Day 4 : ตู้หยอดเหรียญ (ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน- ผมยืนอยู่ในตู้โทรศัพท์สีแดง) | #novelber
Author : Sean
Pairing : Colin Firth x Hugh Grant
Rating : No Rate
( บริการดีมีเพลงให้ฟังทุกวัน จิ้มจิ้ม )
“สวัสดีครับ..” เขาตอบกลับมาด้วยเสียงงัวเงีย ..แหงล่ะ ตอนนี้มันเกือบเที่ยงคืนเข้าให้แล้ว
“ทำอะไรอยู่..ผมกวนมั้ย” ผมถามไปทั้งๆที่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่และรู้ตัวว่าคงรบกวนเวลาของเขา
แต่ผมเพียงแค่คิดถึงเขาจนนอนไม่หลับ
“ไม่กวน.. ผมนอนอยู่” น้ำเสียงของเขาดูตื่นๆ “มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า..ผมแค่คิดถึงคุณ” ด้วยความสัตย์จริง ผมยืนอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกับบ้านคุณ ในตู้โทรศัพท์สีแดง รอบตัวของผมมีเพียงแค่เสาไฟฟ้าเป็นเพื่อนท่ามกลางความเงียบงัน
“..ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน” คุณบอกกับผมด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
ผมไม่ได้เจอคุณมาหนึ่งอาทิตย์ สองชั่วโมง กับอีกสิบสามนาที เพราะคุณต้องเดินทางไปประชุมแพทย์ที่ต่างประเทศและเพิ่งกลับมาเมื่อห้าชั่วโมงที่แล้ว
"ตู้ด..ตู้ด.." เสียงแจ้งเตือนของตู้โทรศัพท์สาธารณะเริ่มร้องประท้วง ผมหันไปมองหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆที่บอกว่าผมมีเวลาคุยกับคุณอีกได้ไม่นาน
ผมควานหาเศษเหรียญในกระเป๋าเสื้อคลุมของผม
โชคยังช่วยที่ผมกวาดเศษเหรียญมาได้จำนวนหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องพักท่ามกลางหิมะที่โหมกระหน่ำ
“เสียงอะไร..” น้ำเสียงของคุณดูฉุนขึ้นเล็กน้อย คุณไม่ได้รอให้ผมตอบ และผมได้ยินเพียงแค่เสียงวางโทรศัพท์มือถือลงกลางอากาศ
ผมจ้องมองหน้าต่างห้องพักของคุณ- กำลังจินตนาการอนาคตของตัวเองที่จะได้ลงไปเยี่ยมยมฑูตอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
และแล้วแสงสว่างสีเหลืองนวลของโคมไฟก็สว่างขึ้น คุณแง้มม่านแล้วมองมายังผมที่ยืนอยู่ในตู้โทรศัพท์สีแดงซึ่งถูกหุ้มด้วยหิมะสีขาวโพลน
“คุณกำลังทำบ้าอะไรอยู่!?” เสียงของคุณแทรกผ่านหูโทรศัพท์ที่แนบอยู่กับหูของผม หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก คุณวางสายไปแล้ว
ผมวางหูโทรศัพท์ไว้กับตู้หยอดเหรียญ ไม่สนใจแม้กระทั่งเศษเงินทอนที่เหลือ– ผมรีบวิ่งข้ามถนนไปที่ประตูทางเข้าอพาร์ทเมนท์ของคุณ
เสียงตึงตังดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ– ผมหลับตาแน่น
อีกเพียงแค่อึดใจเดียว ผมจะได้พบหน้าคุณแล้ว ผมจินตนาการถึงผิวสีแทนของคุณ ใบหน้าหวานๆของคุณ ริมฝีปากบางๆของคุณ กลิ่นกายของคุณจะยังคงเหมือนเดิมอยู่ไหมนะ อยากกอดคุณจัง
เสียงเงียบไปแล้ว เหมือนใจผมหยุดเต้นไปด้วยเลย
ผมได้ยินเสียงปลดล็อคกลอนประตู ผมขยับเข้าไปจนปลายรองเท้าหนังของผมชิดกับขอบประตู
“ให้ตายสิ..เดี๋ยวก็หนาวตายกันพอดี” ไม่ทันที่ผมจะได้โผกอด ผมก็ถูกคุณดึงเข้าไปในทางเดินของอพาร์ทเมนท์เสียก่อน
คุณปิดประตู– คุณถูมือของตัวเองไปมาและลูบต้นแขนของตัวเองแรงๆ
(ผมมองเห็นเขาอยู่ในชุดนอนที่ถูกทับด้วยเสื้อคลุมตัวบาง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ดูยุ่งเหยิงของเขายาวขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่ผมเห็น -นั่นทำให้ผมมองเห็นหน้าของเขาไม่ชัด แต่ผมรู้ว่าเขากำลังสวมแว่นตากรอบสีดำอยู่)
“ขึ้นไปข้างบนก่อน ข้างล่างหนาวจะตายอยู่แล้ว” ดูเหมือนจะเป็นประโยคเชิญชวนแต่คุณกลับเดินรี่ขึ้นไปข้างบนเลย โดยที่ไม่รอผม
“เดี๋ยวผมเปิดประตูให้..” เพราะผมเห็นว่าเขาไม่ได้สวมถุงมือ
ไม่ได้ตั้งใจทำดีเพื่อไถ่โทษเลย
คุณเพียงแค่มองผมผ่านเส้นผมที่ยาวลงมาปิดใบหน้าของคุณ- คุณก็เดินเข้าไปในห้องและหยิบเสื้อคลุมอีกตัวที่วางพาดอยู่บนพนักพิงของเก้าอี้มาสวม
“ผมก็บอกไปแล้วตั้งแต่ตอนมาถึงว่าพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน” พออุ่นขึ้นคุณหันมาดุผม
“ก็ผมคิดถึง..” ผมสวมกอดเขาแน่น ได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆที่ติดอยู่บนเส้นผมนุ่มๆของคุณ
“แล้วเป็นไงล่ะทีนี้– ตัวเย็นหยั่งกะศพ” คุณถูมือตัวเองไปมาอีกครั้งแล้วดึงมือผมมากุมไว้
ความอบอุ่นของคุณส่งผ่านมายังฝ่ามือเล็กๆนั่น
“แทบตาย..” ผมยิ้ม– จ้องมองคุณภายใต้แสงสว่างของโคมไฟที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง “คิดถึงแทบตาย…”
“น่าจะปล่อยให้ตาย” คุณตบหน้าผมเบาๆ แต่ผมกลับเห็นรอยยิ้มของคุณที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าบึ้งๆนั่น
“คุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมเป็นคนไข้คนพิเศษของคุณนะ” ผมปัดเส้นผมที่ปิดหน้าของคุณออก– คุณเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม นัยน์ตาสีฟ้าของคุณทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์(อีกแล้ว)
“เป็นยังไงบ้าง..” ผมหมายถึงไปประชุมเป็นยังไงบ้างต่างหาก
“เหนื่อยดี..” คุณจับมือผมทั้งสองข้างขึ้นมาแนบกับใบหน้าคุณไว้
“ไม่เป็นไรนะ” ผมพูดได้เพียงแค่นี้เพื่อปลอบใจเขา
“จูบผมให้หายเหนื่อยที..” คุณเอนตัวพิงกับหน้าอกผมช้าๆ ผมกดจูบลงบนศีรษะของคุณ และกอดคุณเอาไว้ในอ้อมกอดของผม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in