Barry Allen/Clark Kent
เซ็นทรัลซิตี้ในวันแสนสงบนั้นเงียบสงัดเกินไปสำหรับแบร์รี่ อัลเลน...
เขารู้ว่ามันเป็นความคิดที่มันไม่ค่อยเข้าท่าและถูกต้องเท่าไหร่หากจะเบื่อหน่ายเมื่อเห็นผู้คนในเมืองยิ้มสดใส ไร้เงาพวกผู้ร้ายให้เล่นวิ่งไล่จับ
ชายหนุ่มเดินทอดน่องไปตามทางเท้า ควบคุมจังหวะก้าวให้อยู่ในระดับคนปกติ มือถือไอศกรีมเลียเรื่อยๆดื่มด่ำกับรสช็อกโกแลตเข้มข้นละมุนลิ้น คิดเรื่อยเปื่อยว่าเขาจะใช้เวลาว่างหลังเลิกงานอย่างไรดี
จะวิ่งเล่นเรื่อยเปื่อย...ค้างคาวร่างหมีหน้าบูดก็เอาชุดประจำตำแหน่งของเขาไปซ่อม
เดินตากแอร์ในห้างสรรพสินค้าหรือดูหนังเข้าใหม่สักเรื่อง...เป็นความคิดที่ดี แต่ตอนนี้เงินเดือนยังไม่ออกซ้ำที่คงเหลือในบัญชีตอนนี้ไม่อำนวยให้จับจ่ายตามใจชอบเท่าไหร่
นั่งกองอยู่บนโซฟาในอพาร์ทเมนต์...ฟังน่าเบื่อ แต่เขาจำได้ว่ายังมีเบียร์เหลืออยู่สองสามกระป๋องในตู้เย็น จิบพร้อมดูโทรทัศน์ไปด้วยก็เข้าท่า
“แบร์รี่!”
เสียงทุ้มนุ่มสำเนียงคุ้นหูและแบร์รี่ยอมรับว่าคิดถึงไม่น้อยดังมาจากด้านหลัง
คิดถึง...จนคิดว่าเสียงนั้นก้องจากความทรงจำของเขา
“แบร์รี่!” เสียงเดิมร้องเรียก คราวนี้มาพร้อมกับมือเอื้อมมาแตะไหล่ เรียกหันมองตาม
ผู้ชายผมดำผิวขาวจัด แว่นสายตากรอบดำเชยๆไม่อาจลดทอนความน่ามองของใบหน้าที่เขาคิดว่าช่างเหมือนรูปปั้นยุคเรอเนสซองส์ในพิพิธภัณฑ์ที่ไดอาน่า พรินซ์ทำงานอยู่ ยิ่งยามเจ้าตัวยิ้มอวดเขี้ยวซี่เล็กน่าเอ็นดูให้...แบร์รี่ก็ยิ่งแน่ใจ
เอาละ...นอกจากหูแว่ว เขายังตาฝาดด้วย
ที่เห็นคลาร์ก เคนท์ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“แบร์รี่...” บุรุษเหล็กลดเสียงลง คิ้วเข้มสวยมุ่นเข้าหากันวงหน้าไร้ที่ติเคลื่อนเข้ามาใกล้จนเจ้าของชื่อต้องยกมือขึ้นแตะแก้มขาวนั้นไว้เพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้จนหัวใจของเขาต้องเต้นรัวไปมากกว่านี้
นุ่ม อุ่น...คือสัมผัสที่ปลายนิ้วร้องบอก แบร์รี่เบิกตากว้าง
“คลาร์ก....คุณจริงๆ” ได้ยินเสียงตนเองเอ่ยออกไปเลื่อนลอย สีหน้าในตอนนี้คงดูไม่จืด นักข่าวหนุ่มจากเมโทรโพลิสถึงได้พยายามกลั้นขำขนาดนั้น
น่ารัก...ในหัวของเขามีแต่คำนี้เต็มไปหมด
“ก็ผมไง คุณคิดว่าอะไรหรอ เรียกตั้งหลายรอบกว่าจะหันมา” น้ำเสียงมีตัดพ้อน้อยๆ วงหน้าสมบูรณ์แบบเปื้อนยิ้มบาง ดวงตาสีฟ้าสดใสเหมือนท้องฟ้าฤดูร้อนสบตาเปิดเผย ทำให้รู้สึกถึงไอร้อนแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าจนต้องยกมือขึ้นเกาท้ายทอยไปมา
“ผมไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่น่ะครับ”
“ผมเป็นนักข่าวกีฬานะ” คลาร์กหัวเราะ “ต้องไปโน่นไปนี่บ่อยอยู่แล้ว ช่วงนี้ผมไปก็อทแธมบ่อยกว่าบ้านที่สมอลวิลล์อีก”
รู้สึกว่าผิวหนังบนใบหน้าตึงกว่าเดิมเมื่อได้ยินชื่อเมืองที่ได้สมญาว่านครรัตติกาล...
เหมือนตาลุงหน้าบูดนั่นได้ใกล้คนยิ้มสวยมากกว่าเขาอย่างไรไม่รู้
“คุณคงได้เจอบรูซบ่อยสินะ ดีจัง...ผมไม่เจอใครในทีมเลย” คนอายุน้อยกว่าพูดลอยๆ เป็นอีกครั้งที่ไม่เข้าใจตนเอง
เขาหวังว่าคลาร์กจะตอบกลับมาว่าอะไรกัน....
“เจอบ้าง แต่ไม่บ่อยหรอก พูดถึงแล้วก็นึกถึงเมื่อคืนที่ผมทำข่าวเสร็จ กำลังเดินไปขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับเมโทรโพลิส เขาขับแบทโมบิลผ่านมาพอดีแล้วก็บังคับให้ผมขึ้นมา เขาจะขับไปส่งที่สถานีรถไฟ บอกทั้งยังใส่หน้ากาก พูดผ่านเครื่องแปลงเสียงนั่นแหละ” นักข่าวหนุ่มเล่ากลั้วหัวเราะ ขณะคนฟังส่งเสียงต่ำในลำคอ
หึ...ไม่เนียนเลยลุง มองจากยอดตึกเวย์นเอนเตอร์ไพร์ซก็รู้ว่าเจตนาที่แท้จริงคืออะไร
“ก็อทแธมตอนกลางคืนไม่ใช่ที่นายจะมาเดินเล่นนะคลาร์ก” หนุ่มแว่นทำเสียงต่ำล้อเลียน ส่ายหน้าน้อยๆขบขัน ท่าทางที่เห็นแล้วก็ลอบถอนหายใจโล่งอก
เหมือนคลาร์กจะไม่ได้คิดอะไรกับฝ่ายนั้น...
นึกดังนั้นก็ซ่อนยิ้มหลังก้อนไอศกรีมในมือ ละเลียดระหว่างเดินเคียงนักข่าวข้างตัว ดำเนินบทสนทนาเรื่อยเปื่อยที่เขาจดจำทุกประโยคอย่างใส่ใจ
ไอศกรีมหมดโคนพอดีเมื่อหยุดหน้าร้านดอกไม้ตรงหัวมุมถนน ดอกไม้สีชมพูโดดเด่นตรงหน้าร้านสะดุดตาจนต้องหยุดมอง เป็นเวลาเดียวกับคลาร์กขอแยกไปซื้อกาแฟร้านข้างๆพอดี
แบร์รี่ยกยิ้ม ยื่นช่อดอกไม้สีหวานให้คนที่เดินออกมาจากร้าน
คลาร์กเลิกคิ้ว ชี้ที่ตนเองอย่างฉงน
“ตั้งแต่คุณกลับมา ยังไม่มีใครให้ของขวัญต้อนรับคุณใช่ไหมครับ”
เจ้าของดวงตาสีฟ้าแววสนเท่ห์พยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น ผมให้...ถือเป็นของขวัญต้อนรับกลับมาแล้วกันนะ” เว้นช่วง กระซิบริมใบหูขาว “ซุปเปอร์แมน”
มุมปากได้รูปของเดอะแฟลชยกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายรับไปพร้อมเอ่ยขอบคุณ ดวงตาสีเข้มทอดมองมือขาวโอบอุ้มช่อดอกไม้สีสวยอย่างมีความหมาย
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู…แทนความรู้สึกแรกรัก
กล่าวคำพูดถึงผู้รับว่า ‘ฉันเริ่มจะรักเธอแล้ว หันมาสนใจฉันบ้างเถอะ’
ตรง...กับความในใจของเขา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in