ผมอยู่บนน้ำ
ลอยล่องกลางผิวน้ำ กางแขนขาออกเหมือนปลาดาว ปล่อยกายให้เคลื่อนไหวตามแรงของคลื่น เสียงบรรเลงของทะเลอื้ออึงในโสตประสาท
ผมอยู่บนน้ำ
รอยเท้าบนผืนทรายถูกกลบด้วยคลื่น ฟองสีขาวกระทบชายฝั่ง ปูวิ่งเข้ารูหนีผู้บุกรุก ผมแหงนหน้ามองเหล่าเมฆเดินทาง นกสีขาวบินเฉียดผิวน้ำเกิดเป็นวงกว้าง
ผมอยู่บนน้ำ
ร่างกายสั่งให้ผมหลับตา แต่เพราะความกังวลกลัวโดนคลื่นลูกใหญ่ซัดจึงลืมตาเหมือนเดิม ผมสูดอากาศเข้าปอดแล้วม้วนตัวไปตามคลื่นทะเล
ผมอยู่ในน้ำ
กอดตัวเองที่ขุดคู้เหมือนดักแด้ หลับตาปี๋ ภาพของเธอไหลเวียนสู่สมอง ภาพเธอกับเขา แม้พวกเขาจะไม่ได้ลงเอยเป็นคนรักแต่สายตาที่เธอมองผู้ชายอีกคนมันกระจ่างชัดว่าเขาคือคนที่เธอยอมเสียสละทุกสิ่งอย่างในชีวิต ในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นมักมีประกายความรักเสมอเมื่อมองเขา หลากความรู้สึก หลายความหมาย ส่วนตัวผมน่ะเหรอ? ไม่สำคัญหรอก เป็นแค่คนที่เข้ามาทีหลัง หากไม่นับเรื่องเวลา ผมตีความได้ว่าพบเธอช้ามากๆ ช้าเกินไป ผมกับเธอไม่ได้ผ่านอะไรด้วยกันเยอะเท่าเขาอีกคน
ผมโผล่พ้นผิวน้ำ
เส้นผมสีดำเหมือนดวงตาสยายกลางหลัง ผมเชยชมก่อนจากกัน วันต่อมามันกลับสั้นเหนือบ่าเพียงเพราะคนที่เธอแอบรักแนะนำให้ไปตัด บอกตามตรงว่าใจมันเจ็บจึ้ก
ผมดำน้ำอีกครั้ง
นึกอิจฉาเจ้าโง่นั่น มันไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธออ่อนโยนกับมันมากแค่ไหน
ผมโผล่พ้นผิวน้ำ
แหงนหน้ามองอาทิตย์อัสดง พื้นน้ำทะเลตกกระทบเป็นสีแดง ส้ม ม่วง แสงแดดส่องประกายวับเต็มผิวน้ำ ผมว่ายกลับเข้าฝั่ง นั่งมองพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ส่งมันเข้านอนและเดินทางกลับบ้าน
แต่…เฮ้! ตอนแรกจะมาพักใจที่ทะเลนี่หว่า แต่ไหงใจกลับวนเวียนแต่เรื่องของเธอล่ะเนี่ย เอียนจะตายอยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้องกลับไปแบบคนขี้แพ้เหมือนเดิมอยู่ดี รู้ซึ้งเลยล่ะว่าตัดใจไม่ลงมันเป็นแบบไหน เข้าใจเธอแล้วว่าการแอบรักข้างเดียวนั้นช่างทรมาน อึดอัด แต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน
ผมกวาดเศษใจที่เคยกองไว้ใต้ทะเลขึ้นบนผิวน้ำ ค่อยๆ ซ่อมแซมมันกลับเข้าที่เดิม แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังคงเหลือรอยร้าวทิ้งไว้เป็นแผลใจอยู่ดี มันจะค่อยๆ กลายเป็นแผลเป็นเข้าสักวัน ผมคิดงั้นนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in