่จะเห็นเพื่อนบ้านที่แสนดีได้ คือคนที่มีคุณลักษณะสามารถใช้เวทมนตร์
คุณยองมิน?
จองเซอุนเลิกคิ้วน้อยๆ เมื่อเห็นจอมเวทหนุ่มผมสีแดงส้มนอนเอนหลังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในสวนกว้างใกล้กับเรือนกระจก ไม่รู้ว่าเพราะสภาพอากาศนั้นเย็นสบาย หรือเพราะเหนื่อยจากการปรุงยาหม้อใหญ่ให้ลูกค้าเมื่อวาน ชายหนุ่มเลยมาหลับอยู่ในที่แบบนี้
จองเซอุนอมยิ้มน้อยๆ เตรียมเดินเข้าไปหา พลันเขาต้องหลับตาลงเมื่อสายลมเย็นพัดโบกมาอย่างรุนแรงจนเส้นผมปลิวไปทั่วทิศทาง คงต้องขอบคุณเสื้อโอเวอร์โค้ทที่ปรับอุณหภูมิได้ตามความรู้สึก เพราะถ้าเป็นเสื้อคลุมทั่วไปเขาคงมีอาการหนาวสั่นบาง หรืออาจจะไอออกมาไม่หยุดเหมือนก่อนหน้า
ชิงช้า?
จองเซอุนเอียงคอมองน้อยๆ เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีชิงช้าเก่าๆ อยู่ในสวน ห้อยผูกโยงลงมาจากกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ ต้นเดียวกันกับที่อิมยองมินนอนพิงอยู่ ชิงช้านั้นแกว่งไกวไปมาตามแรงลมที่พัดเข้าปะทะเมื่อครู่ และทุกๆ ครั้งที่ชิงช้าไกว หัวใจของจองเซอุนจะเต้นแรงตามทุกจังหวะ
พลันหัวใจของเขาก็กระตุกวูบอย่างแรง เมื่อรู้สึกเหมือนมีภาพบางอย่างซ้อนทับ แต่สิ่งที่แปลกคือภาพที่เห็นนั้นแตกออกเป็นพิกเซลเล็กๆ เหมือนกับโทรทัศน์ที่ใกล้เสีย และถึงแม้จะไม่ชัด แต่เขาเห็นเป็นภาพหญิงสาวผมแดงหน้าตาสะสวยในชุดกระโปรงยาวสไตล์ตะวันตกยุคเก่านั่งไกวชิงช้าอยู่ รวมถึงเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะของหญิงสาวแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล
เด็กหนุ่มหรี่ตาลง รู้สึกวิ้งๆ ในหัว ทั้งปวดหัวตุบๆ เหมือนหัวจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
แต่ไม่ถึงนาที ความทรมานนั้นก็หยุดลง พร้อมกับชิงช้าที่หยุดแกว่ง
จองเซอุนพยายามสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น รวมถึงมองไปยังชิงช้าด้วยแววตาไม่เข้าใจ
เมื่อกี้ มันคืออะไรกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in