เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฝันนั้นฉันเป็นของเธอKSRENEBUNNY
Chapter 4: Jumpin'
  • “เกิ้ลจ๋า วันนี้เค้าขอนอนบ้านเกิ้ลได้ม้าย? ”

    มะขามเอ่ยด้วยเสียงยานคางในขณะที่ใบหน้าสวยก็ซบอยู่ที่ซอกคอของเกิ้ล กลิ่นหอมละมุนของเชอรี่จากไวน์ที่เพื่อนตัวเล็กดื่มเข้าไปยังคงชัดเจน รวมถึงลมหายใจกลิ่นเชอรี่ที่กำลังเป่ารดต้นคอเธออยู่ตอนนี้เช่นกัน

    “ทำไมหืม? ”

    “ยางม่ายอยากกลับบ้าน”

    “โอเคๆ งั้นเดี๋ยวเราโทรบอกคุณอาให้”

    หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาบิดาของมะขาม รอไม่นานนักปลายสายก็รับ

    “คุณอาคะ วันนี้มะขามนอนค้างบ้านเกิ้ลนะคะ ใช่ค่ะ เดี๋ยวเช้าเกิ้ลไปส่งค่ะ”

    วางจากปลายสายเสร็จเธอก็เบนสายตาหันกลับมามองเพื่อนคนพิเศษที่ตอนนี้กอดแขนซบไหล่ของเธอ ปากเล็กก็บ่นงึมงำในลำคอ

    “สโมค mid ห้ายหน่อยยย”

    คงเพราะเห็นว่ามากับเธอมั้ง ถึงได้ปล่อยให้ตัวเองเมาแอ๋ขนาดนี้ ขนาดเมาแล้วยังจะละเมอถึงการแข่งอีกนะ


    เหลือบมองไปดูนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว ในยามที่ไม่มีรถแออัดกันบนถนนจึงใช้เวลาไม่นานแท็กซี่ก็จอดหน้าบ้านของเกิ้ล ไฟในห้องนั่งเล่นยังคงสว่างเหมือนรอการกลับมาของเธอ แม่ยังนอนดูซีรีย์อยู่ที่โซฟา เมื่อเห็นลูกสาวแบกว่าที่ลูกสะใภ้ (ที่แม่คิดไปเอง) มาด้วยจึงเอ่ยปากถาม

    “อ้าววันนี้หนูมะขามมานอนด้วยเหรอ? ”

    “อือ ขามเมาอ่ะ แล้วแม่ยังไม่นอนอีก? ”

    “กำลังจะไปนอนพอดี”

    แม่หยิบรีโมทขึ้นมากดปิดทีวีแล้วลุกขึ้น ไม่ค่อยเนียนเลยนะแม่ รู้แหละว่ารออยู่ หลังจากถามไถ่จนรู้ว่าพรุ่งนี้พี่ชายตัวแสบไม่หยุดงาน เพราะเธอกะจะให้มันไปส่งที่ร้านเพื่อเอารถกลับสักหน่อย ก็ได้เวลาขอตัวพาเพื่อนตัวเล็กไปพักผ่อน


    เธอพยุงมะขามขึ้นห้องตัวเองอย่างยากลำบาก ถึงตัวจะเล็กก็เถอะแต่หนักไม่ใช่เล่น หลังจากถอดเบลเซอร์พาดไว้ที่เก้าอี้เสร็จก็ค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงบนเตียงขนาดคิงไซส์และจัดแจงท่าทางให้เพื่อนคนพิเศษนอนได้สบายที่สุด กว่าเธอจะอาบน้ำสระผม หยิบเอาไดร์ไปแอบเป่าผมที่ชั้นล่างเพราะกลัวเสียงจะรบกวนคนตัวเล็กที่กำลังนอนฝันดีอยู่ก็เกือบจะตีสองแล้ว เธอจึงค่อยๆ ย่องและเอนตัวนอนลงข้างๆ อย่างเงียบที่สุด ทันทีที่ศีรษะของเธอสัมผัสหมอนหนุน คุณเธอก็เอ่ยเสียงหวานขึ้น

    “ตัวหอมจังเลย~”

    “สร่างเมาแล้วรึไง? ”

    “อืออออ”

    เพื่อนตัวเล็กครางต่ำในลำคอพลางกอดแขนเกิ้ลที่หันไปมองหน้าคนเมาที่ตอนนี้ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่

    “งั้นไปอาบน้ำเลย”

    “อาบให้เค้าหน่อยซี่~”

    “จะบ้าเหรอ! ”

    มะขามส่งเสียงหัวเราะในลำคอในขณะที่เกิ้ลลุกขึ้นโวยวายแล้วก็นิ่งไป นั่งมองสักพักเธอก็เอื้อมส่งมือเรียวไปเขี่ยปอยผมบลอนด์ที่ปกปิดใบหน้าเพื่อนตัวเล็กอย่างเบามือแล้วยกยิ้มอย่างเอ็นดู

    “สร่างเมาบ้าอะไร ละเมอชัดๆ ”

    เอื้อมมือไปปิดสวิทช์ที่โคมไฟข้างเตียงแล้วหันไปห่มผ้าให้มะขามก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ในขณะที่เกิ้ลกำลังจะถูกดึงเข้าสู่ห้วงนิทรา เสียงหวานของคนเมาก็ดังขึ้นปลุกเธอในความมืด

    “เกิ้ล”

    “นอนได้แล้ว”

    นอนมองคนข้างๆ ที่นิ่งไปอีกครั้งจนเกิ้ลคิดว่าเพื่อนตัวเล็กของเธอคงหลับไปแล้ว จึงดึงผ้าห่มขึ้นเพื่อคลุมร่างกายตัวเอง แต่คนที่คิดว่าหลับไปแล้วก็ค่อยๆ เขยิบตัวเข้ามาใกล้พลางเอื้อมมือมากอดร่างสูงที่หันไปมองคนข้างๆ ด้วยความสงสัย

    “อะไรอีกหืม? ”

    “เค้าหนาว”

    ไม่พูดเปล่า มะขามซุกหน้าเข้าที่ไหล่ของเธอ ลมหายใจร้อนที่ยังมีกลิ่นไวน์จางๆ ถูกเป่ารดต้นคออีกครั้ง ทำเอาหัวใจของเกิ้ลที่อยู่ๆ ก็เต้นเร็วขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

    “ห่มผ้าให้แล้วไง”

    “ก็เค้าหนาว”

    “นี่แกล้งเรารึเปล่าเนี่ย? ”

    เกิ้ลลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ทอดสายตาจ้องมองเพื่อนตัวเล็กที่บ่นพึมพำในลำคอ นั่งรอสักพักเมื่อเห็นว่าคนเมานิ่งไปแล้วเธอจึงล้มตัวลงนอนอีกครั้งก่อนที่มะขามจะเอ่ยชื่อเธออีก

    “เกิ้ล”

    “ขาม เราอยู่นี่ เลิกเรี….”

    คำพูดต่อจากนั้นถูกแทนที่ด้วยสัมผัสนุ่มจากริมฝีปากบางของเพื่อนคนพิเศษ รสเชอรี่หอมละมุนจากไวน์ที่มะขามดื่มเข้าไปถูกส่งต่อมาที่ริมฝีปากของเกิ้ล คนตัวเล็กส่งมือสอดเข้าประคองเข้าที่ใบหน้าเรียวของร่างสูง เป็นการจูบที่บางเบาและอ่อนโยน ไม่มีการรุกล้ำใดๆ เกิดขึ้น ก่อนที่เพื่อนคนพิเศษจะถอนจูบรสเชอรี่ออกจากริมฝีปากของเธอแล้วฟุบลงที่ไหล่ เธอจึงอำนวยความสะดวกให้คนข้างๆ หลับสบายขึ้นด้วยการค่อยๆ ยกแขนให้คนตัวเล็กได้นอนหนุนแทนหมอน กลิ่นหอมละมุนยังคงอบอวลอยู่ในปากของเธอถึงแม้ว่าตัวการจะนอนนิ่งไปอีกรอบแล้วก็ตาม ทิ้งสายตานอนมองใบหน้าของเพื่อนสนิทพลางบ่นพึมพำ

    “ยัยบ้าเอ๊ย เมาทีไรมาขโมยจูบเราทุกที”


    เสียงนกที่ดังขึ้นด้านนอกเหมือนกำลังขับขานเสียงเพลง แสงแดดอ่อนๆ ลอดมาตามแนวแยกของผ้าม่านที่สูงติดเพดานบ่งบอกว่าเป็นเช้าวันใหม่แล้ว มะขามตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอุ่นของเกิ้ล นี่เธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? จำได้ลางๆ ว่าโดนเกิ้ลบ่นเรื่องที่ดื่มไวน์แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นถึงจะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก แต่การที่ได้ตื่นมาในอ้อมกอดของคนที่รักนี่รู้สึกดีเป็นบ้า เธอซุกหน้าเข้ากับอกของร่างสูง ได้ยินถึงเสียงหัวใจของคนข้างๆ เต้นเป็นจังหวะ มือกระชับกอดพลางผ่อนลมหายใจอย่างผ่อนคลาย

    ถึงจะสนิทกันขนาดไหนแต่มะขามก็ไม่เคยก้าวข้ามจากเส้นแบ่งความสัมพันธ์แบบเพื่อนได้เลยสักครั้ง เป็นตัวเธอเองที่ไม่ได้มีความกล้ามากพอที่จะบอกความรู้สึกออกไปตรงๆ หากเพียงแต่ยังคงเฝ้ารอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากออกมาว่ารู้สึกเช่นเดียวกับเธอ

    พอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน้ำตาก็พลันไหลออกมา และในขณะที่มะขามกำลังร้องไห้เงียบๆ อยู่นั้น เกิ้ลที่ไม่รู้ว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของเธอเบาๆ น้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนถูกเอ่ยขึ้น

    “ฝันร้ายเหรอ? ”

    “....”

    “ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว เราอยู่นี่แล้ว”

    เกิ้ลกระชับกอดเพื่อปลอบประโลม ถ้าหากมันจะเป็นฝันร้ายจนทำให้เพื่อนตัวเล็กของเธอกลัวจนร้องไห้แบบนี้แล้วละก็...เธอจะขอกอดไว้แบบนี้จนกว่าจะดีขึ้น ไม่ชอบเห็นมะขามร้องไห้เลย ครั้งหนึ่งเธอเคยทำให้มะขามร้องไห้มาแล้วเพราะโดนเธอต่อว่าเรื่องยกเลิกการประชุมระหว่างบริษัททั้งหมดเพียงเพราะแค่วันนั้นเธอบอกให้มะขามลงแข่ง หลังจากนั้นจึงสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ทำให้เพื่อนคนนี้ต้องร้องไห้อีกเป็นครั้งที่สอง

    นิ่งเงียบกันไปพักใหญ่ หลังจากที่เธอเห็นว่ามะขามดีขึ้นแล้วจึงเอื้อมมือไปเกลี่ยหยาดน้ำตาออกจากพวงแก้มกลมพลางเอ่ยถามเสียงนุ่ม

    “ปวดหัวมั้ย? ”

    “นิดหน่อย” มะขามตอบอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดของเกิ้ล

    “แล้วเมื่อคืนกินเหล้าทำไมหืม? ”

    “เราอยากลืม”

    มะขามอกหักงั้นเหรอ? ใครมันบังอาจทำร้ายจิตใจผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้ลงคอกันนะ? ถ้าเจอจะซัดให้หน้าหงายเลยให้ตายเถอะ

    “ใครทำอะไรขาม? เราจะไปจัดการให้”

    “....”

    “คนที่บริษัทเหรอ? หรือบีม? หรือไอ้เหนือ? ”

    “....”

    “ขาม บอกเรามา”

    “เราจัดการเองได้”

    ชักอยากจะเห็นหน้าไอ้สารเลวนั่นซะแล้วสิ มาทำให้เพื่อนเธอร้องไห้แบบนี้ ไม่ได้การล่ะ สงสัยต้องไปหลอกถามเรื่องนี้กับเจ๊ตองสักหน่อยแล้ว

    “แน่ใจนะ? ”

    “อือ” คนตัวเล็กตอบพลางพยักหน้าหงึกหงัก

    “งั้นก็ลุกได้แล้ว อาบน้ำก่อนมั้ย? ”

    ร่างสูงที่กำลังจะลุกขึ้นแต่ถูกมะขามดึงเสื้อไว้ เธอจึงหันกลับไปมองเพื่อนคนพิเศษที่หลุบตาลงต่ำ

    “เกิ้ล”

    “หืม? ”

    มะขามเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตรงหน้าที่ยังคงจ้องมองเธออยู่

    “เกิ้ลมีคนที่ชอบบ้างรึเปล่า? ”

    “ไม่มีนะ”

    นั่นไง ถามแบบนี้คงอยากจะปรึกษาจริงๆ อย่าให้รู้นะว่าไอ้หอกหักนั่นเป็นใคร เพื่อนเธอออกจะสวยและแสนดีขนาดนี้ยังจะกล้าทิ้งได้ลงคอ

    “แล้วเกิ้ลไม่อยากมีแฟนบ้างเหรอ? ”

    “อือ เห็นไอ้เหนือมันมีแฟนแล้วโฟกัสทีมไม่ได้ เราไม่อยากเป็นแบบนั้น”

    “.....”

    “อีกอย่างเราก็มีขามแล้วนี่ ไม่เห็นต้องมีแฟนเลย”

    เกิ้ลฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด ประโยคที่เธอเอ่ยออกมาเมื่อสักครู่ส่งผลให้หัวใจดวงน้อยๆ ของมะขามพองฟูอย่างมีความสุข

    สาวผมบลอนด์ยิ้มกว้างจนแก้มกลมดิก ตั้งแต่วันก่อนแล้วที่เกิ้ลพูดแบบนี้ มันคือประโยคบอกรักแบบอ้อมๆ สไตล์เกิ้ลรึเปล่านะ? ตัวเธอเองก็ไม่ได้คิดอยากรบเร้าเอาคำตอบจากอีกฝ่ายว่าใช่หรือไม่ ให้เวลาค่อยๆ เฉลยความสัมพันธ์ในครั้งนี้ก็แล้วกัน เธอจึงลุกขึ้นคว้าผ้าเช็ดตัวที่เกิ้ลหยิบมาวางไว้ให้ ถามไถ่ถึงชุดที่จะใส่เสร็จมะขามก็เดินเข้าห้องน้ำไป เกิ้ลจึงเปิดตู้เสื้อผ้ารื้อชุดที่คิดว่าพอดีกับเพื่อนคนพิเศษที่สุดออกมาวางไว้ปลายเตียง ไม่ลืมที่จะหยิบชุดชั้นในของมะขามที่ไม่ยอมเอากลับคืนไปสักทีหลังจากใส่กระเป๋าผิดตอนไปเที่ยวกันเมื่อคราวก่อน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เธอจึงหอบชุดไปอาบน้ำที่ห้องพี่ชายตัวแสบแทน


    สองสาวเดินลงมาชั้นล่างก็ได้กลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่วทั้งบ้าน เกิ้ลจึงเดินไปสวมกอดมารดาจากทางด้านหลังที่กำลังง่วนอยู่กับการปรุงอาหารบนเตา

    “ตื่นกันแล้วเหรอ? ”

    "ตื่นแล้วค่ะ"

    “เดี๋ยวเกิ้ลกับขามจะไปเล่นปาร์กัวร์กันนะ”

    “หนูมะขามดีขึ้นรึยังล่ะลูก? ”

    “ดีขึ้นแล้วค่ะ แหะๆ ”

    มะขามยิ้มแหยๆ คงจะรู้สึกผิดที่รับปากไว้อย่างดิบดีว่าจะดูแลเธอ แต่กลับเป็นฝ่ายโดนหิ้วกลับมานอนที่บ้านเพราะเมาเละซะเอง

    “กินข้าวกันก่อนมั้ย? แม่ทำปลาซาบะฟูผัดพริกแกงใกล้เสร็จแล้ว”

    “กินๆ ขามกินข้าวกันก่อนนะ”

    คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ


    ช่วยกันจัดแจงโต๊ะกินข้าว หยิบจานมาตักข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่เพิ่งหุงเสร็จใหม่ๆ แล้วนั่งกินกับข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้ เกิ้ลไม่พลาดกับข้าวที่บ้านหรอก เพราะแม่ของเธอเคยเป็นเชฟในโรงแรมสุดหรูย่านใจกลางเมืองมาก่อน แต่เพราะพ่อเห็นว่าแม่ต้องทำงานหนักเลยให้ลาออกมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกๆ ดีกว่า

    นอกจากปลาซาบะฟูผัดพริกแกงแล้วยังมีไก่ผัดซอส และแกงจืดเต้าหู้ไข่ของโปรดมะขาม แม่น่าจะตั้งใจทำไว้ให้เพื่อนตัวเล็กของเธอเลยแหละ เนี่ย...ทีลูกแท้ๆ บอกอยากกินอะไรนะไม่เค๊ยไม่เคยตามใจแบบนี้บ้างหรอก ฮึ!


    หลังจากที่สองสาวช่วยกันล้างจานจนเสร็จ เกิ้ลก็เดินไปกอดแม่อีกครั้ง หอมซ้ายหอมขวา เอาหัวไถแขนแม่เหมือนลูกแมวอย่างออดอ้อน

    “แม่ เกิ้ลรักแม่นะ”

    “รู้แล้วน่า อย่าซนให้มากล่ะ”

    “ค่าาาา วางใจได้เลย”

    “ไปเล่นกันดีๆ ล่ะ ระวังตัวด้วย”

    “ได้ค่ะคุณน้า”

    “งั้นเกิ้ลไปก่อนนะ”


    ระหว่างทางที่นั่งแท็กซี่กลับไปเอารถที่ร้าน เกิ้ลก็ต่อสายหาเคพลางสอบถามจนรู้ว่าอยู่จุดที่มาเล่นปาร์กัวร์กันเป็นประจำ เมื่อมาถึงก็ทักทายกันพอหอมปากหอมคอก่อนจะแยกย้ายไปเล่นตามจุดที่ต้องการ

    เกิ้ลวอร์มร่างกายยืดเส้นยืดสายอยู่กับเพื่อนตัวเล็ก เหมือนวันนี้อากาศจะเป็นใจให้เธอเล่นปาร์กัวร์จนหมดแรงเพราะแดดไม่จัดมาก

    เธอเริ่มวิ่งตีลังกาจากพื้นที่ต่างระดับโดยมีมะขามถือมือถือถ่ายวีดิโอไว้อยู่ ก่อนที่เกิ้ลจะวิ่งกลับมาชิ่งกับกำแพงปูนเพื่อกระโดดเกาะระเบียงชั้น 2

    “เกิ้ล! ระวังตัวด้วยน้า”

    “ได้เลย”

    มะขามตะโกนบอกร่างสูงที่ชูนิ้วโป้งตอบกลับมาอย่างเป็นห่วง


    เมื่อเล่นกันที่ชั้นล่างจนเบื่อแล้ว แก๊งปาร์กัวร์จึงตกลงย้ายจุดไปบนดาดฟ้าของตึกสูง 6 ชั้นแทน เพื่อเล่นกับสิ่งกีดขวางและความท้าทายที่มากขึ้น ทั้งตู้ ราวเหล็ก กำแพงต่างระดับ หรือแม้กระทั่งการวิ่งข้ามตึก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาขึ้นมาเล่นกันบนนี้ แต่นับครั้งไม่ถ้วนที่ขึ้นมาแล้วต่างหาก เรียกได้ว่ามาบ่อยจนหลับตาวิ่งยังได้

    มะขามวิ่งตามเกิ้ลที่วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางอย่างคล่องแคล่ว แก๊งปาร์กัวร์ยืนมองสองสาววิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางไปด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน จนวิวที่ยืนกอดอกอยู่อดเอ่ยพูดขึ้นมาไม่ได้

    “สองคนนั้นดูเหมาะสมกันดีนะ”

    “เก่งกันทั้งคู่ แต่ดันซื่อบื้อเรื่องรักซะได้”

    บอมเอ่ยเพื่อเสริมประโยคของแฟนสาว ทำเอาเคเลิกคิ้วขึ้นมองหน้าด้วยความสงสัย

    “อ้าวสองคนนั้นคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ? ”

    “คบบ้าไรล่ะพี่เค! เกิ้ลมันรู้ที่ไหนว่ามะขามชอบ”

    “ถามจริง? ”

    สาวผมแดงหันไปพูดกับเคที่ดูจะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไป

    “วิวเป็นเพื่อนไอ้สองคนนี้มาตั้งแต่เข้าชมรมปาร์กัวร์ตอนปี 2 จนป่านนี้ยังไม่เคยเห็นเกิ้ลมันไปชอบใครเลย”

    “....”

    “เกิ้ลมันเคยบอกนะว่าไม่อยากมีแฟน ทั้งๆ ที่มีคนมาจีบมันเยอะจะตาย ส่วนมะขามก็ปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาเช่นกัน”

    “หรือจริงๆ ชอบกันแต่ไม่รู้ตัวอะไรงี้ป่ะ? ”

    เคขมวดคิ้วยุ่งอย่างคนใช้ความคิด

    “วิวเดาเกิ้ลไม่ถูกเลยพี่เค”

    “หรือเกิ้ลชอบพี่? ”

    “อันนี้เพ้อเจ้อละ”

    ทั้งสามหัวเราะลั่น ก่อนที่สองสาวจะวิ่งกลับมารวมกลุ่ม มะขามเปิดกระเป๋าเป้หยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้ยื่นให้เกิ้ลที่รับมาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของตัวเอง เคมองดูสองสาวที่ดูยังมีพลังเหลือเฟือจึงเอ่ยปากชวน

    “พักให้หายเหนื่อยแล้ววิ่งทางยาวกัน”

    ร่างสูงหยิบขวดน้ำแล้วยื่นให้มะขามที่รับมาดื่มก่อนจะยื่นคืนกลับไปให้เกิ้ลที่ดื่มต่อจากเธอ นั่งคุยเล่นกันสักพักเคก็ลุกขึ้นวอร์มร่างกาย

    “ตามมาแล้วกันนะเด็กๆ ”


    ชายหนุ่มเริ่มออกวิ่งแล้วกระโดดข้ามไปอีกตึกที่อยู่ห่างจากที่พวกเธอยืนอยู่เพียงแค่สองเมตร มะขามสะบัดขาเตรียมวิ่งแต่ถูกร่างสูงรั้งแขนไว้

    “ระวังด้วยนะ”

    “อื้อ”

    เพื่อนตัวเล็กพยักหน้าเบาๆ ตอบรับความเป็นห่วงของเธอแล้ววิ่งกระโดดข้ามตึกอย่างสวยงาม ก่อนจะเอามือป้องปากตะโกนกลับมา

    “ระวังด้วยน้า”

    ร่างสูงทำวันทยาหัตถ์จรดที่ปลายคิ้วด้านขวาก่อนจะสะบัดออกอย่างขี้เล่น ยืดเส้นด้วยการสับขาวิ่งกับที่สักพักแล้วเริ่มออกวิ่ง แต่จังหวะที่กำลังจะกระโดดเธอเกิดเป็นตะคริวที่ขาขวาอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ขาออกแรงกระโดดได้ไม่เต็มที่

    เกิ้ลพยายามคว้าขอบตึกอีกฝั่งไว้ แต่ด้วยแรงปะทะของร่างเข้ากับกำแพงตึกจึงทำให้มือที่จับไว้ยึดไม่อยู่ เธอจึงพลัดตกจากชั้น 6 ลงไปนอนนิ่งอยู่ที่ระเบียงปูนที่ชั้น 4 วิวกรีดร้องกับภาพตรงหน้าขึ้นมาทันที มะขามทึ้งเสื้อยืดของเคพลางพูดอย่างร้อนรน

    “พี่เคมือถือ! ”

    ไม่รอให้เคที่มัวแต่ยืนช็อกหน้าถอดสีอยู่หยิบให้ เธอรูดซิปกระเป๋าคาดอกแล้วหยิบมือถือออกมากดโทรออกทันที

    “ฮัลโหล มาตึก xx ด่วนค่ะ มีคนตกตึก! ”


    มะขามพูดพลางกระชากประตูดาดฟ้าเปิดอย่างแรง วิ่งลงไปชั้นล่างแล้วเลื่อนหน้าต่างกระจกที่มีฝุ่นเกาะหนาเตอะเพื่อปีนออกไปหาเกิ้ลที่นอนตะแคงอยู่ เธอลูบกลุ่มผมนุ่มของคนตรงหน้าอย่างเบามือที่สุด สายตาเหม่อมองริมฝีปากบางของเกิ้ลที่มีเลือดซึมออกมา น้ำตาค่อยๆ รื้นขึ้นที่ขอบตาของเธอ อย่าร้องนะมะขาม ร้องตอนนี้ไม่ได้

    “เกิ้ล”

    “ขาม เรา...ยังไม่อยากตาย”

    คนตรงหน้าพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา มะขามกลั้นน้ำตาที่ตอนนี้เอ่อล้นจนสายตาพร่ามัวแล้วพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติที่สุด เพิ่งรู้ว่าการข่มน้ำเสียงไว้ไม่ให้สั่นนี่มันยากเย็นเหลือเกิน

    “เกิ้ลจะไม่เป็นอะไรนะ เราเรียกกู้ภัยให้แล้ว”

    มะขามไม่กล้าที่จะแตะต้องตัวของเกิ้ลเลยแม้แต่นิดเดียวแม้ใจจริงจะอยากกอดมากแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าบาดเจ็บที่ส่วนไหนบ้าง เธอจึงได้แต่เคลื่อนมือที่สั่นเทาไปมาในอากาศ แล้วหันไปพูดกับเคที่วิ่งกระหืดกระหอบตามเธอมาว่า

    “พี่เค บอกให้พี่บอมกับวิวไปรอรถกู้ภัยที”

    “ได้ๆ ”

    เครีบกุลีกุจอหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาบอมที่อยู่ทางอีกตึกอีกฝั่งทันที

    “ไอ้บอม ให้วิวไปรอรถกู้ภัยหน้าตึกที ส่วนแกเคลียร์ทางลงบันไดไว้ให้หน่อย”

    “ขาม...เราเจ็บ”

    “อดทนอีกนิดนะ”

    เคหันไปมองมะขามที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ร่างที่ไม่ไหวติงของเกิ้ล เขานับถือความมีสติและไหวพริบของผู้หญิงตรงหน้า ในขณะที่ทุกคนรวมทั้งตัวเขาเองกำลังอยู่ในอาการตกใจ แต่มะขามกลับควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าตัวเธอจะดูตื่นกลัวมากแค่ไหนก็ยังสามารถโทรเรียกรถกู้ภัยได้ หากแต่ผู้หญิงที่เขาแอบชอบจะลงเอยกับผู้หญิงคนนี้แล้วล่ะก็ เขายินดีที่จะเดินถอยออกมา


    อึดใจเดียวเสียงไซเรนของรถกู้ภัยก็มาถึง เสียงฝีเท้าเร่งรีบของเจ้าหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พวกเขามาพร้อมกับเปลสนาม เมื่อประชิดตัวผู้บาดเจ็บได้แล้วก็จัดการเช็คอาการเบื้องต้นพร้อมจัดแจงใส่หน้ากากออกซิเจนและเข้าเฝือกตามจุดที่คิดว่าบาดเจ็บรุนแรง ก่อนจะนำร่างคนเจ็บไปนอนที่เปลแล้วเคลื่อนย้ายลงไปขึ้นหลังรถอย่างรวดเร็ว มะขามวิ่งตามเจ้าหน้าที่แล้วขึ้นนั่งที่ด้านขวาอย่างระมัดระวังที่สุดเพื่อไม่ให้ขัดขวางการปฏิบัติงาน

    “พี่เค เจอกันที่โรงพยาบาล”

    รถกู้ภัยเคลื่อนตัวออกจากจุดเกิดเหตุ คนตัวเล็กมองเกิ้ลที่ถูกเข้าเฝือกสนามที่ขาขวา แขนขวาและคอไว้ด้วยความกังวล เธอสอดมือไปจับมือซ้ายของเกิ้ลไว้

    “เกิ้ลจะไม่เป็นอะไรนะ”

    “....”

    “เกิ้ล”

    “....”

    “พี่คะ เพื่อนหนู…”

    มะขามหันไปถามเจ้าหน้าที่ที่กำลังใช้วิทยุสื่อสารเคลียร์เส้นทางจราจรอย่างเร่งรีบ

    “พยายามชวนคุยไปก่อนน้อง ใกล้ถึงแล้ว”

    เธอจึงหันกลับมา สัมผัสที่มือบ่งบอกได้ถึงมือของเกิ้ลที่พยายามบีบมือของเธอเบาๆ เหมือนทุกครั้งที่คอยปลอบเธอในยามที่เธอรู้สึกกลัว

    “เกิ้ล”

    “อือ”

    “เกิ้ลต้องอยู่กับเรานะ”

    “....”

    “เราจะพาเกิ้ลไปเล่นสกายไดฟ์ เล่นเซิร์ฟบอร์ด ไปดำน้ำ แล้วก็กินอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน”

    “....”

    “เราจะชนะเวิลด์ลีคด้วยกันไม่ใช่เหรอ? ”

    “อือ”

    “เราจะพาเกิ้ลไปทุกที่ที่อยากไปเลยนะ”

    “ขาม เรา….”

    เสียงของเกิ้ลขาดห้วงไป มะขามกังวลจนกัดริมฝีปากบางของตัวเองจนเลือดออกเพื่อบังคับน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

    "เกิ้ล หลับไม่ได้นะ! ตื่นสิ!!"


    ติดตามอ่านตอนล่าสุดได้ใน ReadAWrite น้าาาาาา จิ้มตรงนี้ได้เลยยย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in