เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นิวยอร์ก 21swichmink
นิวยอร์ก21 - 1 : นิวยอร์ก, นิวยอร์ก

  • "ตื่นเต้นมั้ย จะไปแล้ว"
    "ไม่อะ...ไม่เลยอะ เฉย ๆ"
    "เอ๊า ดีออก" (เพื่อนคงคิดกูมาส่งมันทำไมตอนห้าทุ่ม)



     NY
    คงจะไม่แปลกถ้าใครไปเที่ยวเมืองนี้แล้วเจอร้านขายของฝาก I ♡ NY เต็มเมืองไปหมด เสื้อสกรีน หมวก กางเกง และของจิปาถะอย่างปากกา โปสการ์ด หรือแม็กเน็ตติดตู้เย็น
    .
    ตอนแรกก็คิดอยู่เหมือนกันนะ ถ้าซื้อมาใส่คงฮา ๆ นิดนึง แบบเห้ย ไอเลิ้บนิวหยอกอะ รู้มะ อย่างงี้ จริง ๆ แล้วประโยคนี้ดูเป็นประโยคบอกรักที่พูดขึ้นมาลอย ๆ เฉย ๆ อะว่ามั้ย ดูเป็นอะไรที่ใคร ๆ ก็พูดได้ ไม่ต้องรู้สึกอย่างนั้นก็ได้ ( คิดมากไปปะวะ 555555 ) แต่สุดท้ายเราเองนี่แหละที่อยากพูด พูดได้เต็มปากอย่างไม่เขินอายเสมือนอยู่มาทั้งชีวิต 5555
    .
    .
    .
    ตอนนี้เราเพิ่งกลับมาจากการไปอยู่ที่นั่นมาช่วงนึง (ไปเรียน) เป็นช่วงชีวิตที่ดีมากที่สุด ตอนอยู่ที่นู่นไม่ Home sick เลยแม้แต่นิดเดียว แต่พอกลับมา ดันรู้สึกซะงั้น
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    (เกริ่น)
    นิวยอร์กซิตี้ เป็นส่วนหนึ่งของรัฐนิวยอร์ก ประกอบด้วย 5 boroughs (เขต) คือ แมนฮัตตัน ควีนส์ บรู๊คลิน เดอะบร๊องซ์ และ Staten Island ในความรู้สึกเราแต่ละโบโรต่างกันจนเหมือนอยู่คนละเมืองไปเลย โดยจะมีแมนฮัตตันเป็นเกาะอยู่ตรงกลาง ถ้าตอนเราไม่ได้อยู่ในแมนฮัตตันแล้วมีคนบอกว่าจะไป The city หรือจะไป New York คือเค้าหมายถึง ปะ! ไปแมนฮัตตันกันแก
    .
    .
    .
    ถนนใน Manhattan จะตัดเป็นบล็อคสี่เหลี่ยม ทำให้สะดวกมากในการไปไหนมาไหน ไม่หลงแน่นอน อย่างเช่น ถ้าเราอยากไปตึก Empire State แค่ไปตรงที่ถนน 34th St. ตัดกับ 5th Ave. เงยหน้าขึ้นไปก็จะเจอแล้ว สวยๆปูไปรยา
    .
    .
    นิวยอร์ก สำหรับเราในฐานะของคนที่อยู่ไม่นานมาก เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทุกอย่าง เต็มไปหมด ทุกอย่างนางจะมาแบบสุด มีคนทุกแบบ ทุกวัฒนธรรม มีกิจกรรมทุกอย่าง มีอะไรให้ทำได้ทุกวัน แล้วนี่ active มาก นับวันที่อยู่บ้านเฉย ๆ ได้เลย 555 ถ้าวันไหนไม่มีแพลนอะไร ขอให้ได้เดินออกจากอพาร์ตเมนต์ไปที่ใหม่ ๆ หน่อยก็ยังดี 5555 บางทีไม่มีใครไปด้วยหรอ No problem เอ้อไปคนเดียวนี่แหละ
    .
    .
    และด้วยความที่มันเป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง รวมถึงคนที่นี่ด้วย เราสามารถเจอคนจากเกือบทุกมุมโลกได้ที่นี่ ซึ่งหมายถึงเราจะเจอความแปลกของแต่ละวัฒนธรรมได้ที่นี่เช่นกัน ช่วงแรกมีคนเตือนเรานู่นนี่ไปหมด ระวังนะ อย่านะ จนกลายเป็นว่าเราระแวงไปเลย ( คือจริง ๆ แล้วแค่ระวังก็พอ เราไม่รู้ว่าเค้าเป็นใครมาจากไหนก็ต้องระวังไว้ก่อนเป็นธรรมดา ไม่ต้องถึงกับต้องระแวงหรอก เดี๋ยวเป็นบ้า 555 )



    ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่ ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนมากมายพยายามเข้ามาแสวงหาโอกาส ซึ่งก็มีทั้งคนที่ได้รับโอกาสและคนที่พลาด เราสามารถเจอโฮมเลสหรือคนแปลก ๆ ได้ทั่วไปทุกที่ และหากเทียบกับเมืองอื่นแล้ว ด้วยความที่ไลฟ์สไตล์ของคนที่นี่จะค่อนข้างรีบ เลยอาจจะดูก้าวร้าว Aggressive กว่าคนเมืองอื่นไปบ้าง แต่เมืองนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด อยู่ ๆ ไปก็เริ่มชินเอง 5555 (เอ๊ะหรือเราก็แปลก) บางทีก็รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วที่นี่ดันปลอดภัยกว่าที่อื่น ๆ ซะอีก คนที่นี่จริง ๆ น่ารักมาก เราสามารถชมคนที่เดินสวนกันได้อย่างไม่เคอะเขิน ( แต่เค้าจะตอบมั้ยก็อีกเรื่อง 55555 ) คนส่วนใหญ่ค่อนข้าง Friendly ตามสไตล์อเมริกันชนบรื้นๆ จากที่ปกติเราเป็นคนไม่ค่อยคุยกับคนอื่นก่อน กลับกลายเป็นว่าเราดันเม้ามอยกับลุงคนแขกที่ร้านโชห่วยปากซอยไปได้ทุกครั้งซะงั้น
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    สาเหตุที่เราเลือกมาที่นี่มีหลายอย่างประกอบกัน เราชอบ City life มาก ๆ ชอบความสะดวกรวดเร็ว และความรวบรัดไม่ต้องอะไรมาก อะไรที่ไม่ต้องพยายามแต่ดันมีสเน่ห์ในแบบของมัน และนิวยอร์กนี่แหละคือที่ที่นั้น แต่หนึ่งในหลายสิ่งนั้นที่ Impact เรามาก คือประโยคนึงของรุ่นพี่ที่เคยมาที่นี่ เค้าเล่าให้ฟังว่า ในวันสุดท้ายที่นิวยอร์ก เค้าเรียกแท็กซี่ไปสนามบินในตอนเย็น พระอาทิตย์กำลังตกลงไปในป่าคอนกรีต คุณลุงคนขับบอกกับพี่เค้า พร้อมชี้ไปนอกหน้าต่าง
    "You see?"
    "New York City is not America, it is the world."




    ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้ได้มีโอกาสไป ขอบคุณตัวเองในวันนั้น ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านหนังสือ ตั้งใจสอบ ขอบคุณครอบครัวที่สนับสนุน ขอบคุณทุกอย่างเลย ขอบคุณชีวิตหรืออะไรก็ตามด้วยที่พาเราไป คือดูยิ่งใหญ่มาก แต่เรารู้สึกขอบคุณจริง ๆ นะ TT

    ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่น ไม่เคยมีวันไหนเลยที่รู้สึกแย่ เป็นช่วงชีวิตที่ได้มีความสุขทุกวันจริง ๆ ได้มุมมองชีวิตใหม่ ๆ จากคนในสังคมใหม่ที่ต่างจากสังคมที่เคยอยู่มา ได้เห็นความคิดที่แตกต่าง จนรู้สึกว่า คนส่วนใหญ่ในสังคมของเรา เค้าพยายาม Reach สิ่งที่สังคมระบุไว้ว่าดี ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีความสุขขนาดนั้นกันไปทำไม เราแค่ทำในสิ่งที่เรามีความสุขและสู้เพื่อมันในทางของเราก็พอ แค่ไม่รุกล้ำ Space ของคนอื่นก็พอ ไม่เห็นต้องกลัวคนมองเราว่ายังไงเลย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ไม่รู้ว่าหลาย ๆ คนเป็นเหมือนกันมั้ย บางครั้งเวลามีเหตุการณ์แม้เพียงเล็ก ๆ แต่ดัน Impress เรามาก ภาพและเสียงของมันจะติดแน่นในความทรงจำเราไปเลย เหมือนชีวิตมีอัลบั้ม My Favorite Life Scenes อยู่ในหัว เอามาเปิดดูกี่ครั้งก็ยังคงทำให้เราประทับใจอยู่ทุกครั้ง ในสายตาเรานิวยอร์กยังมีสเน่ห์และสวยมากในแบบของมันอยู่เสมอ 

    เรายังคงจำวันนึงได้ ตอนดึกของคืนนั้น เรากับพ่อนั่งอยู่ในรถของคุณลุง พวกเรากำลังกลับจากการไปทานอาหารเย็นในย่านควีนส์ ตอนนั้นดึกมากแล้ว เรานั่งมองออกไปข้างทางอย่างลอย ๆ 
    อยู่ ๆ ขณะคุณลุงขับรถข้ามแม่น้ำเพื่อกลับไปยังเกาะแมนฮัตตัน ลุงก็เรียกเราและพูดขึ้นมาให้มองไปข้างหน้า
    "มิ้ง"
    "ดูสิ..นั่นนิวยอร์ก สวยมั้ย ?"

    เรามองไปข้างหน้า ภาพที่เห็นตอนนั้น ความรู้สึกตอนนั้น เกาะแมนฮัตตันที่อยู่ข้างหน้า เต็มไปด้วยตึกสูงและแสงไฟ แสงสะท้อนของแสงไฟบนแม่น้ำรอบเกาะ ภาพทุกอย่างที่เคลื่อนที่เข้าใกล้เรื่อย ๆ ตามการวิ่งของรถ มัน Impress เรามากจริง ๆ 

    จริง ๆ แล้วเราอาจหาโอกาสเห็นภาพเมืองใหญ่ ๆ ตอนกลางคืนจากการไปเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สิ่งที่ต่างกันกับครั้งนี้คือความรู้สึก ตอนนั้นแหละคือจุดเริ่มต้นที่เรารู้สึกว่า อืม..
    .
    I ♡ NY!




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in