10 โมงเช้า
เกิ้ลมาถึงเกมมิ่งสเตเดียมเพื่อสแตนบายหน้างานก่อนถึงเวลาจริงถึงสี่ชั่วโมง ในวันนี้เธอเลือกที่จะแต่งตัวสบายๆ หมวกแก๊ปสีดำที่มะขามแวะเอามาให้ที่บ้านเมื่อคืน เสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีแดงสด กับกางเกงยีนส์สกินนี่สีขาว รองเท้าผ้าใบสีดำ เธอมีเวลาเดินทอดน่องเพื่อสำรวจบรรยากาศรอบๆ งานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นลีคระดับประเทศที่มีเงินรางวัลกว่า 8 หลัก
ภายในงานมีการแสดงโชว์จากขบวนพาเหรดคอสเพลย์ที่แต่งตัวเป็นตัวละครที่ชื่นชอบเดินกันให้ขวักไขว่ พิธีกรสาวสวยกำลังเปล่งเสียงใสเชื้อเชิญผู้คนให้ร่วมกิจกรรมตามซุ้มเกมออนไลน์ต่างๆ ที่เตรียมของรางวัลไว้มากมายหวังดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ เพราะเม็ดเงินจากคนเติมเกมเดือนๆ นึงนี่ไม่ใช่น้อยๆ ไม่งั้นเงินรางวัลของการแข่งคงไม่สูงถึง 8 หลักหรอก บางลีคใหญ่ๆ ระดับโลกนั่นมีเงินรางวัลพุ่งไปถึง 9 หลักเลยด้วยซ้ำ
ร้านรวงที่ตั้งขายของที่ระลึกจากทีมต่างๆ มีตั้งแต่เสื้อเจอร์ซีย์ที่ด้านหลังสกรีนเป็นชื่อในเกมที่นักแข่งใช้ถูกสวมไว้ที่หุ่น เสื้อแจ็คเก็ต หมวก กระเป๋า พวงกุญแจ กระบอกน้ำสารพัดของกุ๊กกิ๊กที่ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อแฟนคลับ
เกิ้ลเดินทอดน่องเอื่อยๆ ไปตามร้านของทีมต่างๆ จนมาถึงร้านขายของที่ระลึกทีมของตัวเอง สายตาคมกวาดมองไปทั่วทั้งร้าน ทั้งป้ายไวนิลขนาดใหญ่ที่สกรีนรูปนักแข่งพร้อมโลโก้ทีม ไหนจะสแตนดี้สูงเท่าตัวจริงเป็นรูปสมาชิกทีมทั้งห้าคนอีก ซึ่งพิเศษหน่อยตรงที่มีจัดโซนรองเท้าผ้าใบชื่อดังที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ด้วย แฟนคลับหลายคนกำลังลองรองเท้าโดยด้านข้างมีโรลอัพเป็นรูปเธอถือรองเท้าผ้าใบสีส้มดูเด่นเป็นสง่า
สายตามาหยุดที่แฟนคลับสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งกำลังยืนแอคท่าถ่ายรูปคู่กับสแตนดี้ของเกิ้ลโดยที่ไม่แคร์สายตาอีกหลายคู่ที่จับจ้องไปที่เธอ หากแฟนคลับสาวคนนั้นจะลองเลื่อนระดับสายตาจากมือถือขึ้นมาอีกสักนิดล่ะก็คงจะได้ถ่ายรูปคู่กับคนที่เธอคลั่งไคล้ที่ยืนอยู่ตัวเป็นๆ อย่างแน่นอน
ละสายตาจากแฟนคลับหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น หันหลังจะเดินออกจากจุดที่ยืนอยู่ พลันแฟนคลับตาดีที่เดินสวนในระยะกระชั้นชิดสังเกตเห็นใบหน้าคมภายใต้หมวกแก๊ปที่ถูกกดลงต่ำพอดี รีบสะกิดเพื่อนที่เดินมาข้างๆ แล้วชี้มาทางเกิ้ลด้วยความตื่นเต้น
“นั่นพี่เกิ้ลนี่? ”
“ไหนๆ ” พูดพลางชะเง้อเอนตัวไปมาเพื่อมองให้เห็นหน้าได้ถนัด
“ใช่พี่เกิ้ลจริงๆ ด้วย!! ”
“พี่เกิ้ลคะขอถ่ายรูปด้วยหน่อยค่ะ”
“อ่าได้ค่ะ”
ทำให้เธอต้องยืนถ่ายรูปกับแฟนคลับคนแล้วคนเล่านานเกือบครึ่งชม. ไม่ได้รำคาญหรือลำบากใจอะไรหรอกนะ แต่บางคนที่ลืมปิดแฟลชแล้วมันสว่างวาบเข้าตามันทำให้เธอรู้สึกโลกหมุนแปลกๆ แต่ก็ฉีกยิ้มกว้างเพื่อให้เหล่าแฟนคลับได้เก็บภาพประทับใจไปนอนกอด จนเมื่อเธอเห็นว่าคนที่ขอถ่ายรูปเริ่มน้อยลงแล้วจึงเอ่ยเสียงนุ่มกับแฟนคลับที่เหลือเพื่อขอตัวไปยังหลังเวทีเพื่อเตรียมความพร้อมขึ้นแข่งในอีกชม.ข้างหน้า หลายคนยู่ปากทำหน้าเสียดายที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับนักกีฬาอีสปอร์ตสาวที่ชื่นชอบได้แค่ไม่นาน
เกิ้ลรีบเดินก้าวขาฉับๆ เลี้ยวไปยังห้องเก็บตัวที่อยู่ด้านข้างเวที แสดงบัตรผู้เข้าแข่งขันให้สตาฟที่ยืนเฝ้าทางเข้า ก่อนเปิดประตูที่มีป้ายกระดาษสีขาวแปะไว้ว่า Team wR8 เข้าไปเจอบีมกับจูนนั่งเล่นมือถือรออยู่ที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว
“หวัดดีบีม หวัดดีจูน”
“สวัสดีค่ะพี่เกิ้ล”
จูนพนมมือขึ้นเหนืออกไหว้เกิ้ลที่รับไหว้พลางยิ้มอย่างเอ็นดู
“ไม่ต้องไหว้พี่ก็ได้”
“โหยไม่ได้หรอกพี่ แก่ก็ยอมรับว่าแก่เถอะ”
“อ้าวพูดงี้...”
“จูนไปสแตนบายข้างนอกดีกว่า แบร่~”
เสียงใสเอ่ยด้วยน้ำเสียงทะเล้นยังน่าหมั่นไส้เท่ากับที่ทำหน้ากวนประสาทก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป หนอยย...ไอ้เด็กนี่มันยอกย้อนไม่พอยังมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีก มันน่าลดส่วนแบ่งจริงๆ
จูนถูกคัดเลือกเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมที่มีหน้าที่คอยจัดเตรียมตารางงานและการแข่งต่างๆ ให้กับสมาชิกทุกคน ซึ่งจริงๆ แล้วตำแหน่งผู้จัดการทีมนั้นเพิ่งจะมีได้ไม่นาน จากความคิดของมะขามที่เห็นว่าเกิ้ลที่เป็นกัปตันทีมต้องวิ่งวุ่นทำทุกอย่างคนเดียวก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจ จึงเสนอให้มีตำแหน่งนี้เข้ามา นั่นหมายความว่าเงินรางวัลจากการแข่งก็จะต้องถูกแบ่งให้ผู้จัดการทีมด้วยส่วนนึง ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ 5% จากเงินรางวัลในแต่ละลีคก็เถอะ แต่มันก็ทำให้จูนมีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่าได้ในระดับนึงเลยแหละ สังเกตได้จากข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นแบรนด์เนมซะทั้งตัว ในตอนแรกเป็นเหนือกับบีมที่คัดค้านหัวชนฝา แต่ด้วยไหวพริบของมะขามที่ยกเหตุผลต่างๆ นานามาอ้างบวกกับคะแนนโหวต 3:2 ทำให้ฝ่ายเธอชนะไป
บีมที่เพิ่งเล่นเกมในมือถือเสร็จเงยหน้ามาเจอเกิ้ลก็รีบกวาดสายตาไปรอบๆ จนเธออดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ขามไม่ได้มากับฉัน”
“ฉันไม่ได้มองหามะขามซะหน่อย”
โถ...ทำมาเป็นปากแข็ง แต่สายตานี่มองหาเพื่อนตัวเล็กของเธอชัดๆ
“ชอบแล้วทำไมแกไม่ลองจีบล่ะ? ”
“ก...แกรู้เหรอ? ”
บีมเก็บอาการไว้ไม่อยู่เผลอทำหน้าตาเลิ่กลั่กพลางพูดอย่างตะกุกตะกัก เกิ้ลจึงนั่งลงบนโซฟาไม่ใกล้ไม่ไกลจากชายหนุ่มนัก เธอก็พอจะได้ยินจากเหนือมาบ้างแหละว่าบีมแอบชอบมะขาม แต่ก็แปลก คือชอบแล้วทำไมไม่จีบกันนะ? พี่เคก็อีกคน ชอบมะขามแต่ไม่ยอมจีบสักที
“มันก็ดูไม่ยากป่าววะ? ”
“แกกับมะขามไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ? ”
“บ้าเหรอ! ฉันกับขามเป็นเพื่อนกัน”
เกิ้ลขมวดคิ้วยุ่ง เอาอีกแล้ว จะต้องให้บอกอีกกี่คน อีกกี่ร้อยรอบว่าเธอกับมะขามไม่ใช่แฟนกัน!! ก็เพื่อนสนิทมั้ยเอ่ย ถึงแม้ว่าเพื่อนตัวเล็กของเธอจะน่ารักน่ามันเขี้ยวจนบางทีอยากจะบีบแก้มนุ่มทั้งวันก็เถอะ
“ทำไมถึงถามแบบนั้น? ”
“งั้นมะขามก็ชอบแก”
ไปกันใหญ่ละ มะขามเนี่ยนะจะชอบเธอ? สวยขนาดนั้น แล้วโปรไฟล์คุณเธอคือดีมาก เป็นทายาทเจ้าของธุรกิจส่งออกผ้าไหมหลักพันล้าน จะมาชอบคนอย่างเธอเป็นไปไม่ได้หรอก แถมเป็นผู้หญิงเหมือนกันด้วย
“บ้าเหรอ! ขามกับฉันเป็นเพื่อนกัน แกชอบก็จีบสิบีม”
“ฉันเคยจีบแล้วไง แต่มะขามบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งเดาไม่ยากเลยว่าคือแกไอ้เกิ้ล”
“ฮัลโหลวเด็กๆ ”
ตองเปิดประตูเข้ามาโบกมือทักทายคนในห้องอย่างสดใส ก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปจับสีหน้าของเกิ้ลกับบีม ทำเอาผู้มาเยือนใหม่รีบเอามือปิดปากอย่างเสแสร้ง
“อุ๊ย! ฉันเข้ามาผิดจังหวะใช่มั้ย? ”
“ไม่เชื่อแกลองถามเจ๊ตอง”
“อะไรยะ? มีอะไรกัน? ”
ตองวางกระเป๋าถือแบรนด์ดังที่ทำจากหนังจระเข้ลงก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เกิ้ล บีมจึงหันไปหากำลังเสริมทันที
“ไอ้เกิ้ลมันไม่เชื่อว่ามะขามชอบมันเว้ยเจ๊”
“เอ้า! ก็เข้าใจถูกแล้วนี่? ยัยมะขามป้อมจะไปชอบคนอย่างอีเกิ้ลเนี่ยนะ? ”
“อ้าวนังตอง พูดงี้ก็สวยดิ”
ร่างสูงเอื้อมมือไปล็อคคอตองก่อนจะหันมาบอกให้บีมที่ตอนแรกดูลังเลที่จะแกล้งกำลังเสริม แต่เพียงแค่เกิ้ลเอ่ยปากบอกว่าจะเลี้ยงชาบูเกรดพรีเมียมก็แปรพรรคเปลี่ยนพวกมาอยู่ฝ่ายเดียวกับเธออย่างไม่ต้องคิด พร้อมจี้เอวตองที่ร้องโหยหวนพลางดิ้นพล่านเหมือนผีที่โดนน้ำมนต์ราด มะขามที่เพิ่งมาก็กวาดตามองคนมาก่อนที่กำลังเล่นกันเป็นเด็กๆ อย่างงงๆ
“เล่นอะไรกันอ่ะ? ”
เหมือนเป็นเสียงสวรรค์ เกิ้ลกับบีมหยุดแกล้งตองที่ตอนนี้นอนหายใจหอบตัวโยนอยู่ที่พื้นห้อง บีมรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้วยิ้มกว้างพลางเอ่ยทักทายสาวผมบลอนด์ตรงหน้า เกิ้ลรีบลุกขึ้นตามบีมแล้วยิ้มแหยๆ ด้วยความที่กลัวเพื่อนตัวเล็กจะบ่นเพราะตองนั้นเป็นญาติทางฝั่งพ่อของมะขาม ก่อนจะเฉไฉทักเพื่อนตัวเล็กเรื่องหมวกแก๊ปที่วันนี้เธอใส่มาเช่นกัน
“ที่ซื้อเมื่อวานป่ะ? ”
“ใช่ๆ สวยเนอะ”
เกิ้ลพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วรีบชวนคุยต่อ ไม่เปิดช่องว่างให้คนตัวเล็กได้บ่นหรอก
“เมื่อกี้เราออกไปดูหน้างานมา มีแต่คนซื้อเสื้อสกรีนชื่อมิราเคิลทั้งนั้น”
“ใช่เร้อ? น่าจะอีเกิ้ลคลัทช์มากกว่ามั้ง”
มะขามเอ่ยเสียงใสพลางเอื้อมมือไปบีบแก้มกลมของเกิ้ล
ชื่อในเกมของแต่ละคนมักมาจากความชอบหรือความสนใจในตอนนั้นๆ มะขามก็เป็นคนนึงที่จงใจใช้ชื่อว่า MiraKle เพราะนอกจากจะออกเสียงใกล้เคียงกับชื่อของเกิ้ลแล้ว เธอยังตั้งใจเน้นที่ตัวอักษร M จากพยัญชนะต้นของชื่อเธอและ K จากจากพยัญชนะต้นของชื่อเกิ้ลอีกด้วย
ร่างสูงไล่สายตาไปยังสมาชิกแต่ละคน ตัวปัญหายังไม่โผล่หัวมาอีกแล้ว เธอถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อนพลางถามสมาชิก
“ไอ้เหนือล่ะ? ”
“รถติดมั้ง” บีมพูดพลางเล่นมือถือ
“เฮ้อ~ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปฉันจะปลดมันจากทีมจริงๆ แล้วนะ”
สิ้นเสียงกัปตันทีม ทั้งห้องก็เงียบกริบเพราะทุกคนรู้ดีว่าเวลาเกิ้ลเอาจริงจะเป็นยังไง ตองที่เห็นบรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดีจึงรีบปรบมือเสียงดังเพื่อดึงความสนใจและดึงสถานการณ์ให้กลับมาสู่สภาวะปกติ
“มาๆ ประชุมแผนกัน”
เหล่าสมาชิกพร้อมใจกันลากเก้าอี้ที่วางอยู่มุมห้องมานั่งเรียงแถวหน้ากระดาน ส่วนเกิ้ลนั้นก็เดินไปหยิบปากกาไวท์บอร์ด 3 สีมาขีดเขียนแผนการเล่น เหมือนอาจารย์ตามมหาลัยที่ยืนสอนนักศึกษายังไงอย่างงั้น ในขณะที่เกิ้ลอธิบายแผน จุดไหนที่สมาชิกทีมไม่เข้าใจก็มียกมือถามบ้างประปราย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็เสร็จสิ้นการเตรียมแผนการเล่น ก่อนที่เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น สายตาทุกคู่หันไปจับจ้องคนมาใหม่ เหนือยิ้มแหยๆ แล้วเดินไปลากเก้าอี้อย่างกล้าๆ กลัวๆ มานั่งที่แถวหลังสุด
“โทษที รถติด”
เกิ้ลถอนใจเบาๆ มันถึงเวลาที่เธอต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ แล้วแหละ รอให้แข่งจบก่อนแล้วกัน
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง เหนือที่นั่งอยู่ใกล้ประตูที่สุดจึงลุกไปเปิด เป็นน้องจูนนั่นเอง
“ทุกคนเปลี่ยนเสื้อเตรียมลงแข่งได้เลยนะ”
“รีบไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ”
กัปตันทีมคนสวยพูดพลางพยักหน้า บีมกับตองจึงหยิบเสื้อแข่งที่เตรียมมาเปลี่ยนแล้วเดินออกจากห้องไป เกิ้ลจึงหันไปหาเหนือแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ หากแต่ถ้าฟังดีๆ แล้วดูน่ากลัวไม่ใช่น้อย
“ไอ้เหนือ หลังแข่งเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เออ ขอให้ชนะ”
ถึงเวลาที่เธอกับมะขามต้องไปเปลี่ยนเสื้อบ้างแล้ว เพื่อนตัวเล็กที่เปลี่ยนเป็นเสื้อแข่งสีดำขลับ ด้านหลังสกรีนสีขาวชื่อ MiraKle กำลังยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก เกิ้ลที่สังเกตเห็นความกังวลปรากฎอยู่บนใบหน้าสวยของเพื่อนคนพิเศษจึงเอื้อมมือไปบีบไหล่ซ้ายเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
“เรารู้ว่าขามทำได้”
“....”
“มากอดหน่อย”
เกิ้ลฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด มะขามจึงหันมาใช้สองมือเล็กโอบกอดร่างสูงที่ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมจากเสื้อบวกกับกลิ่นสบู่จากผิวกายของร่างสูงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นจริงๆ ริมฝีปากบางยกยิ้ม
“เราไปชนะลีคนี้ด้วยกันเถอะ”
“ต้องอย่างงี้สิ” เกิ้ลยิ้มตาหยีให้กับเพื่อนสาวของเธอ
ในขณะที่ทีมของเกิ้ลมายืนสแตนบายรออยู่หลังเวที เสียงนุ่มของโฆษกหนุ่มพากย์ปลุกเร้าอารมณ์ในฮอลล์ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เอาล่ะครับ ถึงเวลาแล้วกับการแข่งขัน xx Beyond Pro League รอบชิงชนะเลิศ ในวันนี้เรามาพบกับทีมน้องใหม่ที่น่าจับตามองอย่างไซก๊อดแทนกันเลยครับ”
เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือดังขึ้นจากกองเชียร์ที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที ที่แบ่งฝั่งกองเชียร์ตามโซนที่นักแข่งนั่ง
ถือว่าเป็นแมทช์ที่ยิ่งใหญ่อีกรายการหนึ่งก็ว่าได้ เพราะเท่าที่รู้จากน้องจูนคือบัตรเข้าชมงานถูกขายจนหมดเกลี้ยงตั้งแต่สองชั่วโมงแรก แอบภูมิใจนิดๆ ที่วงการการแข่งอีสปอร์ตโตเร็วขนาดนี้
ทีมคู่แข่งเดินขึ้นเวทีหลังจากสิ้นเสียงโฆษก สมาชิกทีมบางคนโบกไม้โบกมืออย่างขี้เล่นให้แฟนคลับของตัวเองและนั่งลงประจำที่ ก่อนที่โฆษกจะพูดต่อ
“และมาถึงทีมในตำนาน แชมป์ 8 สมัยกับทีมเรทครับ”
ทีมเกิ้ลเดินออกจากหลังเวที เสียงดนตรีดังขึ้นเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ในฮอลล์ให้ครึกครื้นฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ร่างสูงกวาดตามองอย่างรวดเร็วไปยังกองเชียร์ที่นั่งอยู่ฝั่งของเธอ ถึงแม้ว่าจะผ่านการแข่งขันมาแล้วกว่า 20 รายการ เก็บชัยชนะมาแล้วกว่า 15 ลีค แต่นั่นไม่ได้ทำให้เกมเมอร์สาวหายตื่นเต้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในเวลานี้ที่เธอรับรู้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่ในอกข้างซ้ายทำให้เธอรู้ว่าต่อให้ผ่านไปอีกกี่รายการแข่ง เธอก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรกที่ก้าวเข้าสู่วงการอีสปอร์ต ความสำเร็จที่เธอได้รับกลับมาหลังจากการโหมฝึกซ้อมอย่างหนักมันทำให้เธอรู้สึกภูมิใจในตัวเองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
สมาชิกทุกคนนั่งประจำที่ ร่างสูงหลับตาแล้วสูดหายใจเข้าให้ลึกที่สุดเพื่อปรับอารมณ์และดึงสมาธิให้กลับมาอยู่ในเกมตรงหน้า ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น ทุกคนในทีมมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและมีชั้นเชิงในการเล่นแทบจะเทียบเท่ากับทีมของเธอ หากพลาดพลั้งสมาธิหลุดไปคิดเรื่องอื่นเพียงแค่เสี้ยววินาทีอาจหมายถึงความพ่ายแพ้ที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ตองเซ็ตสโมคไวๆ ดิ”
“ก็ปาไปแล้วไงแล้วแกจะโผล่ไปก่อนทำไมล่ะยัยมะขาม”
ตองกับมะขามมีปากเสียงกันในขณะที่เริ่มเกมไปได้สักพัก เนื่องจากรอบนั้นคนตัวเล็กตายในจุดที่ควรจะได้เปรียบตามที่ฝึกซ้อมกันไว้ เธอจึงเล่นอย่างระมัดระวังตัวมากขึ้นจนกลายเป็นเสียจังหวะแทน
จบครึ่งแรก ผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนักเพราะทีมเกิ้ลตามหลังคู่แข่งอยู่ 4:8 ความเครียดที่ถูกสะสมไว้ตลอดการแข่งขันในครึ่งแรกส่งผลให้ไม่มีสมาชิกในทีมคนไหนอยากจะเสวนาพูดคุยกัน เพราะต่างก็รู้ว่าหากพูดออกมาตอนนี้มีแต่จะโทษกันไปมาเสียมากกว่า แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ได้แพ้จริงแน่ เธอต้องทำอะไรสักอย่าง
“ไม่เป็นไร อย่าเพิ่งเครียด ผ่อนคลายกันหน่อย”
“....”
เกิ้ลพูดใส่เฮดโฟนแต่ไร้ซึ่งการตอบรับใดๆ จากเพื่อนร่วมทีม ทุกคนเหมือนยังอยู่ในภวังค์อารมณ์ของตัวเอง แต่แล้วเสียงใสของมะขามก็ได้ทำลายความเงียบอีกครั้ง
“รีบเอาชนะแล้วไปกินชาบูกันเถอะ ต้องพาตองไปนัดคิวโมหน้าด้วยเนี่ย”
“เออว่ะ เดี๋ยวคลินิกปิดก่อน”
“อยากกินเนื้อวากิวอยู่พอดี”
ร่างสูงรู้สึกได้ถึงความกดดันในทีมรอบตัวค่อยๆ สลายไป เกิ้ลจึงมองกล้องเว็บแคมที่กำลังฉายภาพเธอขึ้นจอใหญ่ก่อนจะวิ้งค์ให้คนดูที่ป้องปากโห่ร้องตะโกนเรียกชื่อเธออย่างหลงใหล เสียงเชียร์กลับมาดังกระหึ่มฮอลล์อีกครั้ง จากที่กำลังจะยอมจำนนต่อความพ่ายแพ้ ก็เหมือนมีมือลึกลับมาฉุดให้ลุกขึ้นและมีแรงฮึดสู้เพื่อคว้าชัยชนะอีกครั้ง
เกิ้ลดึงหนังยางมัดผมที่อยู่ข้อมือขวามามัดผมอย่างลวกๆ มะขามที่นั่งข้างๆ ลอบมองร่างสูงพลางยกยิ้มที่มุมปาก กัปตันทีมเอาจริงแล้วสินะแบบนี้
เริ่มเกมครึ่งหลัง มะขามเก็บ Ace อย่างปาฏิหาริย์สมชื่อที่เธอใช้ ทั้งสองทีมผลัดกันแพ้ชนะ จนคะแนนสูสีตีตื้นมาหยุดที่ 15:15 และสถานการณ์ตอนนี้คือเพื่อนร่วมทีมตายหมดเพราะโดนคู่แข่งดักทางได้ ดังนั้นจึงเหลือเพียงเกิ้ลแค่คนเดียว ส่วนฝั่งตรงข้ามยังเหลือ 3 คน
เสียงเชียร์ฝ่ายตรงข้ามดังกระหึ่มแต่นักแข่งไม่สามารถรับรู้บรรยากาศด้านนอกได้เพราะอยู่ในห้องเก็บเสียง แถมหูฟังที่ทางรายการจัดเตรียมไว้ให้ก็ยังเป็นแบบตัดเสียงรบกวนอีก ความกดดันที่เกิ้ลรู้สึกได้ถาโถมกดทับมารอบๆ ตัวจนเธอรู้สึกหายใจติดขัด แฟนคลับที่นั่งอยู่หลายคนถอดใจที่จะเชียร์ต่อเพราะสถานการณ์ตรงหน้าบ่งบอกว่า 1:3 ยังไงก็ไม่มีทางสู้ได้ แต่อยู่ๆ เกิ้ลก็ยกยิ้มมุมปากแล้วพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบว่า
“ตอง อีก 2 นาทียังจองคิวโมหน้าทันใช่มั้ย? ”
ไม่รอคำตอบของตอง เกิ้ลโยนระเบิดแฟลชขึ้นฟ้า มือขวาที่บังคับเมาส์ขยับอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ทักษะรีคอยล์ก๊อด (การควบคุมวิถีกระสุนของปืน) และฟลิกช็อต (การสะบัดยิง) เพื่อสังหารทีมตรงข้าม 3 คนที่ดักรอเธออยู่ตายเรียบ สรุปผลคะแนนจึงออกมาว่าทีมของเธอเป็นผู้ชนะ เพื่อนในทีมลุกขึ้นมาหาเกิ้ลที่ถอดหูฟังแล้วยิ้มกว้าง
เธอทำสำเร็จแล้ว
เสียงเชียร์ในฮอลล์ตะโกนเรียกอีเกิ้ลคลัทช์ดังกระหึ่มยิ่งกว่าเดิม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิ้ลทำได้ หากแต่เธอมักจะแก้สถานการณ์ให้พลิกกลับมาชนะอีกทีมแบบ 1:3 และ 1:4 อยู่บ่อยครั้ง
เพื่อนร่วมทีมต่างก็มารุมล้อมเกิ้ล ตองขยี้ผมที่มัดอย่างลวกๆ ของเธอจนยุ่งไม่เป็นทรง ส่วนบีมก็แท็กมือกับเกิ้ลอย่างหยอกล้อ มีเพียงมะขามที่ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ แต่มีหรือที่คนอย่างเกิ้ลจะลืมเพื่อนคนพิเศษ เธอฉุดมือเล็กดึงรั้งเข้าหาตัวพลางกอดมะขามไว้ ก่อนจะใช้ริมฝีปากกดจูบเข้าที่กลุ่มผมหอมส่งผลให้เพื่อนตัวเล็กของเธอถึงกับเสียอาการทำอะไรต่อไม่ถูก ใบหน้าสวยเปลี่ยนสีเพราะเลือดสูบฉีดด้วยความเขินอาย ก่อนที่นักแข่งสองทีมจะเดินเรียงแถวเพื่อจับมือแสดงน้ำใจต่อกัน
“ผู้ชนะการแข่งขัน xx Beyond Pro League รอบชิงชนะเลิศได้แก่ทีมเรทครับ!! ”
เสียงโห่ร้องปรบมือด้วยความยินดีดังขึ้นพร้อมกับทีมของเกิ้ลขึ้นรับโล่และป้ายเงินรางวัล สมาชิกในทีมยิ้มกว้างในขณะที่ช่างภาพกำลังถ่ายรูปเพื่อทำข่าว
เมื่อเสร็จพิธีการบนเวทีก็ชวนเพื่อนร่วมทีมเดินลงไปหาแฟนคลับที่ยืนรอพวกเธออยู่ ทั้งถ่ายรูป เซ็นลายเซ็นที่เสื้อ แปะมือ และกอดกับแฟนคลับที่มาเชียร์เธอ หลายคนยื่นของให้กับเกิ้ลที่รับไว้พลางก้มหัวขอบคุณ
แก๊งปาร์กัวร์ที่นำทัพโดยหนุ่มขี้แกล้งเดินเข้ามาทักทายอย่างอารมณ์ดี ยืนคุยกันได้สักพักเธอก็ลากเพื่อนร่วมทีมให้มาถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก เคหันหน้ามาถามเธอที่กำลังทอดสายตาไปยังมะขามที่กำลังยืนถ่ายรูปกับแฟนคลับชายอยู่ ทำให้เธอหันกลับมาหาผู้ร่วมสนทนาตรงหน้า
“พรุ่งนี้วิ่งป่ะ? ”
“ถ้าตื่นไหวจะโทรหานะพี่”
“แล้วรอบนี้น้องมะขามมาด้วยมั้ยครับ? ”
เคเลื่อนสายตาไปหามะขามที่เดินกลับมายืนยิ้มอยู่ข้างเกิ้ล
“ไปค่ะ”
“งั้นไว้เจอกันนะ”
“ขอบคุณนะพี่ที่มา”
โบกมือลาแก๊งปาร์กัวร์ยังไม่ทันเสร็จ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ทำให้คนแถวนั้นถึงกับต้องหันไปมองทางต้นเสียง
“พี่เกิ้ลขาาาาาาาาาาา”
“อ้าว! มะเฟือง ไม่ได้เจอกันซะนาน”
ตั้งแต่ที่ มะเฟือง น้องสาวแท้ๆ ของมะขามเป็นเฟรชชี่ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันเหมือนแต่ก่อน เด็กคนนี้ช่างฉอเลาะน่ารักน่าเอ็นดู ขี้อ้อนเป็นที่หนึ่ง เจอหน้ากันทีไรก็พี่เกิ้ลคะ พี่เกิ้ลขา ทำตัวเป็นลูกแมวน้อยคอยอ้อนขอขนมอยู่ตลอดๆ ทำให้เธออดขับรถพาไปกินขนมร้านประจำไม่ได้สักที
มะเฟืองกระโดดกอดเกิ้ลที่กอดตอบเธอด้วยความเอ็นดูจนมะขามถึงกับเบะปากมองบนเพราะหมั่นไส้น้องสาว
“นี่ยัยลูกกรอก พี่แกอยู่ตรงนี้ย่ะ! ”
“ก็เรื่องของพี่ขามดิ”
“นี่ฉันเป็นพี่แกจริงๆ รึเปล่าเนี่ย? ”
มะเฟืองหันไปทำจมูกย่นใส่พี่สาวก่อนจะหันกลับมาอ้อนร่างสูง เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อของเหล่าสูกสาวชื่อผลไม้ดังขึ้น
“มะเฟือง ทำดีๆ สิลูก”
“สวัสดีค่ะคุณอา”
เกิ้ลรีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ทีนี้เป็นฝั่งครอบครัวของเธอเดินเข้ามาบ้าง
“แม่ พี่แกต”
“คุยกับน้องไปก่อนเถอะเกิ้ล”
ว่าแล้วแม่ก็หันไปยืนคุยกับพ่อแม่มะขามเฉยเลย เธอจึงกลับมาจนใจเจ้าเด็กขี้อ้อนที่ยังกอดเธออยู่อีกครั้ง
“พี่เกิ้ลเก่งมากอ่ะ สุดจะแบก”
“พี่กากจะตาย พี่ขามของมะเฟืองต่างหากที่แบกทีม”
“พี่ขามน่ะอ่อนด๋อย”
แล้วมะเฟืองก็โดนพี่สาวเขกกระโหลกไปทีนึง เลยทำหน้ายู่อ้อนหนักกว่าเดิมอีก
“เนี่ยพี่เกิ้ลดูดิ พี่ขามทำร้ายเฟืองอีกแล้ว”
“โอ๋ๆ เดี๋ยวพี่ตีพี่ขามให้นะ แย่จริงๆ เลยเนอะ”
เกิ้ลโอ๋น้องพลางยกยิ้มมุมปากให้เพื่อนตัวเล็กที่ทำตาโตอ้าปากค้างเพราะไม่นึกว่าร่างสูงจะเป็นไปกับน้องด้วย
“งั้นย้ายสำมะโนครัวไปบ้านเกิ้ลเลยนะ”
“ได้เหรอ? ”
มะเฟืองหันไปทำตาวิบวับใส่มะขาม ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างกวนอารมณ์ ปากก็พูดเจื้อยแจ้วออกมา
“แต่ก็คงไม่ได้หรอกเนาะ เพราะพี่ขามน่ะช...อุ๊บ!!! ”
คนตัวเล็กรีบล็อคคอพลางเอามือปิดปากน้องสาวที่ชักจะพูดมากเกินไปแล้ว
“มาถึงก็ดีดเหลือเกินนะ”
“แล้วนี่พวกเด็กๆ จะไปไหนกันต่อมั้ย? ”
แม่ของมะขามหันมาเอ่ยถามทั้งสอง มะขามจึงยิ้มหวานแล้วพูดเสียงใส
“เดี๋ยวไปฉลองกับทีมค่ะคุณแม่”
“คุณแม่ขา เฟืองอยากไปฉลองกับพี่ขามด้วยอ่ะ”
มะเฟืองรีบวิ่งไปเกาะแขนมารดาหวังจะได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่แล้วก็ต้องทำหน้าผิดหวังเมื่อได้ยินในสิ่งที่มารดาของตนเอ่ยออกมา
“ไม่ได้ลูก ให้พี่ๆ เค้าไปฉลองกัน”
“งั้นพ่อกับแม่กลับก่อนนะ”
“อย่ากลับดึกนักล่ะ”
“ได้ค่ะ”
หลังจากโดนฝากฝังให้ดูแลเพื่อนตัวเล็ก เธอก็ยกมือไหว้อำลาพ่อแม่ของมะขามอีกครั้ง กอดเจ้าเด็กน้อยขี้อ้อนอีกสักที ก่อนที่มารดากับพี่ชายของเธอเดินเข้ามาสวมกอดลูกสาว
“แม่ เกิ้ลทำได้”
“แม่ดีใจด้วยนะเกิ้ล”
เธอโอบกอดคนที่เธอเรียกว่าแม่ไว้ น้ำตาที่ตอนแรกเธอสามารถกลั้นเอาไว้ได้กลับไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว แม่ของเธอลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู
“อย่ากลับดึกล่ะ น้าฝากคุมเจ้าเกิ้ลด้วยนะหนูมะขาม”
“ได้เลยค่ะคุณน้า ไม่ต้องห่วง”
ประโยคหลังแม่ของเธอหันไปฝากฝังเธอกับเพื่อนตัวเล็กซะงั้น แถมคุณเธอก็ตกปากรับคำซะด้วยนะ เข้าขากันดีจริงจริ๊ง!
เมื่อเปลี่ยนชุดกันเสร็จเรียบร้อย เกิ้ลก็นัดแนะสถานที่ฉลองกันเป็นร้านชาบูปิ้งย่างแบบพรีเมียม หลังจากจูนโทรจองโต๊ะเรียบร้อยแล้วเธอก็บอกให้บีมกับตองและจูนเดินทางไปที่ร้านก่อน เพราะตัวเธอเองนั้นมีอีกเรื่องที่ต้องสะสาง
“เออๆ รีบตามมานะ”
“ห้ามชิ่งนะพี่เกิ้ล จูนไม่มีตังจ่าย”
“เออรู้แล้วน่า ไปได้ละ”
ร่างสูงโบกมือไล่ตัวป่วนที่หัวเราะร่วนพลางเดินออกจากห้องไป เมื่อประตูถูกปิดลง ความเงียบก็ได้เข้าปกคลุมในห้องทันที
“ไอ้เหนือ…”
“ฉันขอโทษ”
อ้าว...อะไรของมันวะเนี่ย? เกิ้ลขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากที่เหนือยอมขอโทษเธออย่างง่ายๆ ซึ่งผิดวิสัยคนอย่างมันสุดๆ
เธอเคลียร์ปัญหาทั้งหมดอยู่พักใหญ่ จบลงที่เหนือเข้าใจและยอมรับผิดทุกสิ่งอย่าง เธอไม่สนหรอกว่าไอ้เหนือมันยอมเพราะเห็นว่ามะขามเก่งหรือเพราะกลัวโดนเด้งออกจากทีมกันแน่ แต่อย่างน้อยมันบอกจะปรับปรุงตัว ก็ไม่เสียหายที่จะลองให้โอกาสเพื่อนร่วมทีมอีกครั้ง
เหนือเดินแยกไปอีกทางเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า เหลือเพียงเธอกับเพื่อนตัวเล็กที่ยังยืนอยู่ เกิ้ลจึงหันไปยิ้มให้เพื่อนตัวเล็ก
“ขับรถดีๆ นะ”
“เราไม่ได้ขับรถมา”
“อ้าวแล้วเมื่อเช้ามายังไง? ”
“ก็มาพร้อมกับที่บ้านนั่นแหละ”
เธอจึงจับมือนุ่มของมะขามให้เดินไปด้วยกัน “งั้นไปกับเรา”
สองสาวจึงเดินไปที่ลานจอดบิ๊กไบค์ เธอหยิบหมวกกันน็อคออกมาจากเป้พลางเก็บหมวกแก๊ปเข้าไปแทนที่ แล้วยื่นหมวกให้เพื่อนตัวเล็กที่ยกยิ้มพลางรับมาสวม หลังจากเช็คว่าเพื่อนตัวเล็กนั่งกอดเอวเธอได้อย่างปลอดภัยแล้วก็ออกเดินทาง ใช้เวลาไม่นานมากนักก็ถึงร้านชาบู
บรรยากาศภายนอกร้านถูกเซ็ตไว้เพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ ลูกค้าที่รับประทานอาหารจนอิ่มแล้วจึงกระจายตามจุดถ่ายรูปต่างๆ สองสาวก้าวเท้าเดินเข้าไปในร้านที่ถูกแต่งตามสไตล์โมเดิร์นเน้นสีสบายตา พนักงานชายที่ยืนหาวอยู่จึงรีบกุลีกุจอพาไปยังจุดหมายหลังจากที่เกิ้ลบอกเลขโต๊ะไป มีเพียงบีมที่นั่งเล่นมือถือรออยู่ก่อนแล้วเพราะขี่บิ๊กไบค์มาเช่นกัน
สายตาของบีมเลื่อนมาหยุดที่เกิ้ลอย่างจงใจ เธอจึงเปิดโอกาสให้บีมอยู่กับเพื่อนตัวเล็กของเธอตามลำพังตามคำเว้าวอน (ผ่านทางสายตา) ของชายหนุ่ม
“เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
มะขามทำท่าจะเดินตามมาแต่เธอรีบมือยกขึ้นห้ามพลางเอ่ยเสียงนุ่มดักไว้
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวเรากลับไปเอาของที่รถด้วย”
เธอเดินอ้อมไปนั่งไถมือถือเล่นในห้องน้ำสักพักแล้วเดินไปที่รถเพื่อหยิบหมวกแก๊ปของเธอและมะขามในกระเป๋าเก็บหมวกกันน็อค ยืนมองผู้คนที่กำลังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
คงจะคุยกันเสร็จแล้วมั้งป่านนี้ เธอจึงตัดสินใจก้าวเท้าเดินตรงกลับไปที่โต๊ะ แต่แล้วก็เห็นเพียงแค่บีมที่นั่งอยู่คนเดียว ไม่มีแม้แต่เงาของเพื่อนตัวเล็ก
“อ้าวแล้วขามล่ะ? ”
“มะขามไปตามแกไง เห็นไปนาน”
เกิ้ลนั่งลงข้างชายหนุ่มที่ตอนแรกเงยหน้ามาตอบเธอเสร็จก็กลับไปม้วนแผ่นทิชชู่เล่นอย่างเหม่อลอย
“แล้วเป็นไงบ้าง? ”
“มะขามยืนยันเสียงแข็งว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว และไม่ให้โอกาสใครทั้งนั้น”
“เอออย่าคิดมาก”
เธอบีบไหล่ชายหนุ่มที่เพิ่งจะอกหักมาหมาดๆ อย่างปลอบใจ แล้วรีบลุกขึ้นต่อสายหาเพื่อนคนพิเศษแต่ไม่มีใครรับ เท้าก็ก้าวเดินตามหาในห้องน้ำ หน้าร้าน ลานจอดรถแต่ก็ไร้วี่แววจนเกิ้ลเริ่มกังวลว่าเพื่อนตัวเล็กของเธอจะโกรธจนหนีกลับบ้านไปแล้ว แต่แล้วก็เจอมะขามนั่งเล่นมือถืออยู่ที่ชิงช้าในสวนข้างร้าน เธอจึงนั่งยองๆ ข้างเพื่อนตัวเล็กแล้วยิ้มให้ สังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์เรา”
“โทรมาเหรอ? ไม่เห็นขึ้นเลย”
แถได้โคตรไม่เนียนเลยแม่คุณ โทรไปเป็นสิบสายบอกไม่ขึ้นนี่น่าเอาระเบิดไปปาที่ค่ายมือถือแล้วแหละ
“แล้วมานั่งตรงนี้ทำไมหืม? ”
“เกิ้ลไม่ได้ไปเอาของจริงๆ ใช่มั้ย? ”
นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด เพื่อนตัวเล็กกำลังงอนอยู่จริงๆ แต่เตรียมแผนสำรองไว้แล้วแหละ
“....”
“เกิ้ลแค่อยากให้เรากับบีมอยู่ด้วยกันใช่ป่ะ? ”
เธอมองหน้ามะขามที่ตอนนี้หน้าบูดและคิ้วขมวดยุ่ง จึงเอาหมวกแก๊ปที่ถือไว้ในมือมาสวมให้เพื่อนตัวเล็ก
“ก็ลืมหมวกกันทั้งคู่เนี่ย”
“อ้าว…”
สีหน้าของมะขามดูตกใจเล็กน้อย ร่างสูงจึงรีบยกยิ้มให้เพื่อไม่ให้เป็นการผิดสังเกต
“เรากลับไปเอาหมวกมาให้ไง”
“....”
“งอนอะไรหืม? ”
“เปล่า”
ก่อนจะได้ง้อคนตรงหน้าต่อ เสียงมือถือของมะขามดังขึ้น พอรับสายก็ได้ยินเสียงแจ๋นๆ ของตองดังขึ้นทันที
(อยู่ไหนยะหล่อน? แล้วอยู่กับอีเกิ้ลรึเปล่า หายหัวไปทั้งคู่นี่คิดจะชิ่งใช่มั้ยยะ!)
“ใจเย็นตอง ฉันนั่งอยู่ในสวนเนี่ย เดี๋ยวเข้าไป”
นี่ขนาดไม่ได้เปิดลำโพงนะ ยังได้ยินทุกคำพูด สุดจริงเลยเจ๊ตอง!
ทันทีที่สองสาวนั่งลง บรรยากาศของคนร่วมโต๊ะก็ครึกครื้นขึ้นทันตาเห็น ทุกคนสั่งวัตถุดิบตามใจจนแทบจะไม่มีพื้นที่ว่างให้วางของ จูนรับหน้าที่แจกจ่ายเสบียงโดยมีเหนือกับบีมเป็นมือปิ้งคีบเนื้อลงย่างอย่างไม่หยุดพัก รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า ไวน์ เบียร์ หรือโซจูก็มาเสิร์ฟอย่างไม่ขาดสาย
คำเตือน สุราเป็นเหตุทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท อาชญากรรม และทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง
“เออเกิ้ล แกรู้ได้ไงวะว่าศัตรูอยู่ตรงไหนบ้าง? ”
บีมเอ่ยถามถึงเหตุการณ์ในการแข่งด้วยความสงสัย เกิ้ลที่กำลังเคี้ยวเนื้ออยู่จึงดื่มโค้กตาม สายตากวาดมองเพื่อนร่วมทีมที่จ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว มีเพียงแค่เสียงคลอจากดนตรีของทางร้าน ไม่มีใครปริปากพูดขึ้นมาจนกว่าจะได้รับคำตอบของเจ้าตัว เพราะต่างก็สงสัยในเรื่องนี้ไม่แพ้กัน 1:3 เลยนะ ใครๆ ก็คิดว่าชวดเงินรางวัลแปดหลักแล้วแท้ๆ
“ได้ยินเสียงน่ะ”
“เสียง? ” ตองเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ใช่ เหมือนอีกทีมมือไปโดนตัวละครให้ขยับนิดนึงน่ะ”
ตองอ้าปากหวออย่างไม่เชื่อหู เหนือพูดอย่างอึ้งๆ เพราะถ้าเป็นเสียงขยับของตัวละครในเกมมันเทียบเท่ากับเสียงถอนหายใจเบาๆ ด้วยซ้ำ
“โอ้โห ถามจริง? เสียงแค่นั้นน่ะนะ? ”
“อือ แล้วฉันก็เดาตำแหน่งคนอื่นเอาน่ะ โชคดีที่เดาถูก”
กัปตันทีมพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา หากแต่สมาชิกในทีมทุกคนต่างก็ทึ่งในพรสวรรค์ของเกมเมอร์สาวที่อยู่ตรงหน้า
ไขข้อข้องใจในวันนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย ปาร์ตี้จึงดำเนินต่อไปอีกพักใหญ่ เธอเริ่มรู้สึกแน่นท้องขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นผลพวงจากที่กินเนื้อเข้าไปซะเยอะ หรือเพราะดื่มแต่น้ำอัดลมกันแน่
“ไอ้เกิ้ลไม่กินเหล้าเหรอวะ? ”
เหนือเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เห็นกัปตันทีมเอาแต่คีบเนื้อใส่ปาก
“เออ ขี่รถมา”
“แล้วดูยัยคนข้างๆ ซิ มันแคร์อะไรที่ไหน? ”
สิ้นเสียงตอง เธอหันไปมองสำรวจเพื่อนคนพิเศษที่ตอนนี้กระดกไวน์จนหมดแก้ว แอลกอฮอล์ที่คุณเธอเพิ่งดื่มเข้าไปทำให้เลือดในตัวยิ่งสูบฉีดมากขึ้น ส่งผลให้ผิวที่ขาวผ่องของมะขามเริ่มแดงอย่างเห็นได้ชัด จูนมองพี่สาวผมบลอนด์ยกซดประหนึ่งคือน้ำเปล่าหมดไปอีกแก้วจึงเอ่ยเสียงหวาน
“พี่ขาม พอก่อนมั้ย? ”
“ยัยจูน แกบอกให้ยัยมะขามพอแต่แกก็ซดเอาๆ ไม่ต่างกันนะ”
“แหมพี่ตอง จูนวิ่งวุ่นทั้งวันเลยวันนี้”
เกิ้ลยกยิ้มให้จูนที่กำลังรินโซจูใส่แก้วตัวเอง ถ้านับจริงๆ ก็เป็นแก้วที่ 7 แล้ว คอแข็งดีเหมือนกันนะเด็กคนนี้
“ขอบคุณนะจูนที่คอยอำนวยความสะดวกให้ทีมเรา”
“ตบรางวัลให้ผู้จัดการเยอะๆ สิคะคุณกัปตัน”
“ได้คืบจะเอาศอก”
“งั้นให้พี่ขามพาจูนไปช้อปปิ้งก็ได้ ไม่ง้อพี่เกิ้ลหรอก แบร่~”
ไม่พูดเปล่า จูนยกแก้วโซจูไปชนกับมะขามแล้วยกซดกันอีกครั้ง ร่างสูงส่ายหน้าเบาๆ ยอมให้สักวันแล้วกัน
“แกก็กินสิวะไอ้เกิ้ล รถไว้ค่อยมาเอาพรุ่งนี้ก็ได้ มาๆ ”
บีมที่ตอนนี้เมาหน้าแดงไปเป็นที่เรียบร้อยก็รินเหล้าบ๊วยที่ส่งกลิ่นหอมใส่แก้วว่างที่วางอยู่ข้างๆ แล้วส่งให้เกิ้ลที่รับไว้พลางมองน้ำเมาอย่างชั่งใจ
“แท็กซี่ก็มี ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก”
“มาๆ ชนแก้วๆ ”
เหนือยกแก้ว ทุกคนจึงยกแก้วมาชนแล้วดื่มจนหมด ตองที่หันไปเจอมะขามยกไวน์กระดกรวดเดียวหมดแก้วก็ร้องห้ามเสียงหลงด้วยความเป็นห่วง
“เฮ้ยๆ เบาหน่อยนังมะขาม! อีเกิ้ลแกก็ดูมันหน่อยสิวะ!! อย่าให้มันดื่มเยอะ”
“เออๆ ”
“มันไปตายอดตายอยากเหล้าเบียร์มาจากไหนเนี่ย”
เกิ้ลจับมือเพื่อนตัวเล็กที่กำลังจะยกขวดไวน์เชอรี่ซดหลังจากที่เพิ่งดื่มแก้วที่ 4 หมดไป
“พอ ดื่มเยอะแล้ว”
“อีกแก้วนึง”
“แก้วบ้าอะไรล่ะ! นี่มันขวด”
“นะคะ นะๆ ”
ไม่พูดเปล่า คุณเธอส่งสายตาเว้าวอนมาให้ด้วยนี่สิ แบบนี้จะใจแข็งได้อีกสักเท่าไหร่กันไอ้เกิ้ลเอ๊ย
“งั้นเราทิ้งไว้นี่นะ”
“เกิ้ลไม่กล้าหรอก”
มะขามเอามือเกาะแขนแล้วเอนตัวซบคนข้างๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มกลมของเกิ้ลอย่างมันเขี้ยว จูนที่เปลี่ยนมาดื่มเบียร์ช่วยพวกบีมแทนก็ยกแก้วขึ้นดื่ม สายตาทอดมองทั้งสองอย่างเงียบๆ
“เกิ้ลน่ะห่วงเราจะตาย”
“จะไม่เป็นห่วงก็วันนี้แหละ”
เหนือเอาตะเกียบเคาะแก้วเพื่อเรียกความสนใจจากเพื่อนร่วมทีม สะอึกไปทีนึงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงยานๆ ตามแบบฉบับคนเมา
“วันนี้ป๋าเหนือเลี้ยงเอง ในฐานะที่พวกแกทุกคนชนะมา”
“จริงดิป๋า” ตองเกาะแขนเหนือที่ตอนนี้เอามือตบหัวหล่อนแปะๆ ด้วยความเมา
“เออ เผื่อยัยตองมันจะเอาเงินไปอัพซีซีนมอีก”
ประโยคนั้นเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี การสังสรรยังคงดำเนินต่อไปจนได้เวลาร้านปิด สมาชิกในทีมแต่ละคนเดินโซซัดโซเซมายืนโบกแท็กซี่ริมฟุตบาทเพื่อเดินทางกลับบ้าน บีมทำท่าจะเดินกลับไปที่ลานจอดรถแต่ก็ถูกเหนือดึงคอเสื้อลากกลับมา
“แกจะไปไหนไอ้บีม”
“กลับบ้านงาย”
“เมาไม่ขับโว้ย! โน่นแท็กซี่ ไปๆ ฉันไปกับแกเอง”
“แกก็เมาเหมือนกันแหละไอ้เหนือ”
“ไม่ได้มาววว”
เกิ้ลส่ายหน้าเบาๆ ไอ้คนที่บอกไม่เมาเมื่อกี้มันยังเดินสะดุดธรณีประตูล้มหน้าทิ่มอยู่เลย ไม่พอ มันยังก้มลงไหว้ปลกๆ เพราะคิดว่าไปเหยียบเท้าใครเข้า แต่ก็ให้กลับเป็นเพื่อนบีมน่ะดีแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวมันแอบขี่รถกลับบ้านคงจะอันตรายไม่น้อย ดูจากสภาพคงไม่พ้นนอนเล่นในคูน้ำไม่ก็ไปนอนเล่นใต้สิบล้อแน่ๆ
เธอที่ดื่มเข้าไปนิดหน่อยตามแรงยุของเพื่อนยังมีสติดี แต่เพื่อความปลอดภัยก็กลับแท็กซี่เช่นกัน แถมคนที่แม่อุตส่าห์ฝากฝังให้ดูแลเธอตอนนี้เมาหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดือดร้อนเธอต้องพยุงจนแทบจะอุ้มขึ้นแท็กซี่อย่างทุลักทุเล
“เกิ้ลจ๋า วันนี้เค้าขอนอนบ้านเกิ้ลได้ม้าย? ”
ติดตามอ่านตอนล่าสุดได้ที่ ReadAWrite ค่าาาา จิ้มตรงนี้ได้เลยยย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in