แล้วฝนก็ตกลงมาจริงๆ....
หญิงสาวสูดควันเข้าไปแล้วพ่นมันออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบี้บุหรี่ในมือทิ้งลง สายตามองไปยังสายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกลงมาเสียที บรรยากาศแสนอึมครึมไร้แสงแดดสาดส่องในวันที่ฝนตกทำให้อะไรหลายๆอย่างดูจะเหงาหงอยไปหมด ที่บอกว่าสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนไปในแต่ล่ะวันจะส่งผลไปถึงจิตใจของมนุษย์ให้เปลี่ยนตามไปด้วยนั่นน่าจะเป็นเรื่องจริงสินะ เพราะตอนนี้ชิราอิชิเองก็รู้สึกว่าจิตใจของเธอกำลังเหี่ยวเฉามากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเอาแต่มองฝนที่ตกอยู่ข้างนอกนั่น
"ไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่จริงๆ" เสียงคุ้นเคยเอ่ยทักขึ้น ชิราอิชิหันไปมองสาวสวยผมประบ่าอีกคนที่พิงตัวกอดอกอยู่ตรงผนังพร้อมมองมาด้วยสายตานิ่งเรียบ
"มีอะไรรึเปล่า ?"ถามออกไปก่อนจะจ้องหน้าฮาชิโมโตะ นานามิ เพื่อนที่รู้จักตั้งแต่สมัยเรียนที่ใครต่อใครคิดว่าเจ้าตัวเป็นคนเข้าถึงยาก แต่สำหรับชิราอิชิแล้ว ฮาชิโมโตะเป็นเพื่อนที่พึ่งพาและไว้ใจได้เสมอ
"เห็นคนนินทากันใหญ่เลยว่าชิราอิชิซังคนสวยเพิ่งถูกทิ้งมาน่ะ เลยมาดูว่าจริงรึเปล่า" น้ำเสียงล้อเลียนออกมาจากปากฮาชิโมโตะ ไอที่ว่าถูกทิ้งนั่นก็คงจะจริงล่ะมั้ง ก็เพิ่งจะโดนเด็กตัวแสบทิ้งให้ยืนงงอยู่คนเดียวตั้งนานนี่นะ นึกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมาทุกที จู่ๆก็มาทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ก่อนจะชิ่งหนีไปเฉยเลย "ทำหน้าแบบนั้นเนี่ยสงสัยจะเป็นความจริงสินะ"
"จะไปจริงได้ยังไงเล่า" ฮาชิโมโตะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าเธอรีบปฏิเสธด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
"งั้นก็คงเป็นเรื่องที่ยากน่าดูเลยนะ ไมยังถึงได้ยอมกลับมาสูบบุหรี่น่ะ" ฮาชิโมโตะลอบมองใบหน้าของเพื่อนสนิทตัวเอง บางทีเธออาจจะมองเห็นถึงความความสับสนที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวของชิราอิชิแล้วก็ได้
"เปล่า..ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก"
สมัยก่อนชิราอิชิเป็นคนติดบุหรี่ และมักจะสูบเป็นประจำเมื่อมีเรื่องให้คิดหรือเวลาที่รู้สึกเครียด ก่อนจะตัดสินใจลาขาดจากมันจนกระทั่งวันนี้ เธอกำลังคิดไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไรกับหญิงสาวอายุน้อยกว่าที่มาปั่นป่วนใจของเธออยู่ขณะนี้
เธอชอบนิชิโนะ
นั่นเป็นสิ่งที่ชิราอิชิไม่เคยโกหก แต่ดูเหมือนว่า คำว่าชอบของชิราอิชิกับคำว่าชอบของนิชิโนะนั้นจะมีความหมายแตกต่างกันอยู่ เธอรู้สึกว่านิชิโนะเป็นผู้หญิงที่น่าคบหาแต่ก็ไม่เคยมองอีกฝ่ายในมุมแบบนั้นเลยสักครั้ง ไม่อยากแกล้งแสดงอะไรครึ่งๆกลางๆออกไปให้นิชิโนะรู้สึกโกรธเคืองเสียด้วย แถมยังไม่ชอบความรู้สึกค้างคาที่ทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ชิราอิชิกลัวที่สุดก็คือ การที่ต้องปล่อยให้นิชิโนะกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอไป
"จะว่าไปแล้วพวกเราก็ไม่ได้ไปดื่มด้วยกันนานแล้วนี่" จู่ๆฮาชิโมโตะก็เปลี่ยนเรื่องเรียกสติชิราอิชิให้กลับมา เธอเลิกพิงกำแพงก้มดูนาฬิกาข้อมือแล้วพูดออกมา "วันนี้พอจะมีเวลาให้เพื่อนสนิทคนนี้บ้างรึยัง ?"
"ขอคิดดูก่อนนะ"
"ดูเหมือนว่าจะไม่ได้น่ะสิ นัดมิสะไปแล้ว" เธอกำลังพูดถึงเอโต้ มิสะ เพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้ทำงานอยู่ที่เดียวกับพวกเธอ
"ก็ไปสองคนซะสิ"
"ก็นัดเลี้ยงฉลองที่ไมยังอกหักนี่นะ แล้วเธอจะไม่ไปได้ไงเล่า" ฮาชิโมโตะพูดออกมาหน้าตายราวกับเป็นเรื่องปกติ
"นี่พวกหล่อนฉลองตอนเพื่อนอกหักเหรอยะ..."
"เอาหน่า ไม่ได้อกหักจริงๆสักหน่อย เจอกันตอนเลิกงานนะชิราอิชิซัง" ฮาชิโมโตะพูดรวบรัดไม่ยอมให้ชิราอิชิพูดแทรกขึ้นมาก่อนจะอ้างว่าใกล้จะหมดเวลาพักแล้วขอกลับไปทำงานก่อน
"เป็นห่วงก็บอกว่าเป็นห่วงสิ" เธอส่ายหน้ากับความปากแข็งเพื่อนสนิทตัวเอง ฮาชิโมโตะก็เป็นคนแบบนั้นแหละ
เอาเถอะ..อย่างน้อยเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดี ชิราอิชิคิดก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความ4-5ฉบับที่ยังไม่มีการตอบกลับมาจากอีกฝั่งแล้วบ่นพึมพำออกมา
"เป็นเด็กที่นิสัยเสียจริงๆเลยน้า"
.
.
ฝนที่ยังตกอยู่แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมาถึงตอนกลางคืน นิชิโนะกำร่มคันใสที่ใช้เป็นสิ่งกันบังเพื่อไม่ให้ตัวเองเปียกไว้แน่น มืออีกข้างถือถุงที่ใส่สลัดและข้าวปั้นเอาไว้ ข้าวเย็นในช่วงนี้ของเธอมักจะเป็นของที่หาง่ายๆจากร้านสะดวกซื้อ เพราะถ้ารู้สึกกลืนเข้าไปไม่ลงเมื่อไรก็ทิ้งได้อย่างไม่รู้สึกเสียดายอะไรมากล่ะมั้ง
หญิงสาวยืนรอสัญญาณไฟข้ามถนนอย่างเหม่อลอยก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนคุ้นตาที่พยายามจะหลบหน้าอยู่ในช่วงนี้
'นิชิโนะซัง'
อ่านเอาจากปากของอีกฝ่ายที่อยู่ฟากตรงข้ามได้แบบนี้ก่อนสองเท้าจะก้าวเดินหนีอย่างฉับไวโดยไม่ต้องคิด "เป็นคนที่บังเอิญเจอได้ตามสี่แยกไฟแดงหรือไงกันนะ"
"เอ๊ะ...!!"
ชิราอิชิอุทานออกเมื่อเห็นอีกคนกำลังเดินหนีไปอีกแล้ว จ้องสัญญาณไฟอย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนจะรีบข้ามเพื่อนตามอีกคนไปอย่างไว คราวนี้ไม่ยอมให้หนีไปไหนแล้ว
"นิชิโนะซัง !" ลงทุนยอมหุบร่มวิ่งตามอีกฝ่ายเพื่อที่จะได้ตามให้ทันแต่ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยสักนิด "นี่ !! อย่าหนีสิ"
"คุณเองก็อย่าตามมาสิคะ!"
กลายเป็นภาพผู้หญิงสองคนวิ่งไล่จับกันกลางสายฝน โชคดีที่มันค่อนข้างจะดึกแล้วบวกกับฝนที่ยังตกลงมาเลยทำให้ไม่มีคนมากนัก นิชิโนะมองไล่หลังก็ยังเห็นอีกฝ่ายพยายามตามมาในสภาพเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนก่อนจะตะโกนไปอีกรอบ
"ยอมแพ้เถอะค่ะ!"
"แบบนั้นเธอก็หนีไปอีกน่ะสิ"
ชิราอิชิไล่ตามนิชิโนะมาติดๆ ถือว่าเป็นโชคดีที่สมัยเรียนเธอเล่นกีฬาหรือเพราะนิชิโนะวิ่งช้าก็ไม่รู้จึงทำให้เธอไล่ตามนิชิโนะได้ทันจนสามารถคว้าแขนของนิชิโนะไว้แน่นก่อนจะหายใจหอบด้วยความเหนื่อยล้า ไม่ใช่วัยที่จะมาวิ่งไล่ใครแบบนี้แล้วน่ะสิ นิชิโนะเองก็เช่นกัน พวกเราพักหายใจกันอยู่สักพักก่อนที่ชิราอิชิจะพูดออกมา "คือว่า...เรื่องวันนั้น--"
"วันนั้นฉันคงเมามากไปหน่อย ช่วยลืมมันไปเถอะค่ะ" นิชิโนะพูดก่อนเบี่ยงหน้าหลบไปทางอื่น
"...ร้องไห้เหรอคะ ?"
"ไม่ได้ร้องค่ะ"
"แต่ตาเธอ.."
"ก็บอกว่าไม่ได้ร้องไงเล่า" พูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ยิ้มออกมาด้วยความสมเพชตัวเองก่อนจะพูดกับอีกฝ่าย "ฉันคงดูตลกมากสินะคะ"
"เปล่าค่ะ..คือ..." ชิราอิชิอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก น้ำตาของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เธอกลืนคำพูดที่คิดเอาไว้ลงคอไปหมด
ภายในหัวเอาแต่คิดว่านิชิโนะในตอนนี้ช่างดูน่าปกป้องจนอยากจะคว้าร่างกายบอบบางนั่นเข้ามากอดปลอบเสียเหลือเกิน
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ปล่อยฉันเถอะค่ะ"
"เอ๊ะ—บ้านของนิชิโนะซังอยู่แถวนี้เหรอคะ"
"ใครจะไปบอกกันล่ะ"
"แต่ฉันเปียกหมดแล้วนะคะ" ชิราอิชิว่าพลางปล่อยมือออกจากแขนของนิชิโนะให้เป็นอิสระก่อนจะส่งยิ้มเจื่อนมาให้นิชิโนะเพื่อขอความเห็นใจ เอาแต่คิดว่าจะต้องตามเธอให้ทันจนมารู้สึกตัวเข้าทีหลังว่าทั้งผมและเสื้อผ้าต่างเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนหมดแล้ว
"เรื่องของคุณสิ" นิชิโนะพูดก่อนกรอกตาไปมา สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาพร้อมส่งสายตามองค้อนไปให้คนอายุมากกว่า "คุณนี่มัน—"
.
.
"เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้วค่ะ" นิชิโนะมองดูชิราอิชิในชุดของเธอที่กำลังเป่าผมให้แห้งอยู่ตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น
"แล้วเสื้อผ้าจะให้คืนตอนไหนคะ ?"
"ทิ้งไปได้เลยค่ะ ฉันคงไม่ไปเจอคุณอีกแล้ว"
ชิราอิชิวางไดร์เป่าผมลง เธอลุกขึ้นเดินไปหานิชิโนะที่อยู่ตรงห้องครัว สบตากับคนอายุน้อยกว่าก่อนจะถามออกไปเสียงเรียบ
"ที่บอกว่าชอบฉันน่ะ...เป็นเรื่องโกหกเหรอคะ ?"
"...."
"ตอบสิคะ" ชิราอิชิเค้นเสียงถามคนที่ก้มหน้าไม่ยอมพูดอะไร "นิชิโนะซัง"
"ค่ะ ฉันโกหก"
นิชิโนะแสร้งปั้นหน้ายิ้มเงยหน้าตอบอีกคน หัวใจของเธอกำลังบีบรัดไปด้วยความเจ็บปวดจากคำถามคาดคั้นของอีกฝ่าย
นิชิโนะเกลียดตัวเองที่โกหกไม่เก่ง
เกลียดชิราอิชิที่มองออกทุกอย่าง
เกลียดตัวเองที่กำลังปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
เกลียดชิราอิชิที่กำลังลูบหัวปลอบโยนเธอในตอนนี้
และเกลียดตัวเองที่โอนเอนไปกับสัมผัสของอีกฝ่ายแบบนี้ด้วย
"ฉันคิดมาสักพักแล้ว...นิชิโนะซังนี่น่ากอดจังเลยนะคะ"
"อย่ามาล้อ--"
"ขอกอดได้ไหมคะ ?"
"...."
"จะถือว่าอนุญาตนะคะ"
พอพูดจบชิราอิชิก็เดินเข้าประชิดตัวนิชิโนะก่อนจะค่อยๆสวมกอด คนร่างบอบบางดูคล้ายกับจะจมหายไปในอ้อมกอดของเธอ พอได้ยินเสียงสะอื้นที่ดังออกมาจากคนอายุน้อยกว่าก็เผลอกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิมพร้อมกับลูบหลังอีกคนไปด้วย ไม่ได้อยากทำให้เด็กคนนี้ร้องไห้เสียหน่อยแต่ดูเหมือนว่าชิราอิชิจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอร้องหนักขึ้นกว่าเดิม
"ฉันเอง..ก็อยากจะตอบรับความรู้สึกของนิชิโนะซังนะคะ"
"..ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยค่ะ.." น้ำเสียงอู้อี้ปนเสียงสะอื้นภายในวงแขนแย้งขึ้นมาจนทำให้ชิราอิชิหัวเราะออกมา
"นั่นสินะ...." ชิราอิชิพูดขึ้นมาโดยที่ยังกอดนิชิโนะเอาไว้อย่างนั้น คราวมือของเธอเปลี่ยนไปลูบหัวของนิชิโนะแทนก็จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยทำให้ฉันชอบนิชิโนะซังได้ไหมคะ...เพราะฉันเองก็รู้สึกอยากชอบนิชิโนะซังจะแย่แล้ว"
คำพูดของชิราอิชิกำลังทำให้นิชิโนะกลายเป็นคนโง่ เธอคงจะถูกน้ำเสียงอ่อนโยนนั้นหลอกเข้าเต็มๆ ไม่รู้ว่าคนใจดีแบบชิราอิชิจะพูดแบบนั้นเพื่อต้องการปลอบใจเธอ หรือจะแสร้งว่าเข้าใจความรู้สึกของเธอดี หรือกำลังปั่นหัวเธอด้วยความสนุกสนานอยู่รึเปล่า แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังอยากจะเชื่อว่าชิราอิชิคงจะชอบเธอเข้าสักวัน
"งั้นก็ช่วยเร็วๆด้วยนะคะ เพราะความอดทนของฉันก็มีไม่สูงเหมือนกัน"
...เพราะความรักที่มันท่วมท้นอยู่นี้เธอคงจะทนได้ไม่นานเท่าไรนัก...
________________________________________________________________________________________
ชอบบรรยากาศเรื่องนี้มากๆเลย