Ben Affleck/Henry Cavill
ขึ้นต้นปีใหม่...สิ่งที่มาคู่กันคือการตั้งเป้าหมายสำหรับปีนั้นๆ
เฮนรี่ คาวิลล์ก็มีเป้าหมายเหมือนกัน
เป้าหมายที่ตั้งมานับแต่เข้าศักราชใหม่ จนตอนนี้เหลือเวลาสองเดือนเศษก็จะหมดปีแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ทำเสียที…
“ไง...อีกกี่ก้าวจะถึงพี่” เสียงโทนต่ำของเอซร่า มิลเลอร์ถามขึ้น ขณะพวกเขากำลังยกเวทอยู่ในฟิตเนสแห่งหนึ่ง เฮนรี่ตอบคำถามนั้นด้วยการส่ายหน้าอย่างหดหู่
“ลดน้ำหนักอย่างบ้าเลือดเป็นปีๆเปลี่ยนจากแฟตคาวิลล์เป็นรูปปั้นกรีกดูดีขนาดนี้แล้ว ก็ไปเหอะ เดี๋ยวพอเขาเรียนจบเขาก็กลับบ้านเขาแล้วนะ รอไรถามจริง”
“ทำใจไงวะ นี่ฉันเป็นเด็กม.ปลายจะไปสารภาพรักพี่ป.เอกนะเว้ย” เฮนรี่เข่นเขี้ยว หันไประบายอารมณ์กับการยกลูกตุ้มสิบกิโลกรัมขึ้นมา
“มันก็ไม่เจียมแต่แรกแล้วป่ะ จะโดนเขาด่าว่าไม่เจียมมาอีกดอกก็ชิลๆน่า”
เป็นการให้กำลังใจที่ยอดเยี่ยมมาก....เฮนรี่กลอกตา ไม่หันไปโต้ตอบอะไรอีก
มันไม่เจียมแต่แรกแล้วจริงๆ...เด็กเกรดสิบสองดันไปแอบชอบรุ่นพี่นักศึกษาปริญญาเอก ตอนนี้เขาอายุสิบแปด เบน แอฟเฟล็ค...รุ่นพี่คนนั้นอายุยี่สิบเก้า แค่คิดก็เห็นแต่นกบินว่อนเต็มไปหมด
ไม่น่าตั้งเป้าหมายประจำปีว่าจะไปสารภาพรักกับเบนก่อนฝ่ายนั้นเรียนจบเลย
เฮนรี่เจอกับเบนครั้งแรกตอนเขาอยู่เกรดสิบ เป็นเด็กอ้วนที่ถูกพวกหัวโจกแกล้งตอนระหว่างทางกลับบ้าน และคนโตกว่าเข้ามาช่วย หลังจากนั้นก็ได้รู้ว่าหนุ่มอเมริกันที่แอบปลื้มเช่าบ้านอยู่หลังติดกันกับบ้านของเขา
แน่นอนว่าต้องไปมาหาสู่กันตามสเต็ป...เบนเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเริ่มออกกำลังกายลดน้ำหนักตั้งแต่ตอนนั้น
เฮนรี่เสียน้ำหนักตัวไปสิบห้ากิโลกรัม...ถึงจะรู้ว่าเขาตกหลุมรักพี่ชายข้างบ้านเข้าเสียแล้ว
แม้เอซร่าจะพูดให้กำลังใจเต็มที่ตอนอยู่ฟิตเนส จนแล้วจนรอดเฮนรี่ก็ไม่กล้าอยู่ดี
จะบอกยังไง...นิยายรักเพ้อฝันตามร้านหนังสือและบนอินเทอร์เน็ตไม่ช่วยอะไรให้มันง่ายขึ้นเลย
เขาจะทำยังไงดี
คำถามเหล่านี้รบกวนความคิดหนักขึ้นตามเวลาผันผ่าน
เด็กหนุ่มเดินคอตกจากฟิตเนสกลับบ้าน ชะงัก...หันตามเสียงเรียกที่ดังมาจากหน้าสวนสาธารณะ
เบน แอฟเฟล็คยืนโบกมือเรียกอยู่ตรงนั้น มืออีกข้างถือแก้วกาแฟที่เขาคิดว่ามันดูดีเหลือเกินเมื่อมีแพนิ้วเรียวยาวโอบอยู่
เบนทำอะไรก็ดูดีไปหมดนั่นแหละ...ในสายตาของเขา
เฮนรี่เดินเข้าไปหาคนตัวสูงกว่าอย่างว่าง่าย เงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาแล้วเลิกคิ้ว
ดวงตาสีฟ้าใสหลุบลงกับพื้นอย่างไม่มั่นใจเมื่อเบนชะงัก...เขาทำอะไรผิดหรือเปล่า หรือว่าอาบน้ำหลังออกกำลังกายไม่สะอาดพอและเหลือกลิ่นตุๆ
แย่แล้ว...,มันแย่มาก
“ไม่มีอะไรหรอก พี่เห็นเราเดินผ่านเลยเรียกเฉยๆ”
“อ่า...ครับ” เขารับคำ เงยหน้ามองอีกฝ่ายอีกครั้ง พยายามต่อสู้กับความคิดด้านลบในใจของตนเอง
บอกสิ...บอกเลย ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล อกหักก็แค่วิ่งร้องไห้กลับบ้าน
“เอ่อ..ผมมีอะไรจะบอกพี่” เด็กหนุ่มเอ่ยในที่สุดหลังรวบรวมกำลังใจอยู่นาน
ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มบาง “พี่ก็มีอะไรจะบอกเราเหมือนกัน”
“งั้นพี่ก่อนเลย” ...ขอประวิงเวลาไปอีกนิดเผื่อว่าเขาบอกจะกลับประเทศไปแต่งงาน ก็จะได้พับเก็บไปเลย เฮนรี่คิดในใจ
นัยน์ตากลมช้อนมองรุ่นพี่อย่างรอคอย ฝ่ายนั้นดูอึกอักเหมือนต่อสู้กับอะไรสักอย่างภายในใจ ก่อนสูดหายใจลึกเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“พี่ชอบเรานะ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in