Cambodia Landmine Museum
แต่ก่อนที่จะไปเที่ยวชมปราสาทหินนั้น เราก็แวะมาเดินชมพิพิธภัณฑ์กันก่อนค่ะ ซึ่งวันนี้เรามากันที่ พิพิธภัณฑ์กับระเบิด Cambodia Landmine Museum ที่ก่อตั้งโดย คุณอากิระ อดีตทหารผ่านศึกที่ร่วมสู้รบอยู่ในยุคสงครามเวียดนาม-เขมรแดงค่ะ
Kodak Color Max 400
เข้ามาแล้วอย่าลืมหยิบ audio guide มาฟังกันด้วยนะคะ ดีมาก
คุณอากิระเป็นหนึ่งในเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ถูกเขมรแดงสังหาร ตัวเขาและเด็กคนอื่น ๆ ถูกกวาดต้อนให้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารเขมรแดง ถูกสอนให้จับอาวุธ และกลายมาเป็นกลุ่มทหารเด็กเมื่ออายุถึงเกณฑ์ที่พอจะใช้แรงงานได้
เมื่อเขมรแดงสู้กับกองกำลังของเวียดนามที่พยายามจะช่วงชิงอำนาจและขยายพื้นที่การทำสงครามในช่วงที่สงครามเวียดนามกำลังร้อนระอุ เขาถูกจับเป็นเชลยและกลายเป็นหนึ่งในทหารของเวียดนาม และต่อมาก็ได้เข้าร่วมกับกลุ่มทหารติดอาวุธของกองกำลังรัฐบาลใหม่ที่พยายามต่อสู้กับกลุ่มเขมรแดง ซึ่งงานหลักของเขาในช่วงที่เป็นทหารนั้นคือการวางกับระเบิดในพื้นที่ชายแดนของประเทศกัมพูชาส่วนที่ติดต่อกับประเทศไทยค่ะ เขาบอกว่าจำนวนกับระเบิดที่เขาวางไว้นั้นมีมากกว่าหนึ่งพันชุดเลยทีเดียว
Kodak Color Max 400
เมื่อความสงบกลับคืนสู่ประเทศกัมพูชา คุณอากิระนั้นก็ได้เข้าร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็น ในการทำหน้าที่ทำลายกับระเบิดค่ะ และก็ยังคงทำหน้าที่เก็บกู้ระเบิดไปเรื่อย ๆ ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในชนบทหลังจากที่ยูเอ็นได้ถอนกำลังออกจากประเทศไปแล้ว พร้อมกับเก็บซากระเบิดมาขายเพื่อเป็นทุนในการทำงานเก็บกู้ระเบิดนี้ต่อไป จนต่อมาก็ได้รวบรวบและตัดสินใจเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์
เมื่อเขาได้ข่าวว่ามีเหตุระเบิดที่ใด หรือมีชาวบ้านมาแจ้งว่าพบกับระเบิด เขาก็จะรีบไปช่วยทันที นอกจากนี้ยังก่อตั้งกลุ่ม Mine Risk Education Group ขึ้นเพื่อสอนประชาชนชาวบ้านเกี่ยวกับอันตรายจากระเบิดต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ
Kodak Color Max 400
ระหว่างที่คุณอากิระทำงานเก็บกู้ระเบิดตามชนบทนั้น เขาก็ได้พบกับเด็ก ๆ จำนวนมากที่พิการ บาดเจ็บ หรือถูกทอดทิ้งเนื่องจากตัวเองหรือพ่อแม่ไปโดนระเบิดเข้า เขาก็พาเด็ก ๆ เหล่านั้นกลับมาด้วยกันเพื่อรับการรักษา โดยมีภรรยาของเขาเป็นคนดูแลและส่งเสียให้ได้เข้าโรงเรียนด้วยเงินบริจาคที่ได้รับจากการเปิดพิพิธภัณฑ์นี่แหละค่ะ
ปัจจุบันนี้ นอกจากเด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดแล้ว ก็ยังมีเด็ก ๆ ที่พิการโดยกำเนิด ป่วยเป็นโรคโปลิโอ หรือติดเชื้อ HIV แล้วถูกทอดทิ้งมาอยู่ในความดูแลของทางพิพิธภัณฑ์ (ที่ตอนนี้ก็เป็นมูลนิธิแบบกลาย ๆ ไปด้วย)
สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดเป็นจำนวน 540,000 ตันลงในประเทศกัมพูชาในระหว่างช่วงสงครามเวียดนาม
ทำให้ประชาชนมากกว่า 600,000 คนต้องเสียชีวิต
และนี่คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้กลุ่มเขมรแดงลุกฮือขึ้นมาเรืองอำนาจ
เพราะต้องการที่จะต่อต้านอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจ
ปัจจุบันนี้ยังมีกับระเบิดหลงเหลืออยู่บ้างในทางตอนตะวันตกเหนือของกัมพูชาค่ะ
และมีข้อเข้าใจผิดเกี่ยวกับกับระเบิดที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ
นั่นคือเวลาเราเหยียบแล้วมันจะไม่มีเสียงคลิกเตือนนะเออ
ฉะนั้นชีวิตจริงไม่มีซีนพระเอกว่าข้าจะยอมตาย พวกเอ็งจงหนีไปแบบในหนัง
เหยียบปุ๊บระเบิดปั๊บไปเลยจ้ะ
Not All Heroes Wear Capes
สุดท้ายนี้ สงครามไม่เคยสร้างสันติภาพ ไม่เคยทิ้งอะไรไว้ให้นอกจากความสูญเสีย สิ้นหวัง และการพลัดพราก แต่ในวันที่ทุกอย่างมืดมัว เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรอยน้ำตา สิ่งที่คุณอากิระพยายามทำอยู่ในทุกวันนี้คือการจุดประกายความหวังในใจของผู้คน เป็นความพยายามที่จะเยียวยาความเจ็บปวดบอบช้ำของอดีตสมรภูมิรบที่ยังคงทิ้งร่องรอยบาดแผลและความเสียหายไว้ ทั้งในแง่ของพื้นที่เสี่ยงภัย และภายในจิตใจของชาวกัมพูชาทุกคน
ปิดท้ายด้วยเจ้าสองตัวนี้ ฮิฮิ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in