อาคาอาชิไม่ใช่คนที่แสดงออกความรู้สึกผ่านใบหน้าได้ดีสักเท่าไหร่นัก มักโดนใครต่อใครนิยามกันไปทั่วว่า ’Poker Face’ เพราะ
อะไรน่ะเหรอ เพราะแว่นกันแดดสีดำและสีหน้าซังกะตายที่แผ่รังสีความกวนโอ๊ยออกมายังไงล่ะ ไม่ว่าจะถูกเดินชน “ระวังหน่อยสิวะไอ้หนู ใส่แว่นดำจะมองเห็นทางได้ไง” หรือ “ทำหน้าแบบนี้จะเอาเหรอวะ” หรือ “มองหาเรื่องเหรอ เดี๋ยวพ่อต่อยแว่นแตก” คนที่ควรพูดประโยคนั่นควรเป็นเขาต่างหาก ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างสักหน่อยนี่หว่า แล้วอีกอย่างนะ เวลาเดินคนเดียวแล้วทำหน้ายิ้มกับตัวเองมันไม่แปลกกว่าเหรอ มีครั้งหนึ่งที่อาคาอาชิถูกเด็กวิ่งชนเข้าอย่างจังจนไอศกรีมมะนาวเลอะเต็มเสื้อไปหมด เขาอาสาจะซื้อโคนใหม่ให้แต่เด็กคนนั้นกลับร้องไห้จ้าแล้ววิ่งหนีพร้อมตะโกนว่า “อย่าลักพาตัวผมไปเลยครับ!” (วันนั้นเขาลองเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวสวมผ้าสีดำทั้งตัวเหมือนในนิตยาสารแฟชั่นที่ร้านสะดวกซื้อ แน่นอนว่าใส่แว่นกันแดดสีดำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) นั่นเป็นครั้งแรกที่อาคาอาชิเริ่มพิจารณาสีหน้าปกติของตัวเองว่ามันร้ายแรงถึงเพียงใด อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับตัวเขา นอกจากแว่นตากันแดดสีดำที่ติดไว้กับตัวตลอดแล้วก็ยังมีแอร์พอดคู่ใจด้วย อาคาอาชิรักเสียงดนตรี การที่โลกใบนี้มีเสียงเพลงนั่นเหมือนเป็นของขวัญทีี่วิเศษที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เขาฟังเพลงตลอดเวลาไม่ว่าจะตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว เข้าห้องน้ำ ไปทำธุระข้างนอกหรือทำงาน ยามว่างก็นั่งมิกซ์เพลงจนจำนวนไฟล์นั้นกินพื้นที่เกินครึ่งของคอมพิวเตอร์ ถ้าวันไหนรู้สึกเบื่อก็จะเปิดเพลลิสท์ใน JOOX รู้สึกตื่นเต้นก็ Spotify รู้สึกเหงาหงอยก็ SoundCloud รู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจก็ Appel Music แต่ละมู้ดแต่ละแอปพลิเคชั่น นั่นแหละ อาคาอาชิ เคย์จิ
เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยเพลงดีๆ อย่าง I Go To Pieces - Peter and Gordon อาคาอาชิมีร้านกาแฟร้านโปรดเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงใกล้บ้าน ปั่นจักรยานไม่เกินห้าร้อยเมตรก็ถึงแล้ว เขามักสิงอยู่ที่นั่นจนกลายเป็นลูกค้าขาประจำไปโดยปริยาย แน่นอนว่าต้องมีพนักงานที่เขาสนิทพอจะคุยเล่นได้อยู่ด้วย “อ้าว อาคาอาชิ พ่อหนุ่มแว่นดำหน้าตาย มาช้าจริงนะ ฉันกำลังจะกลับอยู่แล้ว” คุโรโอะ เท็ตสึโร่ ทักทายลูกค้าประจำ เขาเพิ่งเลิกงานกะเช้าและตอนนี้ร่างกายต้องการเตียงเต็มแก่ “อย่าบอกไดอิจิล่ะว่าฉันแอบออกมาก่อนที่น้องใหม่จะมาถึง ลาล่ะ” ทันทีที่พูดเสร็จก็วิ่งตัวปลิวออกนอกร้าน ไดอิจิที่ได้ยินเสียงกระดิ่งประตูกระจกร้านดังจึงเดินมาเช็กและรับรู้ได้ในทันทีว่าคุโรโอะนั้นกลายเป็นแมวหนีงานไปแล้วจึงบ่นกับเขาเสียยกใหญ่ก่อนจะขอตัวไปจัดการขยะข้างหลังร้านต่อ “อยากสั่งอะไรก็เรียกฉันได้ตลอดเลยไม่ต้องเกรงใจ” สิ่งหนึ่งที่อาคาอาชิชอบที่นี่มากคือพนักงาน (ที่เขาสนิทด้วย) อัธยาศัยดีต่อเขาเกินความจำเป็น โดยปกติแล้วอาคาอาชิเป็นคนที่ค่อนข้างคิดมากเรื่องของหวาน เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ทันทีว่าอยากกินอะไรจึงทำให้พนักงานที่รับออเดอร์ยืนรอนานตลอด แต่คุโรโอะและไดอิจิเป็นสองคนแรกที่บอกกับเขาว่า “ฉันก็เคยเป็นแบบนายนะ รสชาติเค้กในแต่ละวันไม่เหมือนกันสักครั้งแม้วัตถุดิบยังคงเหมือนเดิม ฉันเข้าใจความรู้สึกนาย ถ้าตัดสินใจเสร็จเมื่อไหร่ก็เรียกฉันแล้วกัน” เมื่อสนิทกันมากขึ้นก็บอกว่า “ไอบ้าอาคาอาชิ วันนี้ร้านยุ่งมาก ตัดสินใจไวๆ ก็ดีจะไดัทำอย่างอื่นต่อ เวลาเป็นเงินเป็นทองนะโว้ย” นับว่าเป็นเรื่องที่ดีล่ะนะ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน อาคาอาชิใช้เวลานานอย่างมากในการเลือกทานขนมหวาน เมื่อตัดสินใจได้แล้วและกำลังจะเรียกไดอิจิแต่หางตาดันไปสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่หูฟังเดินฮัมเพลงเข้ามาในตัวร้าน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพลงเดิมวนกลับมารอบที่ห้าหรือแดดยามเช้าที่ช่วยขับกล่อมให้ใบหน้าอมยิ้มของผู้ชายคนนั้นน่าดึงดูดจนอาคาอาชิต้องเอี้ยวตัวมองตามเมื่อเขาเดินผ่าน อาคาอาชิรู้ในภายหลังว่าไม่ใช่ทั้งเพลงที่เขาฟังหรือแดดยามเช้าที่สาดส่อง แต่เป็นเสียงฮัมเพลงนั่นต่างหากที่ทำให้ชายแปลกหน้าน่าคล้อยตาม “b-a-b-y baby” ไพเราะกว่าเสียงใดๆ ที่เคยได้ยิน อาคาอาชิถอดแว่นตากันแดดโดยไม่รู้ตัว เผลอมองชายคนนั้นจนลับสายตาไปทางห้องเฉพาะพนักงาน
“อรุณสวัสดิ์ รับอะไรยามเช้าดีครับ” จู่ๆ อาคาอาชิก็เหมือนโดนต่อยเข้าอย่างจังเมื่อหันกลับมาพบว่าชายคนเมื่อกี้มารับออเดอร์ในอึดใจเดียว นี่คงเป็นน้องใหม่ที่คุโรโอะเคยพูดถึงสินะ เขารีบสวมแว่นดำกลับเหมือนเดิม ในใจคิดว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเดินได้เร็วอย่างนี้นะ แต่ความจริงแล้วเป็นตัวอาคาอาชิเองต่างหากที่ยังตกอยู่ในภวังค์ของอดีต “โกโก้ร้อนกับคลับแซนด์วิชครับ” เขาพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด พยายามสงบจิตสงบใจไม่ให้ตระหนกไปมากกว่านี้ “แว่นสวยจัง ทรงคล้ายๆ ของตาฉันเลย เรย์แบนใช่ไหม“ ถ้าหากไม่มีแว่นบังหน้าล่ะก็คงได้เห็นอาคาอาชิกะพริบตาปริบๆ ด้วยความประหลาดใจแน่
“อ่า…ใช่ ของตาผมเอง“
“เดาไว้ไม่มีผิด นายนี่รสนิยมดีจังนะ”
“ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก พอเจ้าของอยากได้อันใหม่ก็เป็นมรดกตกทอดให้ผมใช้ต่อ”
“เข้ากับนายดี เท่โคตร”
“ขอบคุณครับ”
เหมือนโดนต่อยเข้าที่ใจรอบที่สอง ไม่เคยมีคนแปลกหน้าคนไหนมาชมเขาว่าเท่แบบนี้มาก่อน (ไม่นับตอนประถมที่โดนชมว่า “ลูกเล่นวอลเลย์บอลเก่งมากเลย” เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย) โดยเฉพาะใบหน้าตาซังกะตายที่เคยทำให้เด็กเข้าใจผิดจนร้องไห้
เมื่อรับออเดอร์เสร็จก็เดินกลับเข้าหลังร้านพลางร้องเพลงขึ้นมาอีกครั้ง “b-a-b-y baby” อาคาอาชิหูผึ่ง เผลอจับชายผ้ากันเปื้อนของอีกฝ่าย เป็นอีกครั้งที่เขาทำไปโดยไม่ทันรู้ตัว ซึ่งนั่นค่อนข้างผิดวิสัยสำหรับอาคาอาชิ คนโดนรั้งหันมามองอย่างงุนงง “เอ่อ…คือ…เพลงที่ร้องเมื่อกี้คือเพลงอะไรเหรอครับ” นั่นเป็นเหมือนคำถามจุดชนวนให้ชายคนนี้ทำตาโตเหมือนนกฮูกและนั่งลงตรงที่นั่งฝั่งตรงข้าม ร่ายประโยคออกมายาวเกือบเท่าเอ็มวีเพลง Smooth Criminal ของ Micheal Jackson “ไม่คิดว่านายจะสนใจด้วย เข้าใจล่ะ เห็นใส่แอร์พอดคิดว่าคีพลุคแต่จริงๆ แล้วอาจจะฟังเพลงอยู่นี่เอง เป็นพวกคลั่งดนตรีใช่ไหม (อาคาอาชิพยักหน้า) โอเค ฉันจะแชร์เพลงที่ฉันชอบช่วงนี้ให้นายแล้วกัน ฉันอยากให้มันดังมากๆ เป็นของดีที่ไม่ค่อยมีคนฟังเลยล่ะ” อาคาอาชิจ้องหน้าอีกคนอย่างเผลอไผล เพลงเดิมที่วนกลับมาอีกครั้งไม่ได้เข้าโสตประสาทหูเลยสักนิด “B-A-B-Y ของ Carla Thomas” หลังจากจัดการมื้อเช้าเสร็จเขาก็มุ่งหน้าสู่ร้านขายแผ่นเสียงซื้อเพลงที่ว่านั่นทันที เมื่อถึงบ้าน อาคาอาชิเปิดฟังวนทั้งวัน (แม้ยามเข้านอนก็เปิดทิ้ง
ไว้ทั้งคืน) จนร้องได้ทั้งเพลงภายในระยะเวลาแสนสั้น ดูท่าคงต้องเพิ่มเข้าในเพลลิสท์ของ Apple Music เสียแล้วสิ
แต่ไม่ว่าจะฟังวนอีกกี่สักครั้งเสียงของชายคนนั้นก็ยังคงติดอยู่ที่ปลายใจ “b-a-b-y baby” และ “เฮ้ ขอโทษที่พูดเสียยาว ยังไม่ทันได้แนะนำตัวเลย ฉันโบคุโตะ โคทาโร่ เพิ่งมาใหม่วันนี้ ฝากตัวด้วยล่ะพ่อหนุ่มเรย์แบน” จากที่คิดว่าพรุ่งนี้จะนอนอยู่แต่ในห้องทั้งวันเปลี่ยนแผนเป็นไปสิงอยู่ที่ร้านกาแฟนั่นแทนดีกว่า
ทอล์คๆ : เนื่องจากเพิ่งดูเบบี้นักซิ่งจบคืออินมาก ชอบมาก มันสลัดไม่หลุดจริงๆ โดยเฉพาะเพลงที่ Deborah ร้อง ติดหูจนกลับไปฟังต้นฉบับ ทั้งหมดนี้เลยเขียนฉากที่ชอบเป็นเวอร์ชั่นโบคุอาคาขึ้นมา แล้วก็วันนี้วันวาเลนไทน์ขอให้ทุกคนเอ็นจอยนะคะ ไม่มีคู่ก็เอ็นจอยได้ค่ะ ในนั้นมีเราแล้วแหละคนนึง 55555 อ้อๆ ขอหยาบนิดนึงนะคะ ตำรวจมันเหี้ยมากที่ทำร้ายประชาชนได้ขนาดนี้ เป็นมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ ควายยังมีประโยชน์มากกว่าอีก ใดๆ ก็ตาม อย่าลืมให้ความสำคัญเรื่องม็อบนะคะ ช่วยกันกระจายข่าวแทนสื่อที่ไม่ได้ทำหน้าที่ด้วยค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in