ว่ากันว่า
ความหลงใหลอันเข้มข้นของคนเรานั้นกระเตื้องขึ้นอย่างช้าๆ จากความประทับใจครั้งแรกๆ ของชีวิต ความประทับใจที่อาจเป็นเพียงจินตนาการอันสวยสดในโลกของคุณคนเดียว เป็นความงามด้านเดียวที่คุณก้าวเข้าใกล้โดยไม่มีใครล่วงรู้ ความประทับใจจึงกลายเป็นความน่าหลงใหลในห้วงคำนึง สะสมความสวยงามประทับลงในความรู้สึก จนรู้ตัวอีกครั้งคุณก็จมลงสู่ห้วงความหลงนั้นแล้วอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
อย่างคราวที่ควันจากเตาถ่านพร่างพรายทำร้ายเด็กหญิงเป็นครั้งแรก
ใจกลางความขมุกขมัวที่เด็กหญิงขลุกตัวอยู่ตรงนั้น เป็นดังจักรวาลอุดมด้วยแรงดึงดูดแน่นหนักผลักความสนใจของเธอให้โคจรห่างออกไปจากอะไรๆ ที่เด็กวัยเดียวกันต้องการ และถึงควันสีเทาเบาบางจะเรียกน้ำกลบตาจนย่าต้องคอยไล่หนี แต่สุดท้ายเด็กหญิงก็ดื้อดึงยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาแล้วอาสาจับตะหลิวหิ้วกระทะเรื่อยมาอีกหลายต่อหลายปี
ความหลงใหลในภาพแรกส่งต่อเป็นความใคร่รู้ตลอดหลายปีหลังจากนั้น ละอองม่านควันในสายตาของเด็กหญิงถูกเสริมเติมความประทับใจด้วยรายละเอียดน่าสงสัยไม่สิ้นสุด คำถามว่า รสชาติแบบนี้ต้องปรุงยังไง? เป็นการสงสัยใคร่รู้
แรกๆ ที่แทรกอยู่ในสมอง ต้มข่าไก่ถ้วยโปรดกลายเป็นโจทย์ให้เด็กหญิงนั่งเท้าคางคิดว่าอะไรทำให้รสเปรี้ยวปะแล่มของต้มข่าออกมาแปลกใหม่กว่าแกงรสเปรี้ยวชนิดใดที่เคยชิม
ยังไม่ต้องพูดถึงรสเค็ม เผ็ด หวาน เพราะแค่รสเปรี้ยวอย่างเดียวก็แตกกระสานซ่านเซ็นจากวัตถุดิบจำนวนมหาศาลของโลกจนยากแยก เปรี้ยวละมุนด้วยมะขามเปียก เปรี้ยวเข็ดฟันจากมะนาว หรือเปรี้ยวสดใสจากใบมะขามอ่อน ล้วนมีรายละเอียดแตกต่างกันอย่างลึกซึ้ง มากไปกว่านั้น การจะเลือกรสชาติไหนใส่เมนูใดยังต้องใช้ความใส่ใจในระดับที่ทำให้เด็กหญิงคลั่งไคล้อยากเอาชนะให้ได้ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นต้มยำน้ำใสใส่ใบมะขามอ่อนจากต้นในรั้วบ้านที่เปลี่ยนรสต้มยำธรรมดาให้สดชื่นเหมือนเช้าวันฝนตก หรือผัดเผ็ดเนื้อที่รวมเอาสมุนไพรหลากรสร้อนแรง ทั้งพริกแห้ง พริกไทย ใบยี่หร่า สาดใส่ผสมกันจนได้เมนูเรียกเหงื่อที่ทำให้เด็กหญิงต้องพิจารณาหาที่มาของรสเผ็ดแต่ละชนิดอย่างพินิจพิเคราะห์ไปจนตลอดบ่าย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in