pairings : Damon Albarn / Graham Coxon
genre : without touching
This short fiction is inspired by eurus and moriarty scene in bbc sherlock.
เดม่อน อัลบาร์น คือตัวอันตรายต่อสหราชอาณาจักร.
เกรแฮม ค๊อกสัน หนึ่งในเจ้าหน้าที่จากองค์กรหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการจับกุม ' นโปเลียนแห่งโลกอาชญากร ' เข้าไปในเชอร์รินฟอร์ด –เรือนจำที่ห่างไกลจากเกาะอังกฤษ. สำหรับเลียมแล้ว เดม่อน คืออาชญกรผู้ก่ออาชญากรรมเทคโนโลยี โจรกรรม ปล่อยข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐรั่วไหลไปทั้งสหราชอาณาจักร ฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น และอีกหลายสิ่งที่เขาจะไม่อยากเอ่ยถึง เดม่อนเป็นคนฉลาด —ฉลาดจนเป็นภัยต่อความมั่นคง
เกรแฮมเดินทางมาที่เชอร์รินฟอร์ดทุกๆ วันที่ 10 ของทุกๆ เดือน เพื่อมาสอบถามถึงความเป็นไป รวมถึงเรื่องทั่วๆ ไปอย่างที่เดม่อนจะชอบจ้อเป็นประจำ ถึงตัวเกรแฮมเองแม้จะไม่ชอบจ้อเหมือนเดม่อน เขาก็ต้องยอมให้เดม่อนพูดไป แต่การเดินทางวันนี้นับเป็นเหตุจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อผู้คุมคนหนึ่งโดนเดม่อนกัดใบหูของผู้คุมคนนั้นจนขาด พร้อมกับคำกล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มเปื้อนเลือดว่า "ฝากทักทายเกรแฮมด้วยนะ"
เกรแฮมก้าวขาลงจากเฮลิคอปเตอร์เมื่อมันจอดสนิท เขาก้าวเดินไปถึงหน้าประตูเพื่อให้ผู้รักษาความปลอดภัยตรวจสอบร่างกายของเขา ผ่านประตูบานแล้วบานเล่า จนไปถึงภายในตัวอาคาร มีเสียงเพลงเปิดคลออยู่รำไร ไม่ต่างจากเพลงตามห้างสรรพสินค้ายามใกล้จะปิดแล้ว เงียบและน่าอึดอัดจนเกรแฮมไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่นัก
หลังจากที่นั่งลงรอเจ้าหน้าที่เป็นเวลานานพอสมควร เขาแอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่จะได้ไม่ต้องนั่งฟังเสียงเข็มนาฬิกาเดินอีก เจ้าหน้าที่พาเขาไปจนถึงห้องของเดม่อน ที่มีเพียงกระจกนิรภัยเท่านั้นที่กั้นระหว่างตัวเขาและเดม่อน.
เกรแฮมยืนมองเดม่อนที่กำลังนั่งทำอะไรบางอย่าง โดยที่ยังหันหลังให้กับเขาอยู่ เขารู้ในสัญญาณนี้ดี ก่อนจะหันไปบอกให้เจ้าหน้าที่ให้ไปรอข้างนอกเพื่อขอความเป็นส่วนตัว และคำขอนี้มักได้ผลเสมอ เกรแฮมรู้ตัวดีว่ามีกล้องดักจับภาพอยู่ตลอดเวลา
เรือนผมทองของเดม่อนเริ่มจะยาวขึ้นในทุกๆ ครั้งที่ตัวเกรแฮมมาเยี่ยมเยือน เดม่อนค่อยๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะหันมาหาเกรแฮมพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าเพียงเล็กๆ เท่านั้น ทั้งคู่ยืนประชันหน้ากัน โดยมีฝ่ายเดม่อนที่เริ่มเดินเข้ามาใกล้แผ่นกระจกกว้างมาขึ้น จนห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น เกรแฮมล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงของตัวเอง เช่นเดียวกับเดม่อนที่ไขว้มือไว้ด้านหลัง ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่เกินกว่าจะเป็นตำรวจจับผู้ร้าย มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
ไม่ใช่เพื่อน
ไม่ใช่แฟน
ไม่ใช่คนรัก
ญาติโกโหติกา
หรือคนในครอบครัวก็ไม่ใช่
เพียงแค่นัยน์ตาสองประสบกัน มันก็ร้อนรุ่มเสียยิ่งกว่าไฟนรกจะแผดเผา ทั้งสองเริ่มเอียงคอเล็กน้อย เหมือนส่งผ่านจุมพิตอันดูดดื่มประสมความคะนึงหาเท่าที่มี การกระทำที่เร่าร้อน ปราศจากการสัมผัสตัวกัน มันทำให้ใต้จิตของเกรแฮมแทบคลั่ง การเอนเอียงคอที่เล็กน้อยของทั้งคู่ ไม่ต่างอะไรกับการคลอเคลียอย่างเย้ายวนใจ ทั้งคู่หลับตาลงเพื่อรับสัมผัสที่เร่าร้อนผ่านความนึกคิด ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกันเมื่อถึงดั่งฝัน แม้จะเพียงแค่ยืนสบตากัน แต่มันก็ลึกซึ้งมากพอที่จะไม่มีใครในโลกนั้นเข้าใจได้
ทั้งคู่ไม่มีการสนทนาอะไรเลยในตลอดสิบห้านาทีนี้ มีเพียงแต่รอยยิ้มที่ส่งมอบให้กัน ก่อนจะจากลา เกรแฮมรู้ตัวดีว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรต่อเดม่อน อัลบาร์น ผู้ซึ่งเป็นอาชญากรตัวฉกาจในโลกเทคโนโลยี เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตกหลุมพรางไปตอนไหน หรือการสานสัมพันธ์ทางเพศโดยปราศจากการสัมผัสนั้น เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทำไม
แต่เดม่อน อัลบาร์นล่ะ, จะคิดแบบเดียวกับที่เกรแฮมคิดหรือเปล่า? หรือเห็นเขาเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเพื่อเป็นใบเบิกทางที่จะหลบหนีออกจากที่นี่ ถึงจะมีประโยชน์มากก็ตาม แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่มีใครล่วงรู้ความคิดแสนเล่ห์กลของเดม่อน อัลบาร์น ได้ดีเท่าเกรแฮมอีกแล้วล่ะ.
หรือบางที.. เกรแฮมอาจจะคิดไปเองก็ได้.
*/ end.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in